กลับมาอีกครั้งแล้วครับ มหกรรมงานหนังสือนานาชาติ “Big Bad Wolf Book Sale Bangkok 2018” หรือกองทัพหนังสือต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งจะมายึดหัวหาดที่ฮอลล์ 9 (ฟอรัม) อิมแพค เมืองทองธานี ด้วย จำนวนหนังสือถึงกว่า 3 ล้านเล่ม ให้คนรักหนังสือช็อปกันอย่างจุใจเปิดขายถึง 11 วันเต็มๆ แบบมาราธอน 24 ชั่วโมงไม่มีหยุดพัก ไปเวลาไหนก็ซื้อได้เมื่อนั้น ไม่ว่าตี 3 ตี 4 หรือตี 5 จากวันศุกร์ที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมาไปจนถึงวันจันทร์ที่ 20 สิงหาคมมหกรรมหนังสือนานาชาติในชื่อ “Big Bad Wolf” หรือเจ้าหมาป่าตัวร้าย ซึ่งเป็นตัวโกงในนิทานสำหรับเด็กทุกๆเรื่อง ถือกำเนิดขึ้นที่มาเลเซียโดยความคิดริเริ่มของ แอนดรูว์ แอป กับ แจคเกอลิน อึง เมื่อ 9 ปีก่อนโน้นทั้ง 2 คน ไปซื้อหาหนังสือที่เหลือขายแต่ยังใหม่เอี่ยมไม่ใช่มือ 2 มาได้ 160,000 เล่ม ในราคาถูกมาก จึงตัดสินใจที่จะเอามาขายในรูปแบบของมหกรรมหนังสือราคาถูกทั้งคู่ควักเงินออมที่มีอยู่ออกมากว้านซื้อหนังสือเหลือขายจนแทบไม่มีเงินสดเหลืออยู่แล้ว แต่ยังมีพอที่จะไปจ้างหนังสือพิมพ์มาเลเซียลงโฆษณาได้อีก 2 วัน จึงต้องหาทางใช้เงินอย่างประหยัดและจะต้องตั้งชื่องานให้ออกมาโดนใจคนมาเลเซียภายใน 2 วันที่ว่าดูเหมือนจะเป็นคุณแอนดรูว์ที่เสนอว่าเอาเจ้าตัวร้ายในหนังสือนิทานเด็ก ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของหนังสือที่เขาจะมาขายลดแหลกนี่แหละมาเป็นชื่องาน“เอา Big Bad Wolf ก็แล้วกัน Big Bad Wolf Book Sale เอาชื่อนี้เลย” เขาโพล่งออกมา ซึ่งทั้งคุณแจคเกอลิน กับเพื่อนอีกคนในขณะนั้น ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไรนัก แต่เมื่อนึกอะไรไม่ออกก็หยวนไปก่อนใครจะไปนึกล่ะ คำว่า Big Bad Wolf กลับโดนใจคนมาเลเซียอย่างแรง ทำให้มหกรรมขายหนังสือลดราคาของเขางานแรก มีแฟนหนังสือไปอุดหนุนอย่างชนิดล้นทะลักลอตแรกที่ทั้ง 2 ระดมมา 160,000 เล่ม และกังวลว่าจะขายได้สักกี่เล่มหนอ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เหลือไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ปีถัดมาเขาซื้อเพิ่มมาอีก และขายได้ถึง 235,000 เล่ม และปี 2011 ขายพุ่งเกิน 1 ล้านเล่มเป็นครั้งแรกไปถึง 1 ล้าน 5 แสนเล่มในที่สุดก็เป็น 4 ล้านเล่มในปี 2017มาถึงช่วงนี้เจ้าหมาป่าตัวร้ายมิได้อาละวาด เฉพาะในมาเลเซียประเทศเดียวแล้ว บุกไปลุยอินโด– นีเซีย คือ จาการ์ตาเป็นประเทศแรก สร้างความโกลาหลอลหม่านได้อีกประเทศหนึ่ง ยอดล่าสุดที่เจ้าหมาป่าขนหนังสือไปขายที่อินโดนีเซียในปี 2018 คือ 5.5 ล้านเล่มBig Bad Wolf ออกเดินทางต่อไปสู่ศรีลังกา สู่ฟิลิปปินส์ และในที่สุดก็มาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อปี 2016 หรือ 2559 ก็ที่ฮอลล์ 9 อิมแพค เมืองทองธานี นี่แหละอย่างเหลือเชื่อผู้คนแห่แหนกันไปซื้อหนังสือนอกอย่างดีราคาถูกอย่างชนิดแน่นขนัดตลอดทั้งวันการขาย 24 ชั่วโมง กลายเป็นสัญลักษณ์ที่เรียกความสนใจให้กับ “เจ้าหมาป่าตัวร้าย” ได้อย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะในเมืองไทยพรรคพวกทีมงานซอกแซกรายหนึ่งเล่าว่าเขาไปตอนตี 2 เพราะทำงานเป็นนักแปลข่าวกีฬารอบดึก อยู่ที่หนังสือพิมพ์สยามกีฬา เสร็จงานก็เลยแวะไป นึกว่าคนจะโล่งเดินสบายๆที่ไหนได้กลับเจอผู้คนที่นอนดึกเหมือนกัน แห่มาซื้อหนังสือแน่นไปทั้งฮอลล์ 9 เมืองทองธานี แน่นกว่าเวลากลางวันของงานขายสินค้าบางงานที่จัดที่ฮอลล์ใกล้เคียงกันเสียอีกด้วยซํ้าจากกิตติศัพท์หนังสือดีราคาถูก โดยเฉพาะหนังสือสำหรับเด็กๆที่ดีมากและใหม่มาก ทำให้ลูกค้ากลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งได้แก่ พ่อแม่ ผู้ปกครอง หัวหน้าครอบครัว รุ่นหนุ่มรุ่นสาวที่เพิ่งมีลูกคนแรกกลุ่มนี้จะเดินซื้อมือเป็นระวิง หยิบหนังสือใส่รถเข็นจนเต็มแปล้ เหมือนไปช็อปตามซุปเปอร์มาร์เกตของห้างอย่างไรอย่างนั้นไม่เฉพาะแค่หนังสือเด็กๆ เท่านั้น หนังสือผู้ใหญ่ก็เต็มไปหมด ทั้งนวนิยาย ทั้งตำรา ทั้งปรัชญา ล้วนราคายั่วใจสำหรับปีนี้ 2018 หรือ พ.ศ.2561 Big Bad Wolf มาเมืองไทยเป็นปีที่ 3 พร้อมกับคุยว่า เตรียมหนังสือไว้ทั้งสิ้นกว่า 3 ล้านเล่ม ด้วยราคาลดสูงสุด 60-80 เปอร์เซ็นต์ในวันเปิดงานอย่างเป็นทางการ เมื่อ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา แม้จะมิได้เปิดสำหรับประชาชนทั่วไป เพราะเจาะจงเชิญเฉพาะผู้ที่อยู่ในแวดวงหนังสือและสื่อมวลชนเท่านั้น แต่ก็เปิดให้ซื้อได้บ้างแล้วทีมงานซอกแซกที่ไปร่วมงานด้วยรายงานว่า ขนาดไม่ได้เปิดจริงจัง แต่บรรดาแขกเหรื่อรวมทั้งสื่อด้วย ต่างก็ควักเงินซื้อเป็นประเดิมกันคนละหลายๆพันบาทเป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่าในวันขายจริงๆ ตั้งแต่ 10-20 สิงหาคม เหล่าหนอนหนังสือคงจะแห่ไปอุดหนุนอย่างเนืองแน่นอีกครั้งคงต้องย้ำว่าหนังสือทั้งหมดในงานนี้ เป็นหนังสือภาษาอังกฤษทั้งสิ้น และรวมหนังสือทุกอย่างตั้งแต่นวนิยาย หนังสือธุรกิจ ศิลปะการออกแบบ หนังสือทำอาหาร รวมไปถึงหนังสือไฮเทค ประเภท AR หรือตอบโต้ได้ ฯลฯคนรักหนังสือและรักภาษาอังกฤษต้องการเรียนรู้ หรือฝึกฝนภาษาอังกฤษ อย่าลืมแวะไปที่ฮอลล์ 9 อิมแพค เมืองทองธานี ด้วยก็แล้วกันไม่ซื้อไม่หาก็ไปดูบรรยากาศ แล้วจะชื่นใจที่เห็นว่าคนรักหนังสือ และอยากอ่านหนังสือยังมีอีกมากมายในโลกนี้ รวมทั้งไทยแลนด์ของเราขอบใจเจ้าหมาป่าตัวร้าย ที่กลายมาเป็นหมาป่าผู้น่ารัก สัญลักษณ์ของการขายหนังสือภาษาอังกฤษราคาถูก ที่โด่งดังไปทั่วอาเซียนแล้วในปัจจุบัน.“ซูม”