เมื่อวานนี้ผมเขียนถึงปรากฏการณ์ที่คนแก่อย่างผมไม่ค่อยเคยพบเคยเห็นเท่าไรนัก ที่มีผู้คนหลายพันคนไปนั่งเข้าคิวยาวเหยียดข้ามคืนที่หน้าห้างเดอะมอลล์ บางกะปินึกว่าไปรออะไรกัน เขาจะมีสินค้าราคาถูกลดกระหน่ำอะไรมาขายหรืออย่างไร? ผู้คนถึงได้รอกันล้นหลามขนาดนั้นปรากฏว่า ไม่ใช่ครับ...หนุ่มๆสาวๆจำนวนมากมายเหล่านี้มาเข้าคิวรอเพื่อจะให้ได้สิทธิเป็นคนแรกๆในการจับมือนักร้องนักเต้นวัยรุ่นวง BNK 48 เจ้าของเพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” ที่พวกเขาชื่นชมคนแก่ที่เคยเข้าคิวข้ามคืนเหมือนกันเมื่อ 30-40 ปีก่อนอย่างผมเพราะอยากได้เลขหมายโทรศัพท์ไว้ใช้ที่บ้าน ก็เลยต้องนำมาบันทึกเอาไว้ พร้อมกับฝากความคิดความเห็นตามสไตล์ของผมไป 2-3 ข้อวันนี้ขออนุญาตเขียนต่ออีกนิดนะครับ เพราะเมื่อวานผมใช้คำฮิตคำหนึ่งที่ใช้กันเยอะในยุคนี้ ในการบรรยายความสำเร็จของนักร้องสาววงนี้ นั่นก็คือคำว่า “ไอดอล” ที่มาจากภาษาอังกฤษว่า “Idol” ที่ผมเอ่ยถึง 2-3 หนในคอลัมน์ในพจนานุกรมฉบับกะทัดรัดรวมศัพท์ 40,000 คำ ของ ซีเอ็ด ที่ผมชอบใช้เพราะพกพาสะดวก ให้คำจำกัดความเอาไว้ว่า“Idol n. บุคคลหรือสิ่งที่มีผู้คนมานิยมนับถือ, เทวรูป, วัตถุบูชา” แต่ถ้าเป็นคุณศัพท์ หรือ adj. จะใช้คำว่า “Idolatrous หมายถึง หลงใหล และเกี่ยวกับการบูชา”แสดงว่าคำคำนี้น่าจะมีความหมายไปในทางที่ดี คนที่ได้รับการยกย่องให้เป็น Idol ควรจะเป็นคนดีพอสมควร เพราะในภาษาอังกฤษบางครั้งเขาก็ใช้กับเทวรูป หรือวัตถุบูชา เอาด้วยซ้ำดังนั้น ที่เมื่อวานผมเขียนว่าสาวๆ BNK 48 เป็น ไอดอล ของหนุ่มสาวจำนวนมาก เพราะสมาชิกวงนี้มีประวัติเรียนเด่น เต้นดี ร้องเพลงดี เป็นดาวมหาวิทยาลัยทุกคน...จึงน่าจะเป็นการหยิบมาใช้ที่ถูกต้องเพราะคนจะเป็นไอดอลจะต้องมีความดีงามอะไรอยู่บ้างในตัว เพื่อให้คนอื่นๆจำเป็นแบบอย่าง อย่างที่ว่าการเต้นกินรำกินในยุคนี้ ถือเป็นอาชีพที่มีเกียรติอาชีพหนึ่ง การที่เด็กสาวๆเหล่านี้มาร้องมาเต้น แต่ก็ยังเรียนหนังสือด้วย แถมบางคนยังเรียนเก่งอีกต่างหาก จึงถือได้ว่าเป็นแบบอย่าง หรือไอดอลอย่างแท้จริงเขียนถึงคำว่าไอดอลมาถึงตรงนี้ ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่า เมื่อไม่นานมานี้เอง ได้มีการรณรงค์ในโซเชียลมีเดีย ขอให้มีการใช้คำว่าไอดอลให้ถูกต้องสำหรับการยกย่องคนบางกลุ่มในสื่อออนไลน์เพราะมีการไปเขียนเป็นเชิงยกย่องให้บุคคลบางคนเป็น Net Idol ทั้งๆที่มิได้กระทำความดีความงามแต่อย่างใดเลยเพียงแค่ออกมาทำตัวให้ดัง แล้วก็สร้างกระแสโน่นนี่ให้คนรู้จักเข้าหน่อยก็เป็น Net Idol กันหมดแล้วจึงเกิดการรณรงค์ให้เข้าใจคำว่า Idol ควบคู่ไปกับคำว่า Idiot (ซึ่งคำหลังนี้อ่านว่า อีเดียต) ที่พจนานุกรมเล่มเดียวกันนี้ให้คำจำกัดความสั้นๆว่า “n. คนที่โง่หรือเซ่อ” เพียง 2 คำเท่านั้นแต่พจนานุกรมเล่มอื่นๆมักขยายความกว้างกว่านี้ ใช้คำว่า “ทึ่ม” คำว่า “ปัญญาอ่อน” และคำว่า “บ้องตื้น” ก็ยังมีผมจำรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้ เพราะผ่านตามานานแล้วละ แต่จำประเด็นของการรณรงค์ได้เป็นอย่างดีว่า ต่อไปนี้ใครอยากทำตัวโฉ่งฉ่าง เด่นดังในโลกออนไลน์ให้แยกแยะให้ดีเสียก่อนว่าดังแบบไหนถ้าดังในทางที่ดี เด็กๆหรือใครก็ตามเอาเยี่ยงเอาอย่างแล้วไม่เสียหาย มีแต่จะเป็นคุณประโยชน์ ทำให้เด็กๆหรือผู้ตามได้รับประโยชน์ในทางที่ดี ค่อยยกให้เป็น Net Idol เขียนชื่นชมให้เต็มที่แต่ถ้าดังในทางเสียหาย สังคมเอาอย่างแล้วก็จะเสียหาย ก็ให้เรียกเสียว่า Net Idiot หรือเจ้าโง่ เจ้าทึ่มแห่งโลกออนไลน์ซะเลยผมเห็นด้วยกับการรณรงค์เรื่องนี้ครับ และฝากให้ช่วยรณรงค์อย่างกว้างขวางต่อไปด้วยพอดีเมื่อวานมีข่าวเครื่องสำอางตุ๋นประชาชน ไม่มี อย. ไม่ผ่าน อย. แต่บอกว่าผ่าน แถมให้ ดารา บ้าง ให้ เน็ตไอดอล บ้าง ไปรีวิว ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ แลกกับเงินครั้งละ 50,000 บาท“เน็ตไอดอล” (ที่เรียกกันเอง) คนไหนไปช่วยรีวิวให้เครื่องสำอางยี่ห้อนี้นี่แหละ น่าจะเหมาะกับคำว่า “เน็ต อีเดียต” มากที่สุด...เพราะ “อีเดียต” จริงๆ เห็นแก่เงินลูกเดียว ไม่สอบถามหาข้อเท็จจริงเลยว่าผ่าน อย.แล้วหรือยัง!“ซูม”