สะระแหน่ชนิดนี้ มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเวียดนาม ถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ในประเทศไทยนานมาแล้ว มีชื่อวิทยาศาสตร์เฉพาะคือ MENTHA PULEGIUM อยู่ในวงศ์ LABIATAE มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้พุ่มล้มลุกอายุหลายปี แตกกิ่งก้านเยอะ ลำต้นมีขนสั้นๆปกคลุมนุ่มมือ ต้นสูงประมาณครึ่งเมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้าม เป็นรูปรีกว้าง ปลายใบเกือบมน โคนใบมน ก้านใบยาวไม่สั้นเหมือนกับก้านใบสะระแหน่ไทย ผิวใบมีรอยย่นเช่นกัน ขอบใบจักเป็นฟันเลื่อย เนื้อใบค่อนข้างหนา สีเขียวสด ใบมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว โดยกลิ่นจะแรงเหมือนกลิ่นของตะไคร้แกงทั่วไป ผู้นำเข้าจึงเรียกว่า “สะระแหน่เวียดนาม” ดังกล่าวชาวเวียดนาม นิยมรับประทานเป็นผักสดกับอาหารคาวหลากหลายชนิด โดยเฉพาะขนมจีนเวียดนามจะเพิ่มกลิ่นหอมให้รับประทานอร่อยยิ่งขึ้น หากใครที่เคยเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศเวียดนามและชอบเดินตลาดเช้าจะพบว่ามีต้น “สะระแหน่เวียดนาม” ที่มีกลิ่นหอมเหมือนกลิ่นตะไคร้แกงวางรวมกับผักสดชนิดต่างๆบนถาดให้ลูกค้าหยิบรับประทานตามใจชอบและเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางซึ่ง นอกจาก “สะระแหน่เวียดนาม” จะมีกลิ่นหอมแบบตะไคร้แกงและรับประทานอร่อยแล้ว ยังมีสรรพคุณเป็นสมุนไพรเช่นเดียวกับสะระแหน่ทั่วไปทุกอย่างคือ ใบสดมีกลิ่นหอมร้อนกินเป็นยาขับผายลม ขับเหงื่อ ช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ปวดท้องได้ดีมาก ใบสดขยี้ดมกลิ่นจะช่วยลดอาการหืดหอบ ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ใบแห้งชงกับน้ำร้อนดื่มช่วยย่อยอาหารได้ ใบสดขยี้ทาบริเวณขมับแก้ปวดหัวได้ ใบสดขยี้ทาบริเวณจุดที่ฟกบวมบรรเทาอาการเด็ดขาดนัก สมัยก่อนนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายเนื่องจากได้ผลดีระดับหนึ่งมีต้นขาย เพียงที่เดียวคือ ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 2 แผง “ป้าแอ๊ด–คุณขวัญ” ราคาสอบถามกันเองครับ.“นายเกษตร”