เป็นบททดสอบพิสูจน์ฝีมือการแสดง หลังผ่านช่วงเวลาดังพลุแตกจากละคร “บุพเพสันนิวาส” ที่สร้างกระแสฟีเวอร์ตราตรึงใจผู้ชมทั่วประเทศ นางเอกแถวหน้าวิก 3 “เบลล่า-ราณี แคมเปน” เลือกก้าวออกจากกรอบรับบท เรณู หญิงขายบริการผ่านเรื่องราวชีวิตในละครเรื่อง “กรงกรรม” ที่กำลังเข้มข้นกระแสดีกับเรื่องนี้เจ้าตัวออกปากว่าเหมือนเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แต่ชีวิตในวงการกลับนับเรื่องราวและประสบการณ์ที่ได้เจอมากขึ้น เบลล่า เล่าว่า “ละครกรงกรรม กำลังเข้มข้นมาก ตอนนี้จะเห็นความเป็นเรณูมากขึ้น หลายอย่างในชีวิตหล่อหลอมให้เค้าแข็งแกร่งไม่แคร์สิ่งที่คนอื่นคิด เพราะชีวิตเค้าถูกตัดสินมาตลอดอยู่แล้ว กระแสดีมากเลยค่ะ ชื่นใจแทนพี่อ๊อฟ พี่แดง ทุกคนเลย ทั้งพี่ยุ่นเอง เขียนมาอยากจะให้ทุกคนได้เห็นชีวิตของมนุษย์ จริงๆ ไม่ได้มีแสนดี หรือด้านร้าย บางทีอาจจะทำสิ่งที่ผิดพลาด บางทีกลับตัวกลับใจ เอาตัวรอด อย่างที่เรณูเป็นอย่างในเรื่อง บางทีก็ทำผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่นี่คือมนุษย์ และเดี๋ยวก็จะได้รับผลของกรรมแตกต่างกันไป”ติดตามอ่านเรื่องย่อ “กรงกรรม” ได้ที่นี่ย้อนไปวันที่ตัดสินใจรับเล่น ทำไมกล้าก้าวออกมารับ? “ก่อนเริ่มถ่ายคุยเรื่องนี้มาตั้งแต่ปีก่อนหน้า คุณสมรักษ์ พี่อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ พี่แดง-ธัญญาผู้จัดถามว่าไหวมั้ยกับ บทนี้ เราก็เชื่อมือพี่อ๊อฟพี่แดงว่าเค้ามีเจตนานำเสนอภาพตรงนี้ยังไงอย่างที่ทุกคนเห็นมันโอเคและเบลแฮปปี้มาก ดีใจที่ได้โอกาสดีๆ ตอนแรกก็กังวลนิดนึงห่วงความรู้สึกคุณแม่แต่คิดว่าบทน่าสนใจมากถ้าไม่รับเล่นจะมีโอกาสแบบนี้อีกเมื่อไหร่ เลยรับเลย” อะไรคือสิ่งที่หนักที่สุดสำหรับบทนี้? “ในตัวเรณูมีความซับซ้อน ใน 1 ฉากมีหลายอารมณ์ในคนเดียว ต้องโกหกปิดความลับ พูดให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ บางทีต้องพูดอีกอย่างแววตาอีกอย่าง ข้างในคิดอีกอย่าง ต้องทำการบ้านหนักเพราะบทยาวและเวลาที่ถ่ายทอดออกไปมันต้องกลั่นออกมาจากข้างในจริงๆ ไม่อยากมานั่งนึกบทและเรณูเป็นคนพูดเยอะมาก ในทวิตเตอร์เค้าจะเรียก เรณูพันหน้า เบลล่า พันหน้า ฉากนึงมีอะไรตลอด เราต้องมีสติตลอด เป็นเรณูในทั้งวันนั้น อยู่กับบทเยอะ 7-8 เดือน”บทนี้ได้รับพัฒนาฝีมือการแสดง? “มากเลยค่ะ ก็นับหนึ่งใหม่เลย โละสิ่งที่เคยมีมาในชีวิตทิ้งไปหมด ใครจะไปเคยขายตัว มีลูกอีก หาบขนมขายเป็นชาวบ้าน พี่อ๊อฟพี่แดงบอกวาให้ทิ้งเบลล่าไปเลยแล้วเรามาเริ่มต้นใหม่เป็นเรณูพร้อมๆกัน”ความฟีเวอร์ในปีที่ผ่านมาจากบุพเพสันนิวาสเหมือนจุดพลุให้ตัวเอง? “เหมือนถูกลอตเตอรี่แจ็กพอตเลยค่ะ ด้วยค่านิยมของสังคม ณ ตอนนั้น บวกกันหลายๆ อย่างจะขาดทีมงานคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้ทุกคนตั้งใจทำผลงานออกมาอย่างละเอียดมาก อยากทำให้ดีที่สุด ถามว่าภาค 2 ไปถึงไหน ตอนนี้พี่รอมแพงก็เขียนบทไป 9 ตอนส่งให้ อ.แดง-ศัลยา กลั่นเป็นบทโทรทัศน์อยู่ พี่หน่อง-อรุโณชาก็อยากให้เร็วที่สุด และบอกว่าภาคนี้ก็สนุกมากแต่เบลต้องเล่นหลายตัวด้วย”อ่านนิยายเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ได้ที่นี่ที่บอกว่ามันเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตมีโมเมนต์ไหนที่มันชื่นใจมากๆ ที่ตามมาจากความสำเร็จนั้น? “เบลจะจำเป็นโมเมนต์นะคะ มีช่วงที่เบลถ่ายละครติดๆ กันตอนที่ละครบุพเพฯ ออน ก็ถ่ายละคร 2 เรื่องแต่พอเป็นอีเวนต์แรกที่เบลได้ไป แล้วเบลได้เห็นคนมาให้กำลังใจเราเยอะมากคือคิดว่าเฮ้ยนี่จริงเหรอ สิ่งที่เราเห็นอยู่ตรงหน้ามันคือความจริงเหรอ ขนลุกอยู่คนเดียว มันตื้นตันอยู่ข้างใน รวมถึงตอนงานฟุตบอลปีที่แล้ว เสียงกรี๊ดของทุกคนเป็นสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา มันตื้นตันจริงๆ” คนมองว่าเบลล่าเล่นบทธรรมดาไม่ได้แล้ว? “โอ้ ไม่จริงเลย บทธรรมดานี่ก็ยากนะ ยิ่งต้องการหาอะไรเล่น ค้นหาตัวละครว่าเค้าน่าสนใจยังไง”ความสำเร็จมาพร้อมการถูกจับจ้อง ช่วงนี้ก็มีกระแสข่าวเยอะเรารู้สึกยังไง? “เบลก็เข้าใจนะว่าคนจับตามองมากขึ้น เบลก็น้อมรับและเข้าใจ อย่างข่าวการเลือกบทไม่เคยเกิดขึ้นกับเบล เบลเป็นนักแสดงคนนึง เรื่องละครเบลก็ปรึกษาผู้ใหญ่”กลัวคนตัดสินเราไปแล้วจากข่าวต่างๆ มั้ย? “เบลว่าให้เวลาเป็นการพิสูจน์แล้วกันเนอะ เบลอยากตั้งใจทำงานดีๆออกมาให้คนได้ดูทั้งบันเทิง สนุก ให้ข้อคิด”ให้กำลังใจตัวเองเวลาต้องผ่านกระแสต่างๆ ยังไง? “มันก็คล้ายกับกระแสความโด่งดังต่างๆ ที่มันเป็นธรรมชาติของมันที่มันเข้ามาแล้วก็ต้องหายไป เรื่องไม่ดีก็เหมือนกัน พอเบลเห็นเบลอ่าน เบลรับรู้ ก็รู้แล้วว่าอันไหนมันใช่เราหรือไม่ใช่เรา อันไหนเรื่องจริงหรือไม่จริง ก็ปล่อยผ่านค่ะเราก็ทำงานของเราต่อไป ใช้ชีวิตของเราต่อไป มันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรถ้าเราจะไปโฟกัสกับพลังงานลบ มันไม่ได้ทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น”ความรักข้ามช่องกับเวียร์-ศุกลวัฒน์ ตอนนี้ความหวานแผ่ไปทั่วไอจี? “ไม่ได้แผ่อะไรเลย (หัวเราะ) เราไม่ได้พื้นที่จำกัดว่าเป็นพื้นที่สาธารณะหรือส่งมาส่วนตัว” เค้าบอกว่าเราไม่ค่อยตอบไลน์? “บางทีก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ มันเด้งมาเยอะๆ พร้อมกันอาจจะไม่ทันเห็น แต่พอเปิดไอจีมันรีแลกซ์ดูรูปเล่นก็เห็นแล้ว เอ้า ตายละ (ยิ้ม)”รู้สึกยังไงเวลาเวียร์แสดงออกเต็มที่? “คือเมื่อก่อนเค้าเล่นไม่ค่อยเป็นด้วย ตอนนี้พี่เค้าเล่นมากขึ้นเพราะเค้าถ่ายกล้องฟิล์มชอบลงรูป ก็เป็นธรรมชาตินะ ก็ดีค่ะ น่ารักดี”ต่างคน ต่างฮอตงานแน่น ดูแลกันยังไง กลายเป็นยิ่งฮอตยิ่งหวาน? “ก็ต้องปรับจูนเหมือนกันนะคะ ด้วยตัวเบลเองทุกอย่างมันตู้มเข้ามาทำงานเยอะมาก แทบไม่มีเวลาทำอะไรบางทีก็ไม่ได้คุยเลยแต่ต่างฝ่ายต่างเข้าใจ บางทีพี่เค้าก็ไปทำงานก็มีหายไป ก็เข้าใจมากว่าเราต้องตั้งใจทำงานที่เรารับผิดชอบมาก่อน”เวลาไปเที่ยวกันสองคนจะเป็นโหมดไหน? “ความจริงแล้วตัวพี่เค้าไม่ค่อยมุ้งมิ้งนะ ออกแนวลุยๆ แทบจะกอดคอ แนวเป็นเพื่อนกัน บางทีก็มี ความพิเศษในเทศกาลต่างๆที่จะเยอะหน่อย เค้าก็จะมีไปถามเพื่อนว่าจะทำอะไรดี”เค้าทำยิ่งนานยิ่งหวานขึ้น? “เทียบกับคนอื่นก็เฉยๆนะ ก็ตามระยะเวลา ถ้าอยู่ดีๆ เค้ามาทำให้เบลตั้งแต่แรกเบลก็ตกใจนะ”มองถึงอนาคตมั้ย? “ยังไม่ได้มองตัวเองในภาพนั้น ยังเป็นเด็กน้อยของแม่อยู่เลย ยังไม่เห็นตัวเองเรื่องมีครอบครัวค่ะ”.