สำนวนคนสมัยใหม่ “จริงใจ ไม่จิงโจ้” ฟังแล้วจะให้เข้าใจว่า “จิงโจ้” เป็นอะไรสักอย่าง...ที่ไม่จริง ไม่อยู่กับร่องกับรอย แต่คนรุ่นเก่าอย่างผม ฟังแล้วยิ่งงง...เพราะจิงโจ้ ที่รู้จัก ไม่ได้เป็นอย่างนั้นคำร้องของเด็กสมัยโบราณ ร้องเล่นกันมาถึงเด็กรุ่นผม “จิงโจ้เอย มาโย้สำเภา หมาไล่เห่า จิงโจ้ตกน้ำ หมาไล่ซ้ำ จิงโจ้ดำหนีได้กล้วยสองหวี ทำขวัญจิงโจ้ โห่ฮิ้วๆ”อาจารย์ ส.พลายน้อย เขียนไว้ในหนังสือ ร้อยแปดเรื่องไทย (สำนักพิมพ์สารคดี พิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ.2545) ว่าจิงโจ้ในบทร้องนี้ จะมีรูปร่างอย่างไร ไม่มีใครทราบจนเมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เขียนรูปจิงโจ้โย้สำเภา ตามคำร้องนี้ไว้รูปจิงโจ้ที่ช่างเขียนออกมาไม่แน่จะเรียกว่า คนประหลาด หรือสัตว์ประหลาดรูปนี้ช่างเขียนให้จิงโจ้หน้าเป็นมนุษย์ แต่มีตีนเป็นนก สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอธิบายว่า ไม่ใช่รูปที่ช่างเขียนตามอำเภอใจ ต้องมีอะไรเป็นหลักฐานสักอย่างสมัยโบราณมีนกชนิดหนึ่ง ชื่อจิงโจ้ จากคำกลอนว่า “กะลุมพูจับกะล้ำพ้อ จิงโจ้จับจิงจ้อแล้วส่งเสียง” ช่างเขียนคงนึกรูปร่างจิงโจ้ไม่ออก แต่เมื่อโย้สำเภาได้ ก็ต้องมีมือแบบคน แล้วเมื่อมีนกจิงโจ้ ช่างจึงเขียนตีนเป็นนกเป็นอันว่า จิงโจ้ที่โย้สำเภาในรูปเขียนวัดพระเชตุพนฯ อยู่ทางหัวเรือ แต่ในตัวเรือที่ใช้จักรกลสมัยใหม่ ทำจิงโจ้ด้วยไม้ไว้ใต้ท้องเรือ เป็นที่สอดเพลาไม่ให้เพลาแกว่งเมื่อมีสวะหรือสิ่งใดครูดใต้ท้องเรือ ก็จะปะทะกับจิงโจ้ ลอยข้ามไปไม่ถูกใบพัดส่วนเรือที่ใช้หางเสือ เช่นเรือกระแชง ก็มีจิงโจ้ตัวเล็กๆติดท้องเรือตรงกับปลายหางเสือ ใช้กันสวะหรือเชือกที่จะมาทำให้หางเสือเรือหลุดได้สำหรับจิงโจ้ สัตว์ประจำทวีปออสเตรเลีย มีกระเป๋าที่ท้องสำหรับใส่ลูก ท้องจึงดูใหญ่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อเห็นใครแต่งตัวแล้วท้องโต ก็จะทรงเปรียบเทียบกับจิงโจ้ในสมัยรัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯให้หัดพวกโขลนเป็นทหาร แต่งตัวเสื้อแดง กางเกงแดง เสื้อมีชายยาวถึงหัวเข่า หมวกแก๊ปสูงพระราชนิพนธ์โคลงดั้นเรื่องโสกันต์ บทหนึ่งว่าจิงโจ้ยืนเรียบร้อย ริมถนน เสื้อจีบชายกระจาย สุกจ้า ถือปืนทั่วทุกคน พล่องแพล่ง นายดาบเดินด้อมถ้า ถ่องถนนขบวนเดินเป็นระเบียบคล้อย คลาไป พิณพาทย์ทุกวงตี สนั่นก้อง จิงโจ้เมื่อถึงใคร คำนับ เสียงจิงโจ้กัดร้อง เร่งเร้ารุมระงมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รับสั่งเรียกทหารหญิงครั้งนั้นว่าจิงโจ้คำสั่งที่ใช้บอกทหาร ก็แปลกกว่าทหารอื่นๆ คือแทนที่จะใช้ “วันทิยาวุธ” ก็บอกว่า “จิงโจ้กัด” และแทนที่จะใช้ว่า “บ่าอาวุธ” ก็ใช้ว่า “จิงโจ้หยุด” และแทนที่จะใช้ “เรียบอาวุธ” ก็สั่งว่า “จิงโจ้นอน”อ่านเรื่องจิงโจ้ของอาจารย์ ส.พลายน้อยแล้ว ย้อนไปดูปกหนังสือ มีคำว่า “เรื่องชวนสงสัย ที่ไม่มีใครเคยตอบ” ก็ต้องยอมศิโรราบคาบแก้วว่า ไม่มีใครเคยตอบได้กระจ่างเหมือนอาจารย์จริงๆสำหรับผม มีมโนภาพจิงโจ้ตามคำร้องเล่นของตัวเองสมัยเด็ก จิงโจ้โย้สำเภาได้ แต่ตัวคงไม่ใหญ่นัก และไม่ดุแถมขี้ขลาด เพราะเมื่อถูกหมาไล่เห่า ก็ยังดำน้ำหนี (ดำน้ำได้ด้วย) และอีกข้อ จิงโจ้ชอบกินกล้วยจิงโจ้ของผม จึงไม่เกี่ยวกับเรื่องจริงใจ หรือไม่จริงใจใครที่อยากรู้ จิงโจ้โย้สำเภารูปร่างหน้าตาเนื้อตัวเป็นไง...ไปวัดพระเชตุพนฯมีภาพปิดทองรดน้ำ ประดับอยู่ที่เชิงบานหน้าต่างพระอุโบสถ จิงโจ้ตนนี้หน้าตาไปทางฝรั่ง ใต้แขนที่กำลังกอดหัวเรือสำเภามีขนออกมาเหมือนขนนก เท้าเหมือนนก น่ารักน่าเอ็นดูไม่น้อยทีเดียว.กิเลน ประลองเชิง