บัวแก้วช็อก มะเร็งไขกระดูกคร่าชีวิต “ทูตแสบ” วีรชัย พลาศรัย อดีตหัวหน้าทีมต่อสู้คดีเขาพระวิหาร ไทย-กัมพูชา เสียชีวิตในวัย 58 ปี หลังเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลประเทศสหรัฐฯ มาตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. ข้าราชการ-ลูกน้อง-เพื่อนร่ำไห้สิ้นยอดข้าราชการฝีมือดี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเผยเป็นการสูญเสียทรัพยากรบุคคลครั้งใหญ่ของกระทรวง อดีตรองปลัดฯบอกเสียดายคนดีมีฝีมือ เผย “ทูตแสบ” รู้ตัวเป็นโรคเอ็มดีเอส รักษาตัวแบบเงียบๆไม่บอกใครประเทศไทยต้องสูญเสียนักการทูตฝีมือดี นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา อดีตหัวหน้าทีมต่อสู้คดีข้อ พิพาทปราสาทพระวิหารไทย-กัมพูชา ที่เสียชีวิตในวัย 58 ปี เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยโรคเอ็มดีเอสน.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีข่าวการเสียชีวิตของนายวีรชัยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตันว่า ท่านทูตวีรชัยได้ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 16 มี.ค. เวลา 00.43 น. ตามเวลาในสหรัฐฯที่โรงพยาบาลจอห์น ฮอปกินส์ เมดิซิน ที่เมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ หลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตต้องรอผลการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการจากโรงพยาบาลต่อไปน.ส.บุษฎีกล่าวว่า การเสียชีวิตของท่านทูตวีรชัยถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องจากนายวีรชัยเป็นนักการทูตที่เป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งเรื่องความรู้ความสามารถด้านกฎหมายระหว่างประเทศ และการเจรจาในเวทีระหว่างประเทศ อีกทั้งยังมีผลงานสำคัญเป็นที่ยอมรับจากข้าราชการกระทรวง และประชาชนคนไทยจากการทำหน้าที่ตัวแทนไทยในการสู้คดีปราสาทพระวิหาร โดยได้อุทิศตนทำงานเพื่อประเทศชาติมาตลอดชีวิตราชการ ส่วนการประกอบพิธีศพนั้นขณะนี้ไม่ทราบรายละเอียด เพราะยังถือเป็นเรื่องภายในครอบครัวทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า นายวีรชัยเสียชีวิตด้วยโรคเอ็มดีเอสหรือมะเร็งชนิดหนึ่งที่เป็นกลุ่มอาการผิดปกติของเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในไขสันหลัง ในวัย 58 ปี หลังจากที่ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนและลูกน้องที่ใกล้ชิดนายวีรชัยทราบข่าวดังกล่าวต่างพากันร้องไห้ต่อการสูญเสียครั้งนี้ เนื่องจากนายวีรชัยเป็นทรัพยากรบุคคลที่ทรงคุณค่า เป็นข้าราชการระดับหัวกะทิกระทรวงการต่างประเทศและประเทศไทย เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศนายณัฐวุฒิ โพธิสาโร อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า แทบช็อกหลังทราบข่าวการเสียชีวิตของนายวีรชัย เพราะสนิทกันมาก โดยเฉพาะช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในคดีปราสาทพระวิหาร สมัยที่นายวีรชัยเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ การเสียชีวิตของนายวีรชัยเป็นการสูญเสียบุคลากรสำคัญที่เก่งคนหนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศ รู้สึกเสียดายคนเก่งคนดี ที่ติดต่อกันมาตลอด เมื่อต้นเดือนก็ติดต่อกัน นายวีรชัยบอกว่า โชคร้ายที่เป็นเอ็มดีเอส แต่ไม่บอกใครทั่วไป รักษาตัวเงียบๆจนมาทราบข่าวการเสียชีวิต รู้สึกช็อกไม่คิดว่าจะจากพวกเราเร็วไปประวัติของนายวีรชัย มีชื่อเล่นว่า “แสบ” ทำให้เรียกกันติดปากว่า “ทูตแสบ” เกิดเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2503 จบปริญญาตรีและปริญญาโท มหาวิทยาลัยปารีส (นองแตร์) และปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ ฝรั่งเศส เป็นข้าราชการลูกหม้อกระทรวงการต่างประเทศ เริ่มรับราชการในตำแหน่งเลขานุการตรี กองแอฟริกา และกลุ่มอาหรับ เติบโตจากกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ก่อนย้ายไปเป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2550 จากนั้นวันที่ 6 พ.ค.2552 เข้าดำรงตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก และเป็นหัวหน้าทีมสู้คดีปราสาทพระวิหาร และย้ายไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ตามลำดับผลงานที่สร้างชื่อเสียงของนายวีรชัยให้เป็นที่รู้จักของคนไทยทั่วประเทศคือ การเป็นหัวหน้าทีมต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารที่เป็นประเด็นข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา มายาวนาน โดยขณะที่นายวีรชัยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้เป็นหัวหน้าทีมกฎหมายฝ่ายไทยต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร ขึ้นแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลก ทำให้ศาลโลกมีคำตัดสินไม่ให้กัมพูชาได้พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร หรือบริเวณ “ภูมะเขือ” โดยศาลแนะนำให้ทั้งฝ่ายร่วมมือกันในฐานะเป็นมรดกโลก ถือเป็นการปิดฉากคดีปราสาทพระวิหารที่ทั้งสองประเทศมีประเด็นพิพาทยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2505 ทำให้นายวีรชัยได้รับเสียงชื่นชมจากการทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ สามารถครองใจคนไทยทั่วประเทศ นอกจากนี้ นายวีรชัยยังมีความชื่นชอบ และมีความสามารถด้านดนตรี เป็นหัวหน้าวงดนตรี “สราญรมย์” ที่เป็นวงดนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศเล่นได้ทั้งกลอง กีตาร์ และเบส เวลาว่างหลังจาก การทำงานไม่ว่าจะอยู่ประเทศใด จะชวนลูกน้องมาเล่นดนตรีผ่อนคลายความเครียดหลังเลิกงานขณะเดียวกัน นายวีรชัยยังเป็น 1 ใน 9 ของผู้ได้รับรางวัลเกียรติคุณจากงานราชการครุฑทองคำ ประจำปี 2553-2554 และได้รับรางวัลสำหรับผู้บริหารราชการพลเรือนดีเด่น เป็นผู้มีความเป็นกลาง ทางการเมือง ปฏิบัติงานโดยยึดประโยชน์ของประเทศ ชาติและประชาชนเป็นสำคัญ เป็นแบบอย่างแก่ข้าราชการทั้งหลายได้ยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานในหน้าที่ราชการได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีนายทรงพล สุขจันทร์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ในฐานะนักดนตรีในวง “สราญรมย์” กล่าวว่า ทราบข่าวการป่วยของนายวีรชัยที่เข้าโรงพยาบาลมาหลายวันแล้ว โดยภรรยาตนเป็นเพื่อนโรงเรียนเตรียมอุดมและอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับคุณอลิซาเบธ พลาศรัย ภรรยานายวีรชัย จึงร่วมส่งกำลังใจและสวดมนต์ให้หายป่วย แต่เมื่อทราบข่าวการเสียชีวิตของนายวีรชัยรู้สึกตกใจและเศร้าใจยิ่ง เป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนตัวได้ร่วมเล่นดนตรีกับนายวีรชัยที่กระทรวงมานานหลายปี นอกจากความรู้ความสามารถแล้ว นายวีรชัยยังเป็นคนที่มีความสามารถด้านดนตรีมาก เล่นดนตรีได้หลายชนิด เป็นผู้สร้างวง “สราญรมย์” ขึ้นมา นายวีรชัยเป็นคนจริงจังกับทั้งงานและดนตรี ทำทุกอย่างได้ดีเยี่ยม ไม่มีที่ติ รวมทั้งใช้ดนตรีเป็นเครื่องมือสำคัญดำเนินการทางการทูตอย่างดีเยี่ยม ปลายปี 60 ได้คุยกับนายวีรชัยว่า เมื่อเกษียณแล้วจะไปตั้งวงดนตรีมารวมตัวกันอีก ตระเวนไปเล่นที่กระทรวงและที่ต่างๆ แต่น่าเสียดายไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้วนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นายวีรชัยเป็นทูตที่อยู่ในแนวหน้าของกระทรวง ไม่ใช่แค่เป็นนักกฎหมายที่ได้รับการยอมรับในเวทีระหว่างประเทศ แต่เป็นคนที่มีความสามารถรอบด้าน ก่อนที่คนไทยจะรู้จักนายวีรชัยจากคดีปราสาทพระวิหาร ก็ได้รับการยอมรับในองค์การการค้าโลก ได้รับเชิญไปเป็นองค์คณะผู้พิพากษาในคดีสำคัญของศาลโลกอยู่เป็นระยะ ช่วงหนึ่งนายวีรชัยเคยคิดลาออกไปดำรงตำแหน่งคณะผู้พิพากษาองค์การการค้าโลก แต่ตนขอให้อยู่รับราชการต่อ เพราะเป็นบุคลากรสำคัญจนแสดงฝีมือให้เห็นในคดีปราสาทพระวิหาร