จะเปิดหน้าใหม่ หรือซํ้ารอยคงมีหลายคนคิดถึงอนาคตการเมืองประเทศไทยในก้าวต่อไปว่าจะดำเนินไปอย่างไร และที่คิดมากขึ้นเรื่อยๆก็คือคณะ “ยึดอำนาจ” ชุดนี้ หรือที่เรียกว่า คสช.จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ทางการเมืองได้หรือไม่หมายความว่าจะ “ต่อท่ออำนาจ” หลังจากคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการจัดให้มีการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยได้หรือไม่ที่พอมีไมตรีก็ส่งเสียงเตือนว่า “พอแล้ว” เดี๋ยวจะลำบากที่ไม่ยั้งไมตรีก็บอกว่ากลับไปศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองไทยให้ดีว่าที่คิดจะต่อท่ออำนาจนั้นไม่มีทางเพราะมีแต่ความล้มเหลวขอจับความสั้นๆในห้วงการเมืองที่ผ่านมาเอาแค่สัก 50 กว่าปีก่อน ที่เรียกกันว่า “รัฐบาลถนอม-ประภาส” ที่ต้องพ่วง 2 ชื่อ ก็เพราะคนหลังนั้นมีบทบาททางเผด็จการสูงกว่านักจะว่าใครเล็ก-ใครใหญ่ไม่ได้เพราะอำนาจพอกันแต่คนละตำแหน่งเท่านั้นหลังจากมีความจำเป็นที่จะต้องผ่อนปรนความเป็นรัฐบาลเผด็จการ จึงจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบรัฐสภาและยังมั่นใจว่าสามารถควบคุมอำนาจเอาไว้ได้มีการตั้งพรรคการเมืองใหม่เอี่ยมชื่อว่า “พรรคสหประชาไทย” รวบรวมนักการเมืองหน้าเก่าๆเข้ามาชุมนุมกันเพียบเพื่อสมัย พล.อ.ถนอม กิตติขจร เป็นนายกฯต่อไปแต่ก็เกิดปัญหาทางการเมือง เพราะบรรดานักการเมืองในตอนนั้น ล้วนเขี้ยวลากดินคุมไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องยึดอำนาจตัวเอง“สหประชาไทย” ก็จบไปโดยดุษณีมาสมัยที่ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ได้ยึดอำนาจรัฐบาล ธานินทร์ กรัยวิเชียร แล้วได้เป็นนายกฯ แต่ต้องประกาศลาออก เนื่องจากปัญหาราคานํ้ามันและถูกกลุ่มยังเติร์กกดดันจากนั้นก็ไปตั้งพรรคการเมืองชื่อว่า “ชาติประชาธิปไตย” ด้วยการ รวบรวมนักการเมืองหน้าเก่าทั้งหลายไปร่วมสังฆกรรมมากมาย ว่ากันว่าความเหนือชั้นก็คือพรรคนี้ “ทุนหนา”พล.อ.เกรียงศักดิ์ได้ลงเลือกตั้งที่จังหวัดร้อยเอ็ดและชนะการเลือกตั้งเป็นประวัติการเมืองที่เรียกขานกันว่า “โรคร้อยเอ็ด” ระบาดมาจนถึงทุกวันนี้มีอีกคนสมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกฯ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ ยึดอำนาจภายใต้พลังกองทัพภายใต้การนำของ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ผู้นำรุ่น 5แต่ครั้งนั้นให้ “อานันท์ ปันยารชุน” เป็นนายกฯเมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญและให้มีการเลือกตั้งพรรคการเมืองหนุนทหารชื่อพรรค “สามัคคีธรรม” ให้นายณรงค์ วงศ์วรรณ เป็นหัวหน้าพรรคก็ไปไม่รอดอีกเช่นกันมาถึงยุคทักษิณครองเมือง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติยึดอำนาจสำเร็จและจัดให้มีการเลือกตั้ง มีการตั้งพรรคการเมืองแต่ก็ล้มเหลวเสียท่านักการเมืองซํ้ารอบเดิมวันนี้มาถึงยุค คสช.ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งควบทั้งหัวหน้าและนายกฯ ก็มาในอีหรอบเดียวกัน แม้จะ อยู่ในอำนาจมาถึง 4 ปีเต็มๆแล้วก็ตามการตั้งพรรคการเมืองที่แม้จะยังไม่ชัดแต่ก็รับรู้กันดีว่าน่าจะเป็น “พลังประชารัฐ” โดยมีทีมงานในรัฐบาลชุดนี้ทำการขับเคลื่อนก็มีคำถามเช่นกันว่า ในบริบทการเมืองไทยที่เปลี่ยนไปอย่างนี้ โอกาสที่พรรคสนับสนุน คสช.จะก้าวไปสุดฝั่งฝาหรือไม่หรือก็เพียงแค่เรื่องเก่าๆเดิมๆที่นำมาฉายซํ้าเท่านั้น.“สายล่อฟ้า”