ลากคออดีตหนุ่มแบงก์เปิดเฟซบุ๊กรับซื้อบัญชีธนาคารพร้อมบัตรเอทีเอ็มราคาหลักร้อยแต่เอาไปขายให้สารพัดแก๊งมิจฉาชีพไว้หลอกลวงเหยื่อให้โอนเงินเข้าบัญชี ตั้งแต่ราคา 3,000-20,000 บาท ทำมาแล้วกว่า 1 ปี 50 บัญชี ตำรวจท่องเที่ยวจับมือตำรวจโรงพักสุทธิสาร จับกุมได้คาอพาร์ตเมนต์ย่านเสนานิคมจับอดีตหนุ่มแบงก์ขายบัญชีธนาคารให้มิจฉาชีพ ไปก่อเหตุ เปิดเผยขึ้นที่ สน.สุทธิสาร เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 20 เม.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมกับ พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผบก.ทท.2 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.ท.เธียรธวัช อรรจนะเวทางค์ รอง ผกก.ปฏิบัติงาน กอ.รมน. ร่วมกันจับกุมนายนัฐชา พันธุ์คุ้มเก่า อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 763/2561 ลงวันที่ 11 เม.ย. 2561 ข้อหาใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ จับกุมผู้ต้องหาได้ที่ศศิวิมลอพาร์ตเมนต์ ซอยพหลโยธิน 32 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กทม.พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่า นายนัฐชาใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “ภานุพงศ์ สินชัยเจริญ” เปิดกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อว่า “รับซื้อ ขายสมุดบัญชี+บัตร ATM” ในกลุ่มมีสมาชิกประมาณ 100 ราย ใช้พูดคุยเรื่องซื้อขายบัญชีธนาคาร ผู้ที่ขายบัญชีจะต้องมีเอกสารประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน บัตรเอทีเอ็มพร้อมรหัส สมุดบัญชี และซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนไว้กับบัญชี เมื่อส่งมาแล้วผู้ต้องหาจะเช็กบัญชีดังกล่าวว่าใช้ได้ หลังจากนั้นไม่เกิน 3 วัน ผู้ต้องหาจะโอนเงินจำนวน 900-1,000 บาท ให้คนที่ขายบัญชีธนาคาร เมื่อได้บัญชีมาผู้ต้องหาจะนำบัญชีไปขายต่อให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือกลุ่มแก๊งใช้ทำความผิดราคาตั้งแต่ 3,000-20,000 บาท“จากการตรวจสอบพบว่า นายนัฐชาเคยประกอบ อาชีพเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง มีความคล่องตัวเรื่องการเปิดปิดบัญชี ก่อนผันตัวเองมาเป็นมิจฉาชีพประมาณ 1-2 ปี จากการตรวจสอบพบว่า ขายบัญชีธนาคารไปแล้ว 50 บัญชี บางบัญชีไปเกี่ยวพันกับเฟซบุ๊กของเซียนพระชื่อดัง หลอกเอาเงินจากผู้เล่นพระที่มาเช่า หลังผู้เสียหายโอนเงินให้แล้วไม่ยอมส่งพระให้ตามที่ตกลง ก่อนปิดเฟซบุ๊กดังกล่าวไป อยากฝากเตือนไปยังผู้กระทำความผิดว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีรายชื่อผู้ที่เอาบัญชีไปเปิดจำนวน 134 ราย อย่างไรก็ตาม การเอาบัญชีมาขายมีความผิดทุกราย ปรึกษาหารือกับ ปปง.แล้ว เพื่อชี้มูลฐานความผิดให้ชัดเจน” รอง ผบช.ทท.กล่าว หลังสอบสวนเบื้องต้น ส่งตัวนายนัฐชาให้พนักงานสอบสวน สน.สุทธิสารดำเนินคดีต่อไป
