วันเสาร์สบายๆ วันนี้ผมชวนท่านผู้อ่านไปคุยเรื่อง “กอล์ฟ” กันดีกว่านะครับ ช่วงนี้รายการกอล์ฟกลับมาฮิตอีกครั้ง เมื่อ ไทเกอร์ วูดส์ อดีตโปรกอล์ฟมือหนึ่งของโลกกลับมาเล่นดีอีกครั้ง ทำให้มีแฟนกอล์ฟติดตามรายการกอล์ฟกันมากขึ้น สนามกอล์ฟ St. Andrews Links Old Course ในประเทศ สกอตแลนด์ ที่ผมเพิ่งไปเล่นมาวันก่อน เป็นสนามที่ใช้แข่งขันกอล์ฟรายการใหญ่ The Open และ เป็นสนามกอล์ฟในฝันของนักกอล์ฟทั่วโลกเลยทีเดียว เป็นสนามที่ให้กำเนิดกีฬากอล์ฟ ก่อตั้งเมื่อปี 1552 หรือ 466 ปีมาแล้ว ปัจจุบันสภาพ สนามก็ยังเนี้ยบและเล่นยากเหมือนเดิมความยากอีกอย่างของ สนามกอล์ฟ เซนต์ แอนดรูส์ โอลด์ คอร์ส ก็คือ การจองเวลาออกรอบ มีคนจองเต็มล่วงหน้ากันหลายปี ไม่ว่าหน้าฝน หน้าหนาว หน้าร้อนสนามกอล์ฟ เซนต์ แอนดรูส์ โอลด์ คอร์ส แม้จะจองยาก เล่นยาก แต่ค่ากรีนฟีถูกมากเมื่อเทียบกับสนามระดับดีในเมืองไทย ช่วงหน้าหนาวโลว์ซีซั่น 1 มกราคม-31 มีนาคม อุณหภูมิบางวันติดลบ บางวันศูนย์องศา สูงสุดไม่เกิน 4-5 องศา บางวันฝนตก ลมแรง ถ้าโชคดีก็เจอแดดแต่ก็ยังหนาวจัด ค่ากรีนฟี 18 หลุมอยู่ที่ 88 ปอนด์ คูณ 44 บาท ก็ตก 3,872 บาท ช่วงอากาศอุ่นขึ้นมานิดแต่ก็ยังหนาวมาก 1-15 เมษายน ค่ากรีนฟี ขยับขึ้นเป็น 123 ปอนด์ 5,412 บาท ช่วงไฮซีซั่น 16 เมษายน-14 ตุลาคม ค่ากรีนฟีแพงที่สุด 180 ปอนด์ 7,920 บาท แพงกว่าสนามกอล์ฟห้าดาวของไทยนิดหน่อยแต่หลังวันที่ 15 ตุลาคม เข้าสู่หน้าหนาว เดือนพฤศจิกายน ธันวาคม ค่ากรีนฟีก็ลดลงเหลือ 125 ปอนด์ และ 90 ปอนด์ คือเปิดให้เล่นกอล์ฟได้ตลอด ทั้งปี ยกเว้นวันที่มีหิมะตกหนักหรือฝนตกหนัก เล่นไม่ได้ ต้องปิดสนามเท่านั้นไปเล่นกอล์ฟที่สนาม เซนต์ แอนดรูส์ โอลด์ คอร์ส ครั้งนี้ ผมนั่งรถไฟจาก ลอนดอน ไปลงที่ เอดินเบอระ เมืองหลวงของสกอตแลนด์ ใช้บริการรถไฟของ เวอร์จิน ทรานส์ อีสต์ โคสต์ ขึ้นรถไฟที่ สถานีคิงส์ครอส ใช้เวลาเดินทางสี่ชั่วโมงเศษก็ถึง ด้วยความเร็ว 180 กม.ต่อชั่วโมง จอดแค่ 4 สถานี อังกฤษไม่มีรถไฟความเร็วสูงขนาด 250-300 กม.อย่างที่ไทยกำลังสร้าง สูงสุดก็ 180 กม. แต่ทุกหนทุกแห่งในอังกฤษมีรถไฟไปถึงหมด ทำให้ประชาชนมีรถไฟราคาถูกใช้ทั่วประเทศผมพักที่ โอลด์ คอร์ส โฮเต็ล โชคดีได้ห้องพักติด หลุม 17 เดอะโรด โฮล พอดี เลยได้มีโอกาสชื่นชมสนามกอล์ฟเต็มตา โดยเฉพาะ หลุม 18 ที่มีสะพาน ประวัติศาสตร์ The Swilcan Bridge อายุเก่าแก่กว่า 700 ปี เป็นจุดไฮไลต์ ของสนามเซนต์ แอนดรูส์ ที่นักกอล์ฟและนักท่องเที่ยวจะต้องมาถ่ายรูปกันจุดนี้ ผมก็ไปเต๊ะท่าถ่ายรูปตรงจุดนี้เหมือนกัน หน้ากรีนหลุม 18 จะมีอุปสรรค ที่โด่งดังมาก The Valley of Sin หลุมนี้ผมเกือบได้เบอร์ดี้ออกพาร์สนามกอล์ฟ เซนต์ แอนดรูส์ โอลด์ คอร์ส จะมีชื่อเรียกแต่ละหลุม เช่น 3 หลุมดัง หลุม 1 ชื่อ Burn หลุม 17 ชื่อ Road หลุม 18 ชื่อ Tom Morris เป็นต้น วันที่ผมออกรอบถือว่าโชคดีมาก มีแดดอ่อนๆแต่เช้า ลมไม่แรง อุณหภูมิ 2-3 องศาเซลเซียส หนาวระดับนี้ชุดอุลตราวอร์มของยูนิโคล่เอาอยู่สบาย ที่สำคัญก็คือหัวและหูสองข้าง ต้องใส่หมวกกันหนาวปิดให้มิดชิด มือสองข้างต้องใส่ถุงมืออุ่นรักษาเอาไว้ ไม่งั้นมือจะหนาวชาจนไร้ความรู้สึกเลยทีเดียว หนาวขนาดนั้นนักกอล์ฟยังเต็มสนามแคดดี้ที่นี่เป็นผู้ชายหมด ค่าแคดดี้บวกทิปจะตกราว 80-100 ปอนด์ แต่ถ้าไม่มีแคดดี้ก็เล่นไม่สนุก ต้องแบกถุงกอล์ฟเอง ดูแผนที่สนามกอล์ฟเอง แต่ละหลุมจะตีไปทางไหน เพราะเป็นสนามลิงก์คอร์ส ไม่มีต้นไม้ดูลำบาก และต้องเล่น 18 หลุมให้จบใน 4 ชั่วโมง ถ้ามีแคดดี้จะเล่นได้สนุกขึ้น แคดดี้จะช่วยแบกถุงกอล์ฟ บอกระยะ บอกหลุมทราย บอกอุปสรรค ถ้าไดรฟ์ออกไปอยู่แฟร์เวย์ จะต้องตีบนแผ่นหญ้าเทียมทุกช็อต ไม่ให้ตีบนแฟร์เวย์ เพื่อรักษาสภาพสนามเอาไว้ เลยไม่ค่อยมันเท่าไหร่ แต่ถ้าลูกไปตกอยู่ในรัฟก็ให้ตีในรัฟได้แม้จะหนาวมาก เล่นกอล์ฟในอุณหภูมิ 2-4 องศา แต่ก็สนุกครับ 18 หลุมสกอร์ของผมออกมาดีพอใช้ ถือเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าในชีวิต ได้เล่นกอล์ฟในสนามที่เป็นต้นกำเนิดของกีฬากอล์ฟเมื่อ 600 ปีก่อน จนถึงปัจจุบันสภาพสนามก็ยังดีเยี่ยม.“ลม เปลี่ยนทิศ”