หนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม กรอบตีพิมพ์ล่วงหน้าสำหรับส่งไปขายต่างจังหวัดทั่วประเทศไทย พาดหัวข่าวหน้า 1 ได้อย่างถูกใจผมจนต้องตัดใส่แฟ้มไว้เป็นพาดหัวหน้า 1 ที่ให้ความรู้สึกที่ขัดแย้งกัน มีทั้งในส่วนที่ปลาบปลื้มดีใจและน่ายินดี กับในส่วนที่เป็นความทุกข์ ความกังวลอันเป็นปัญหาหลักของประเทศชาติ ที่จะต้องแก้ไขต่อไปในอนาคตพาดหัวที่น่าปลาบปลื้มยินดีมีใจความว่า “ตระกูลซีพีแชมป์มหาเศรษฐีไทย มั่งคั่งเฉียดล้านๆ จิราธิวัฒน์ตามติด” พร้อมกับรายงานข่าวให้ทราบผลการจัดอันดับ 50 อภิมหาเศรษฐีของประเทศไทย ประจำปี 2561 โดย นิตยสารฟอร์บส์มีรายละเอียดว่า...รวยอันดับ 1 ได้แก่ตระกูล เจียรวนนท์ มีทรัพย์สิน 930,000 ล้านบาท อันดับ 2 ตระกูล จิราธิวัฒน์ ทรัพย์สิน 657,200 ล้านบาท 3.นาย เฉลิม อยู่วิทยา ทรัพย์สิน 651,000 ล้านบาท 4.นาย เจริญ สิริวัฒนภักดี ทรัพย์สิน 539,400 ล้านบาท 5.นาย วิชัย ศรีวัฒนประภา ทรัพย์สิน 161,200 ล้านบาทผมขออนุญาตยกตัวอย่างเพียง 5 รายชื่อก็แล้วกันนะครับ เพราะถ้าลงหมดทั้ง 50 รายชื่อ สัปดาห์เต็มๆก็คงจะยังไม่หมดสำหรับพาดหัวที่สอง ซึ่งเป็นพาดหัวในเชิงความทุกข์และเป็นปัญหาของประเทศไทยที่จะต้องแก้ไขต่อไปนั้น มีข้อความว่า “โชว์บิ๊กดาต้าโรดแม็ปแก้จน...ชี้ปัญหารายจังหวัด-อาชีพ”พร้อมกับรายงานโดยละเอียดว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯคลอดบิ๊กดาต้าแก้ปัญหา “คนจน” แบบชี้เป้ารายจังหวัดละเอียดยิบ พร้อมกับเผยรายชื่อ 10 จังหวัดยากจนสุดของประเทศ เรียงตามลำดับ ดังนี้1.แม่ฮ่องสอน 2.กาฬสินธุ์ 3.บุรีรัมย์ 4.น่าน 5.นครพนม 6.นราธิวาส 7.ปัตตานี 8.ชัยนาท 9.ตาก และ 10.อำนาจเจริญโดยเฉพาะ แม่ฮ่องสอน มีรายละเอียดว่ามีประชากร 68,909 คน มีคนจน 24,132 คน มีเด็กที่ไม่ได้รับการศึกษาภาคบังคับ 6,778 คน ไม่ได้รับสิทธิรักษาพยาบาล 10,113 คน อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ 8,843 คน และเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน 9,859 คนผู้แถลงข่าวนี้ก็คือท่าน รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สุวิทย์ เมษินทรีย์ เจ้าตำรับ “ไทยแลนด์ 4.0” นั่นเอง...เมื่อไปดำรงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนี้ ก็นำวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้จนสามารถระบุรายละเอียดของคนยากจนในประเทศไทยได้อย่างชนิด “ชี้เป้า” เป็นรายคน รายหมู่บ้าน รายตำบล รายจังหวัด ดังกล่าวที่ผมต้องขอบคุณหัวหน้าข่าวของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐที่นำข่าวนี้มาพาดหัวคู่กัน ก็เพราะจะเป็นการช่วยให้รัฐบาลไทย ตลอดจนพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศที่มีโอกาสอ่านทั้ง 2 ข่าวนี้ได้รับรู้รับทราบถึงความเป็นจริงของประเทศไทยรัฐบาลนั้นรับทราบอยู่แล้ว เพราะสภาพัฒน์ได้เขียนไว้อย่างชัดเจนใน แผนพัฒนา ฉบับที่ 12 ว่า แม้จำนวนคนจนในประเทศไทยจะลดลงแต่ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนกลับเพิ่มมากขึ้นตัวเลขล่าสุดระบุว่า คนไทยรวย 10 เปอร์เซ็นต์ข้างบนมีรายได้มากกว่าคนไทยยากจน 10 เปอร์เซ็นต์ข้างล่าง ถึง 35 เท่า และคนรวย 10 เปอร์เซ็นต์ที่ว่านี้เป็นเจ้าของทรัพย์สินถึง 79 เปอร์เซ็นต์ของประเทศสำหรับคนรวยที่ติดอันดับทั้ง 50 ท่าน รวมทั้งที่ไม่ได้อยู่ในอันดับ แต่ก็ถือว่ารวยเช่นกันที่อยู่ใน 10 เปอร์เซ็นต์ข้างบนของประเทศ ผมไม่แน่ใจว่าจะทราบหรือไม่ว่าประเทศไทยเรายังมีความยากจนอยู่มากอย่างน้อยการนำมาพาดหัวคู่กัน ก็คงจะทำให้คนรวยทั้ง 50 คน รับรู้ว่าในวันนี้ประเทศไทยยังมีคนจนอยู่และรัฐบาลกำลังจะช่วยอยู่ที่ผ่านมา ผมก็ทราบว่าคนรวยหลายๆท่าน รวมทั้งที่มีชื่ออยู่ใน 50 อันดับที่ฟอร์บส์ประกาศคราวนี้ก็เคยมีโครงการการมีผลงานลงไปช่วยคนจน ผ่านมูลนิธิของท่าน หรือผ่านงาน CSR ของท่านแต่ความยากจนนั้นยังไม่หมดลงและช่องว่างก็ยังมิได้แคบลงคงต้องฝากให้คนรวยทั้งหลายทั้งที่มีชื่อในบัญชี 50 ท่านนี้และคนรวยอื่นๆที่อยู่ในนอกบัญชีช่วยเหลือคนจนกันต่อไปครับจะปล่อยรัฐบาลฝ่ายเดียวคงไม่ได้หรอก เพราะคนภาครัฐที่ดีก็มี ที่ไม่ดีก็มาก ดูเถอะเมื่อเร็วๆนี้ยังมีข่าวเลย ข้าราชการของกระทรวงหนึ่งระดับผู้ใหญ่ซะด้วยนะ ยังโกงเงินในโครงการการช่วยเหลือคนจนเลยหน้าที่ในการช่วยคนจนบ้านเราจึงสมควรที่จะเป็นของทุกๆคน ที่รวยแล้วในประเทศนี้--ผมฝากไว้ด้วยก็แล้วกันครับ!“ซูม”