หนังสือที่สัจภูมิ ละออ เขียนมีหลายเล่ม เล่มที่ผมรัก รักวิธีเขียน นับถือในเนื้อหา เป็นเล่มพรานทุ่ง (สำนักพิมพ์วิญญูชน พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2550) ข่าวสารบ้านเมืองวันนี้ ทำให้ผมเลือกเรื่อง...จับอึ่งแค่เริ่มอ่าน ผมจึงรู้ว่า “อึ่ง” นั้น คนละพันธุ์ กับ “อึ่งอ่าง” ที่ร้องเสียงดังอยู่ตามกระถางต้นไม้ข้างบ้านอึ่งอ่างตัวมันมียางมาก คนสุพรรณแถวบ้านสัจภูมิ เรียกอึ่งยาง จับคราวใดยางเหนียวๆจะติดมือ ล้างน้ำออกก็แสนยาก บางครั้งต้องใช้ขี้เถ้าจากเตาไฟชุบน้ำถูอึ่งที่จับกิน มีสองพันธุ์ อึ่งปากขวด และอึ่งข้างลาย อึ่งข้างลาย กระดูกจะอ่อนกว่า เนื้อก็นุ่มกว่าอึ่งปากขวดแต่จะอึ่งอะไรก็ช่างเถิด เมื่อจับมาแล้วเอามาต้มใบส้มมะขามยำกับมะม่วง หรือไม่ก็แกงเผ็ด รสชาติอร่อยเด็ดคราวใดที่จับอึ่งได้มาก สัจภูมิบอกว่า เราจะใส่เกลือเสียบไม้ตากแห่งไว้บ้านสัจภูมิ อยู่ริมน้ำจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี แต่ละปีทำนาเก็บข้าวไว้กินพอเพียง ไม่ต้องห่วงไม่ต้องหา สิ่งที่เราต้องหาคือกับข้าวก่อนจะได้อึ่งมาทำกับข้าว ก็ต้องออกไปหาอึ่ง อึ่งขุดรูอยู่ในป่า มันใช้ก้นดันลงไปที่บริเวณดินอ่อน จนกระทั่งลึกราว 1 ศอก แล้วมันก็จะอาศัยอยู่ในรูนั้น ตั้งแต่หน้าแล้ง จนฝนตกลงมา มันค่อยๆดันดินออกจากรูมาหาแมลงกินพรานทุ่งแถวอู่ทอง จับอึ่งหลังสงกรานต์ ช่วงฝนแรกๆของปี อึ่งก็จะดันดินออกมา ก็เป็นทีของคนคนเตรียมถุงย่าม ไฟฉาย ตะเกียงแก๊ส ออกไปหาอึ่งตั้งแต่หัวค่ำ เรื่อยไปถึงยามดึกดื่น บางคืนก็ยันฟ้าแจ้งสัจภูมิรำพึงว่า ประสบการณ์จับอึ่ง ทั้งรันทดและงดงามหลังเล่นสงกรานต์ปีนั้น ตอนบ่ายฝนเทมาชนิดลืมหูลืมตาไม่ขึ้น พ่อเตรียมตะเกียงแก๊ส สัจภูมิวิ่งไปร้านค้าซื้อถ่านตะเกียงแก๊ส ถ่านไฟฉาย แม่จัดแจงทำย่าม ซึ่งก็คือถุงปุ๋ยมัดปากสองข้าง ทำเป็นสายสะพายให้พ่อกับลูกคนละใบไม่ทันมืดพ่อลูกก็ซ้อนมอเตอร์ไซค์ ไปป่าที่อึ่งอยู่ห่างบ้านไปราว 20 กม.ไปถึงถึงก็โพล้เพล้พอดี พ่อจุดตะเกียงแก๊ส เปลี่ยนถ่านไฟฉาย พาลูกชายเดินเลียบชายป่าฝนแรกของปี อึ่งออกจากป่าลงท้องนา หรือที่ลุ่มที่สุดของป่า หาอึ่งสาวๆ จับคู่และวางไข่กราดไฟส่องไปตามชายป่า อึ่งบางตัวเพิ่งดันดินออกมา ก็ถูกเราจับได้ บางตัวนอนนิ่งตรงปากรู พอเห็นคนก็ขยับตัวหนีเข้าละเมาะไม้ แต่ความไวของเรามีมากกว่ามัน พ่อสอนให้ระวัง บางครั้งมีตะขาบตัวโตๆแถมมาด้วยผืนป่ากว้างใหญ่ เดินเลียบจับอึ่งไปเรื่อยๆ พอเริ่มมืด เสียงอึ่งก็ร้องก้องไปทั้งป่า พ่อแยกเสียงออก ถ้าร้องโอ๊กๆ คืออึ่งปากขวด ร้องแป๊บๆ อึ่งข้างลาย เราเลือกจับสองอึ่งนี้เท่านั้น อึ่งยาง เขียด ปาด เราไม่สนพ่อสอนให้สังเกต ตอนหัวค่ำจับอึ่งบนบก มันจะไม่ร้อง แต่พอค่ำแล้วอึ่งลงน้ำ มันจะร้องหาคู่อึ่งปากขวดตอนอยู่ในน้ำ ยิ่งร้องท้องมันจะพองลมมากขึ้น ยิ่งร้องมากเราก็จับมันง่าย เพราะมันจะปล่อยลมลงน้ำหนีเราไม่ทัน ยิ่งดึกอึ่งยิ่งหนีเรายากขึ้น เพราะมันกำลังจับคู่ ตัวเมียอยู่ล่าง ตัวผู้อยู่บนจับคู่ได้แล้ว ตัวเมียก็วางไข่ ตัวผู้ปล่อยน้ำเชื้อผสมพันธุ์ ไข่อึ่งลอยเป็นแพ รูปร่างเหมือนเม็ดแมงลักแช่น้ำขณะคนส่องไฟ อึ่งตัวผู้เห็นคนก่อน มันพยายามกดตัวลงน้ำ แต่ติดตัวเมียที่กำลังวางไข่ ตัวเมียไม่รู้ว่าภัยถึงตัว มันจึงขวางตัวผู้ไว้ คนก็จึงจับได้ ทีเดียวสองตัวกับดักของอึ่ง อยู่ที่ตัวอึ่งเอง กับดักแรกเสียงร้องหาคู่ เรียกคนให้เข้าไปหา กับดักต่อมา ช่วงเวลาของความรักความใคร่ อึ่งตัวผู้จะหนี อึ่งตัวเมียกำลังวางไข่ไม่ยอมให้หนี...สองกับดักนี้ เป็นเหตุ ให้อึ่งกลายเป็นอาหารจานโปรดให้คนในโลกนี้ ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นกับดัก ตีกรอบขังมนุษย์ได้ทั้งนั้น ไม่แน่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน บ้าน รถยนต์ ความเชื่อ ฯลฯ รวมไปถึงธรรมชาติ อย่างถ้ำที่ก็อยู่กับที่กับทาง หน้าแล้งเป็นที่ท่องเที่ยว แต่หน้าน้ำก็เป็นมหาภัยรู้จักความจริงของกับดัก รู้คุณกับดัก ใช้ประโยชน์กับดักให้เป็น รู้โทษของกับดัก โอกาสอยู่รอดปลอดภัยมีมากกว่าไม่รู้อะไรเลย.กิเลน ประลองเชิง