ชีวิตเรา เลือกที่จะทำเลือกที่จะเป็นได้ และลงมือทำก่อนอย่าปิดกั้นตัวเองด้วยแนวคิดมองโลกที่ดี และไม่เคยทิ้งโอกาสที่เข้ามาในชีวิต “รอน-ภัทรภณ โตอุ่น” คนหนุ่มไฟแรงในวงการบันเทิง ที่ได้เข้ามาลองเล่นโยคะแล้วชื่นชอบส่งผลดีต่อสุขภาพ จึงได้ก้าวเข้ามาเป็นครูสอนโยคะ ด้วยใจรักและมีความมุ่งมั่น ที่พร้อมพิสูจน์ตัวเองในการทำสิ่งที่ท้าทายรอน-ภัทรภณ หรือที่รู้จักว่า “รอน เอเอฟ” หนุ่มจากรายการเรียลลิตี้ “เอเอฟ อะคาเดมี” ที่แจ้งเกิดในวงการบันเทิง เล่าถึงโอกาสที่เข้ามาในชีวิตตนเองว่า ชีวิตที่ผ่านมาดีขึ้นเพราะตนคว้าทุกโอกาสที่เข้ามาในชีวิต จริงๆ ตอนเด็กที่บ้านเคยมีฐานะปานกลาง พ่อ (เดชพัฒน์ โตอุ่น) เคยทำงานธนาคาร แต่ด้วยพิษเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ในปี 2540 ทำให้ต้องตกงาน ออกมาขับแท็กซี่ แม่ (จุฑาทิพย์ โตอุ่น) ที่เคยเป็นแม่บ้าน ต้องมาช่วยหารายได้ โดยไปเป็นแม่บ้านที่โรงแรม ตนต้องออกจากโรงเรียนเอกชนมาเข้าโรงเรียนรัฐบาล และได้เรียนจบ ม.6 ที่ ร.ร.สตรีวิทยา 2 ซึ่งช่วงนั้นตนได้ไปสมัครเข้าร่วมรายการเรียลลิตี้ เอเอฟ อะคาเดมี และได้เข้าบ้านเอเอฟเป็นรุ่นที่ 5 จากนั้นจึงได้เข้าสู่วงการบันเทิง เป็นนักร้องและดารา ระหว่างนั้นก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย จนจบคณะมนุษยศาสตร์ สื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง “ชีวิตผมค่อนข้างโชคดี แม้จะมีฐานะยากจน ลำบาก แต่ด้วยเพราะคุณแม่เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี แม่เลี้ยงผมให้รู้สึกว่า เราไม่ลำบากยากแค้นอะไร แต่พอโตขึ้นมองกลับไป บ้านเราลำบากจริงๆ ที่โชคดีอีกอย่างคือ มีคนเมตตา ทั้งครู อาจารย์ พ่อแม่เพื่อนให้ความช่วยเหลือ ที่บ้านไม่มีเงินให้ค่าเทอม พ่อแม่เพื่อนหรือคนข้างบ้านที่เห็นเราลำบากก็มาช่วย ครูก็ให้ผมกู้เงิน กยศ.เรียนจนจบ พอผมเรียนจบมีงานในวงการบันเทิงทำ ก็ได้เก็บเงินซื้อบ้าน ย้ายจากบ้านเช่ามามีบ้านของตัวเอง ส่งเสียน้องเรียนจนจบ ก็เป็นความภูมิใจที่สามารถทำงานช่วยเหลือที่บ้านจนทุกวันนี้” เมื่อถามถึงหมวกอีกใบในฐานะครูสอนโยคะ แห่งสถาบันสอนโยคะ “Yoga & Me” (โยคะ แอนด์ มี) ครูรอน เล่าว่า จุดเริ่มต้นมาจากผมมีอาการบาดเจ็บจากการเล่นละครเวที รู้สึกตัวเองยืดหยุ่นไม่ดี ทำให้มีอาการปวด ไปนวดก็ไม่ดีขึ้น เลยอยากเพิ่มความอ่อนตัวของตัวเอง จึงไปสมัครเรียนโยคะที่ โยคะ แอนด์ มี เป็นผู้ชายคนเดียวในคลาส ไปครั้งแรกก็เขินนิดหน่อย แล้วก็ยังทำไม่ได้ รู้สึกยาก แต่หลายคนบอกว่าโยคะดีจริงๆเลยเรียนต่อ ฝึกไปเรื่อยๆจนรู้สึกชอบและสนุก เรียนต่อเนื่องมาเป็นเวลา 4 ปี สุขภาพดีขึ้น แล้วช่วงต้นปีทางโยคะ แอนด์ มี เข้าเปิดสมัครอบรมครูสอนโยคะ ตนจึงไปสมัครคัดเลือกและได้เข้ารับการอบรมมาเป็นครูสอนโยคะ ของสถาบันแห่งนี้ “ผมไม่มีประสบการณ์ในการสอน แต่อยากถ่ายทอดให้คนอื่น ชั่วโมงแรกของการเป็นครูตื่นเต้นที่สุดในชีวิต แต่เราก็มีครูมืออาชีพ อย่างครูเอก เข้ามาช่วยดูการสอนของเรา โดยเป็นเสมือนนักเรียนในคลาส แล้วก็จะแนะนำเราหลังจากสอนเสร็จ การเลือกที่มาเป็นครูโยคะ เพราะผมมองว่า เป็นการสอนที่ทำให้คนเรียนมีสุขภาพที่ดีขึ้น เราก็ได้บุญทางใจ เป็นแต้มบุญทางใจของเรา ผมชอบที่จะเป็นน้ำที่ไม่เต็มแก้ว ชอบที่จะเรียนรู้ไปตลอดชีวิต ผมก็ยังไม่ทิ้งงานในวงการบันเทิง เพราะเป็นงานที่ผมรัก แต่การเป็นครูโยคะเปรียบเสมือนเป็นสิ่งที่เข้ามาในระหว่างทางเดินชีวิตของผม ซึ่งผมเป็นคนไม่ปิดกั้นตัวเอง ผมคว้าโอกาสทุกอย่างที่เข้ามา และทำอย่างตั้งใจ บางคนชอบบอกว่า ทำไม่ได้ ผมอยากให้เปลี่ยนความคิด แล้วลองลงมือทำ อย่าปิดกั้นตัวเอง”เส้นทางชีวิตก้าวมาถึงจุดนี้ รอน บอกว่า “ชีวิตเรา เราเลือกที่จะทำ เลือกที่จะเป็นได้ครับ ผมคิดจากชีวิตตัวเอง แม่ผมสอนให้มองโลกในแง่ดี แล้วมันก็ดึงดูดแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตครับ ผมภูมิใจและเคารพในตัวเองที่เราไม่ได้นอกลู่นอกทาง เป็นหลักของที่บ้าน และรู้ว่าเราทำในสิ่งที่ทำให้เราดีขึ้น”.
