เชื่อหรือไม่...ลีลาการกินของคนเรา บอกอะไรได้หลายอย่าง แม้แต่ลีลาการร่วมรักเป็นต้นว่า ใครที่ชอบดื่มน้ำ รวดเดียวหมดแก้ว ส่วนใหญ่มักเป็นคนตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกไม่ ใครที่ดูดน้ำไป แล้วชอบกัดหลอดเล่นไปด้วย ลองสังเกตมักเป็นคนขี้เหงา อ่อนไหว แต่ก็มักจะมีจิตใจดี โอบอ้อม ใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้างเวลาดื่มกาแฟร้อนใครชอบใช้นิ้วมือทั้งสองข้างกุมถ้วยกาแฟไว้ มักจะเป็นคนรักเพื่อนฝูงพวกพ้อง แถมยังรักและหลงคนได้ง่าย เป็นคนมีน้ำใจ แต่ก็มีข้อเสียตรงมักเป็นคนขี้น้อยใจสุดๆ...ส่วนพฤติกรรมการกินอาหารนั้น ว่ากันว่า ของใครเป็นเช่นไร...พฤติกรรมการร่วมรักบนเตียง...ก็มักจะเป็นเช่นนั้นด้วยอย่างเช่น บางคนพออาหารมาวางอยู่เบื้องหน้าปุ๊บ พี่แกก็ตั้งหน้าตั้งตาโซ้ยอย่างไม่สนใจใคร ผู้ที่มีลีลาการกิน แบบ แ...กด่วน!!! ด้วยเวลาอันรวดเร็วปาน “ยูเซน โบลต์” นักวิ่งชาวจาเมกา เจ้าของสถิติเร็วสุดของโลกเช่นนี้...อิ อิ อิ...ฟันธงเลยว่า อย่าได้ถามหาความประณีต ในลีลาร่วมรักบนเตียงซะให้ยาก!!! ก็เพราะ “คุณพี่เค้า” ขอแค่ให้ตัวเองได้สุขสมอารมณ์หมายสบายตัวไปคนเดียวพอน่ะสิ คนอื่นจะถึงสวรรค์วิมานด้วยหรือไม่ พี่เค้าสนซะที่ไหนล่ะ!!!! เส้นเล็กรวมหมูนํ้าตกอร่อยอย่าบอกใคร.ข้อสังเกตเหล่านี้ จริงหรือไม่ ใช่หรือมั่ว...ลองนำไปสังเกตกันดูครับ แต่ถ้าใครชอบทานก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดล่ะก็ มื้อนี้อย่ามัวเสียเวลา เชิญตาม “คุณชาย 1” มาทางนี้เลย จะพาไปลิ้มรสที่สุดของก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดเจ้าดังในกรุงเทพฯ อีกแห่ง ชื่อว่า ร้านกิน-เตี๋ยว-เรือร้านนี้มี 2 สาขา สาขาแรก อยู่ในซอย 23 ถนนพระราม 3 ส่วนอีกสาขาอยู่ในโซนอาหารของปั๊มน้ำมันซัสโก้ แถวสาธุประดิษฐ์แต่ก่อนอื่น ขอเตือนกันไว้ ร้านนี้ไม่เหมาะกับลูกค้าที่เป็นคนมีลีลาประเภท เยอะ แบบว่า ขอกะเพราไก่ ใส่เป็ด จะเอาเผ็ดๆ แต่ไม่ใส่พริก 555 ...อันนี้เรียนเชิญไปทานร้านอื่น หรือป้ายหน้าจะเหมาะกว่าครับ บิวกับกิ๊ฟเจ้าของร้านกิน-เตี๋ยว-เรือ. บะหมี่เนื้อนํ้าตกนํ้าขลุกขลิกกินคู่กับผักและกากหมู.เพราะร้านนี้ น่าจะเข้ากันดีกับคอเตี๋ยวเรือผู้ชื่นชอบความแซ่บ!!! หรือหลงใหลในกลิ่นอายของพริกอบกึ่งคั่ว อันเร่าร้อนและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ดังนั้น ผู้ที่จะไปตามรอยลายแทงนี้ อย่างน้อยควรรับได้กับขีดขั้นความเผ็ด ตั้งแต่ผะแผ่ว พอซ่าลิ้น ไปจนถึงเผ็ดขั้นเทพ ซดน้ำเข้าไปแล้วอาการหวัดคัดจมูกหายเป็นปลิดทิ้ง!!!สันติสุข (บิว) และ ลลิตา (กิ๊ฟ) สร้อยระย้า 2 สามีภรรยาเจ้าของร้าน เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะมาเปิดร้านนี้ ทั้งคู่เคยออกตระเวนกินก๋วยเตี๋ยวเรือทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดมานับร้านไม่ถ้วน เรียกว่า ที่ไหนใครลือว่าเด็ด เป็นต้องไปลองมาหมดทุกร้านแต่ทั้งคู่ก็ยังไม่รู้สึกว่ามีรสชาติโดนใจเลยสักแห่งกระทั่งมีอยู่ร้านหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ) ทั้งคู่กินแล้วรู้สึกว่า โดนใจ ใช่เลย...พวกเขาจึงขอซื้อสูตร แต่เจ้าของสูตรไม่ยอมขายให้ ทั้งคู่จึงใช้ภาษิตตื๊อเท่านั้น...ที่จะครองโลก ตามไปกินอยู่นานแรมปี จนสนิทกับคนขาย สุดท้ายกลายมาเป็นเพื่อนซี้ปึ้กกันกับเจ้าของสูตร และยอมคายเคล็ดลับให้...เกือบหมด เนื้อเปื่อยหอมอร่อยหนึบนุ่มตุ๋นได้เข้าเนื้อ.จะว่าไป เคล็ดลับที่ว่า คล้ายคลึงกับวิธีทำก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกรสดีทั่วไปนั่นแหละอย่างเช่น วิธีปรุงน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเนื้อ (แยกคนละหม้อกับหมู) เริ่มจากเปิดไฟกลางเติมน้ำลงในหม้อครั้งละ 30 ลิตร ใส่ เครื่องตุ๋นยาจีน สำหรับเนื้อ 1 ห่อ ลูกกระวานไทย 5 ลูก ใบกระวาน 3 ใบ มะนาวดอง 2 ลูกพร้อมน้ำมะนาวดอง เกลือป่น 2 ช้อนชา รอให้น้ำเดือดแล้วหย่อน กระดูกท่อนขาวัว ลงไป 1 กก. เต้าหู้ยี้ บดละเอียด 4 ก้อน กะทิ 2 กก. กระเทียมดอง พร้อมน้ำฯ 5 หัว รากขึ้นฉ่าย 3 ราก ข่าแก่ 1 ท่อน ใบเตย 5 ใบ ส่วนหนึ่งของลูกค้าที่แน่นร้านทุกวัน.จากนั้นปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว 2 ถ้วยซุปข้าวมันไก่ ซอสปรุงรส เล็กน้อย น้ำตาลกรวด (ให้รสหวานกลมกล่อม) 2 ขีด ซีอิ๊วดำ 2½ ถ้วย พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ แล้วเปิดไฟอ่อนเคี่ยวทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงขึ้นไปส่วนวิธีปรุงน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวหมู แบบน้ำใส (ใส่เลือดทำน้ำตกทีหลัง) ตั้งไฟกลาง ต้มน้ำครั้งละ 30 ลิตร ใส่ คาตั๊ง หรือ เล้ง ลงไป 1 กก. กระเทียมดอง (บดละเอียด) 5 หัวพร้อมน้ำกระเทียม ซีอิ๊วขาว 3 ถ้วยซุปข้าวมันไก่ เลือดหมู 2-3 ถ้วย น้ำตาลกรวด 2 ขีด รากผักชี บดละเอียด 2 ถ้วยตวง และ พริกไทยป่น อีก 1 ช้อนโต๊ะ ใหญ่แห้งหมูซดคู่กับนํ้าซุปและกากหมูสุดฟิน.เวลาที่ลูกค้าสั่งแบบน้ำตก ก็แค่ตักน้ำซุปร้อนๆเทราดลงไปที่เลือดหมูหรือเลือดเนื้อ พร้อมกับตีเลือดอย่างเร็ว อย่าให้สุกเกินไป เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นก้อน เอาแค่น้ำข้นๆพอ เท่านี้ก็ได้...เตี๋ยวเรือชามเด็ดแล้วแต่อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้น ทีเด็ดสุดของร้านนี้ที่ต่างจากร้านอื่นอย่างสิ้นเชิง อยู่ที่ลีลาความเผ็ดร้อน และกลิ่นหอมเฉพาะตัวของพริกป่นคั่วกึ่งอบ ที่ทางร้านปรุงมาให้พร้อมเสร็จในแต่ละชาม หมูตุ๋นรสเด็ดหนึบนุ่มอร่อยเข้าเนื้อ.บิวกับกิ๊ฟกระซิบว่า ทั้งคู่นำ พริกขี้หนูจินดา ตากแห้ง 10 กก. ไปเข้าเตาอบระบบแก๊สไฟแรง ซึ่งภายในเตาจะหมุนอยู่ตลอดเวลา นานประมาณ 25 นาที จากนั้นนำพริกออกมาป่นด้วยเครื่องบด การคั่วกึ่งอบพริกด้วยวิธีนี้ จะทำให้กลิ่นหอมของพริกยังคงอบอวลอยู่ในเตา เสมือนเป็นการคั่วแบบปิด หรือจะเรียกว่ารมควันพริก เพื่อมิให้ความหอมของพริกสูญหาย ก็ว่าได้ต่างจากการคั่วพริกทั่วไปที่ใช้ไฟกลางคั่วในที่โล่ง ความหอมส่วนหนึ่งของพริกหายไปในอากาศ ใครอยากชิมรสชาติของก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ด หอมและเผ็ดอร่อยอย่างมีเอกลักษณ์ เชิญไปพิสูจน์กันได้ ปกติแล้วร้านนี้เปิดขายทุกวัน สาขาพระราม 3 ตั้งแต่ 09.00-17.00 น. สาขาปั๊มน้ำมันซัสโก้ สาธุประดิษฐ์ 10.00-19.00 น. แต่หยุดไม่แน่นอน ก่อนไปโทร.ถามก่อนได้ที่ 08-1399-8102 และ 08-1643-3199.“คุณชาย 1”บทความที่น่าสนใจLIFE STORY | จาก "นักบิน" สู่ "ก๋วยเตี๋ยวเรือกัปตัน" เพราะชีวิตต้องมีหลอดไฟสำรอง