ในบรรดาวิหคนกไพรนานาชนิดล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวน่าสนใจให้เราได้เรียนรู้มากมาย...!โดยเฉพาะ นกเงือก นกที่ถือเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า หลังจากจิกกินลูกไม้เป็นอาหารกว่า 300 ชนิด แล้วถ่ายเมล็ดไว้ตามที่ต่างๆ เท่ากับช่วยแพร่กระจายพันธุ์พืช โดยเฉพาะในป่าลึกที่ไม่มีใครเข้าถึงนอกจากนี้ จากพฤติกรรมจับคู่ครั้งเดียวในชีวิต จึงไม่แปลกที่นักอนุรักษ์ จะยกให้เป็นสัญลักษณ์แห่งรักแท้ ที่สำคัญช่วงนี้ทุกคนต้องร่วมกันอนุรักษ์ หลังจากนกเงือกตกอยู่ในภาวะวิกฤติ ถูกขึ้นบัญชีเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์จึงเกิดมี “กลุ่มรักนกเงือกบ้านบางกะม่า” ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ร่วมกับชาวบ้าน อนุรักษ์นกเงือก ชุบชีวิตป่าให้กลับคืนเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.ราชบุรีนายดนัย สว่างญาติ อายุ 31 ปี หนึ่งในสมาชิก กล่าวว่า หลังจากรณรงค์ ให้ชาวบ้านเลิกล่านกเงือกแล้วหันมาอนุรักษ์ได้สำเร็จ ประมาณปี 2557 จึงออกสำรวจและเฝ้าดูโพรงที่นกเงือกทำรัง ว่าโพรงใดยังใช้งานได้หากเป็นโพรงร้าง ต้องรู้ว่าเพราะเหตุใด เช่น น้ำขัง โพรงลึก หรือ แคบเกินไป จะแก้ไขและซ่อมให้เสร็จก่อนเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงนกจะเข้าโพรงรังวางไข่ ทั้งหมดนี้ทำตามข้อมูลทางวิชาการจากเฟซบุ๊กกลุ่มอนุรักษ์ทั่วไปกระทั่ง นายปรีดา เทียนส่งรัศมี นักวิจัยมูลนิธิศึกษาและวิจัยนกเงือก ได้อบรมให้ความรู้ทางวิชาการ ทำให้ทราบว่าโพรงต้นไม้ใหญ่ในธรรมชาติเริ่มหายาก ไม่พอกับปริมาณนกที่เพิ่มขึ้น จนต้องนำโพรงเทียมขึ้นไปติดตั้งนายกฤษดากร ทาแท่งทอง อายุ 37 ปี นักอนุรักษ์จิตอาสา เผยว่า จากการ ที่นกเงือกเป็นนักปลูกป่าตัวจริงตลอดอายุ 30 ปี ของนกชนิดนี้ ปลูกต้นไม้ถึง 500,000 ต้น แต่สร้างรังเองไม่ได้ จึงต้องอาศัยอยู่ในโพรงไม้ในป่าสูงยิ่งช่วงฤดูผสมพันธุ์ หากนกเงือกไม่มีโพรงไม้อาศัย ปีนั้นจะไม่ผสมพันธุ์ แต่ถ้าหาได้จะใช้ไปกว่า 10 ปีช่วงนี้ถึงเดือนสิงหาคมใครอยากชมนกเงือก 4 สายพันธุ์ รวมฝูงหลายร้อยตัวภายในป่าเชิงเขาบ้านบางกะม่า แหล่งอาหารสำคัญของนกเงือก ติดต่อได้ที่เฟซบุ๊ก “กลุ่มรักนกเงือกบ้านบางกะม่า”...!ศุภโชค สร้อยน้ำ