ทุกเสียงชื่นชม “รอมแพง” นักประพันธ์มือทองที่สร้างสรรค์ผลงานวรรณกรรมคุณภาพจนเกิดกระแส “บุพเพสันนิวาสฟีเวอร์” ทั้งแผ่นดิน “ประวิทย์” บิ๊กบอสช่อง 3 ทาบทามสร้างหนังโกยเงินล้าน กระทรวงวัฒนธรรมประกาศพร้อมหนุนผู้ผลิตละครคุณภาพสร้างสรรค์ ดันสร้างบุพเพสันนิวาสภาค 2 ใช้ชื่อ “พรหมลิขิต” คงร่ายมนตร์กฤษณะกาลี เชื่อมยุคของพระเพทราชา-พระเจ้าเสือ-พระเจ้าท้ายสระถึงพระบรมโกศ แย้มรู้ตัวมือดีนำนิยายไปเผยแพร่แล้วถือเป็นประวัติศาสตร์วงการละครเมืองไทย “บุพเพสันนิวาสฟีเวอร์” แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ กระแส “ออเจ้า” ดังเปรี้ยงปร้าง ดันเรตติ้งละครไทยพุ่งสูงปรี๊ด รวมถึงสร้างกระแสอนุรักษนิยมความเป็นไทย และยังโด่งดังไกลไปถึงบางประเทศด้วยเมื่อตอนสายวันที่ 15 มี.ค. ที่โรงละครเล็กศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จัดเสวนา “ย้อนรอย ต่อยอด บุพเพสันนิวาส” มีการเชิญผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ผู้ประพันธ์ละคร ทีมผู้สร้าง นักแสดง จากละครบุพเพสันนิวาส นำโดย นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) หน่อง-อรุโณชา ภาณุพันธ์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด อำภา ภูษิต ผู้รับบท “อีปริก” และวิมลพันธ์ ชาลีจังหาร ผู้รับบท “อีจวง” รวมถึง จันทร์ยวีร์ สมปรีดา หรือรอมแพง ผู้ประพันธ์ละครบุพเพสันนิวาส ตลอดจนนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณคดีและประวัติศาสตร์ มาร่วมเสวนา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภาพรวมของการ จัดงานเป็นแบบย้อนยุคไปสู่กรุงศรีอยุธยา มีการจำลองตลาดโบราณ ออกร้านขายของ นำอาหารและขนมที่ปรากฏในละครมาโชว์และให้ชิม ทั้งมะม่วงน้ำปลาหวาน แกงมัสมั่น แกงเขียวหวาน ขนมท้าวทองกีบม้า หรือทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ฯลฯ นอกจากนี้ ยังได้จัดฉากแบ็ก ดรอปเป็นฉากพายเรือผ่านวัดไชยวัฒนารามมาตั้งให้ผู้ร่วมงานได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ให้เข้ากับละครบุพเพสันนิวาส ขณะที่ผู้ร่วมงานต่างแต่งกายชุดไทยสวยงาม มาร่วมย้อนรอยประวัติศาสตร์ ทำให้บรรยากาศเป็นที่คึกคักสนุกสนานนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ยังขอย้ำชื่นชมละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ในการส่งเสริมความเป็นไทยครบถ้วนทุกประการ ทั้งด้านประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต อาหาร ภาษา การแต่งกาย เป็นกระแสถึงขั้นที่มีหลายคนกล่าวว่า ถ้าใครไม่ได้ดูละครเรื่องนี้แล้วจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง ในส่วนของกระทรวง พร้อมสนับสนุนการผลิตสื่อละคร รายการโทรทัศน์ รวมภาพยนตร์ ที่มีคุณภาพ ทุกรูปแบบ ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้จัดตั้งกองทุนพัฒนา สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ผู้ผลิตสื่อที่สร้างสรรค์และมีคุณภาพ สามารถขอรับการสนับสนุนเงินทุนในการผลิตสื่อได้ กระทรวงจะผลักดันการสร้างตลาดเผยแพร่สื่อคุณภาพออกสู่เวทีนานาชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีแนวทางให้มีการขยายผลเพิ่มเติม ในการรณรงค์การแต่งกายเข้าเที่ยวชมโบราณสถาน แหล่งประวัติศาสตร์ทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดกระแสการแต่งกายผ้าไทย ต่อยอดส่งเสริมการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดย เสนอให้ชาวบ้านนำเครื่องแต่งกายให้นักท่องเที่ยวได้เช่าหรือจำหน่าย รวมถึงการจำหน่ายสินค้าที่ระลึก“ผมเชื่อว่ากระแสละครบุพเพสันนิวาส จะมีอีกนานจนกว่าละครจบ จะถือโอกาสนี้ส่งสัญญาณให้ผู้จัด ผู้สร้าง ผู้ผลิต ได้ร่วมกันสร้างสรรค์สื่อที่มีคุณภาพต่อเนื่องเรื่อยไป ขณะเดียวกันจะขับเคลื่อนการรณรงค์ให้คนไทยได้เห็นความสำคัญของประวัติศาสตร์ รักความเป็นไทยทุกมิติ กระทรวงจะต้อง ขอความร่วมมือในการระดมความคิดจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานสำเร็จเห็นผลในระยะยาว และหลังจากนี้กระทรวงพร้อมให้การสนับสนุน การดำเนินงานผลิตละครบุพเพสันนิวาส ภาค 2 ซึ่งทราบว่าใช้ชื่อว่า พรหมลิขิต ทั้งในส่วนข้อมูลเชิงวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ภาษา ตลอดจนสถานที่ถ่ายทำที่เกี่ยวข้องด้วย” รมว.วัฒนธรรมกล่าวขณะที่นายบุญเตือน ศรีวรพจน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอักษรศาสตร์ (ภาษาและวรรณกรรม) กล่าวว่าขอชื่นชมด้วยความจริงใจ ในการสร้างสรรค์ละครออกมาได้อย่างดี รวมทั้งขอชื่นชมรอมแพง ในฐานะนักสร้างสรรค์ผลงานวรรณกรรมอีกรุ่นหนึ่งที่มีคุณภาพ ขณะที่ผู้จัดสร้าง ได้ศึกษาข้อมูลประวัติศาสตร์และถ่ายทอด เนื้อหาผ่านบทสนทนาของตัวละครออกมาได้อย่างละเอียด อยากให้ผู้ชมเข้าใจด้วยว่าละครก็คือละคร ผู้ประพันธ์ได้ประพันธ์ละครอิงประวัติศาสตร์ ไม่ใช่เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ผู้สร้างก็มีข้อจำกัดในการสร้าง ทั้งระยะเวลาในการทำงานเป็นปัจจุบันฉากที่ไม่สามารถทำให้เหมือนจริงได้ทั้งหมด ดังนั้นผู้ชมควรแยกส่วนข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสังคม กับเรื่องราวที่สอดแทรกเข้าไปในตัวละครนั้นๆ ทั้งในด้านอารมณ์ ความรู้สึก และพฤติกรรมของตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ ส่วนนายประวิทย์ มาลีนนท์ บิ๊กช่อง 3 กล่าวว่า ในยุคนี้เป็นยุคปฏิรูปสื่อ ทุกช่องพยายามที่จะร่วมกันพัฒนาสื่อให้ดีขึ้น แต่เมื่อต้องพบกับสถานการณ์การแข่งขันกันหนัก หลายช่องก็คิดทำเรื่องแผลงๆ จึงไม่บรรลุผลของการส่งเสริมสื่อที่มีคุณภาพ นาทีนี้ต้องขอขอบคุณรอมแพง ผู้ประพันธ์ละครที่ใจกล้าและยอมเสียเวลาในการค้นคว้าเพื่อประพันธ์ละครใช้เวลานานถึง 3 ปี นับเป็นจังหวะและความโชคดีที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ของกระแสละครที่โด่งดัง แม้ว่าทุกปีก็จะมีปรากฏการณ์ลักษณะเช่นนี้ แต่ก็ไม่ดังและมีผลกระทบต่อเนื่องเท่าเรื่องบุพเพสันนิวาส ได้ทาบทามให้รอมแพงสร้างภาพยนตร์ซึ่งใช้เวลาไม่นาน อยากให้เขาได้รับรางวัลหยิบโกยเงินได้เป็น 100 ล้าน แต่สร้างละครใช้เวลานานร่วมปี นอกจากนี้อยากมีโอกาสแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการผลิตสื่อที่ดี ผลักดันให้นำวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่ยังต่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านอาหารไทยเอกลักษณ์ของประเทศเราด้านเจ้าของบทประพันธ์มือทองผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการละคร “จันทร์ยวีร์ สมปรีดา” หรือ “รอมแพง” กล่าวว่า ดีใจที่ละครบุพเพสันนิวาส ได้รับความนิยมอย่างมากและกระแสการตอบรับเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆอย่างที่อยู่ในละคร แม้แต่ไก่ของจ้อยที่อยู่ในฉากของละคร หรือหลวงศรียศ ที่ออกมาเพียงฉากเดียวก็เป็นที่ชื่นชอบของแฟนละครไปแล้ว ส่วนตัวแปลกใจและคิดไม่ถึงว่าจะได้รับการตอบรับดีขนาดนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากอารมณ์ร่วมของคนดูที่อินไปกับตัวละครของเกศสุรางค์ ตัวเอกของเรื่อง ที่เป็นคนในปัจจุบัน แต่ได้เข้าไปอยู่ในร่างของคนในอดีต เป็นการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ จึงทำให้ผู้ชมคิดภาพตามได้ง่าย“รอมแพง” กล่าวด้วยว่า จากกระแสความนิยมที่เกิดขึ้น ได้มีการพูดคุยกับผู้บริหารสถานีโทรทัศน์และผู้จัดละครเกี่ยวกับงานที่จะมีต่อเนื่องหลังจากนี้ เบื้องต้นอาจจะเป็นละครเวทีหรือภาพยนตร์จะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ขณะนี้ได้เตรียมในส่วนของการเขียนบทประพันธ์ภาค 2 ในชื่อเรื่อง “พรหมลิขิต” ไว้แล้ว แต่จะต้องใช้เวลาในการหาข้อมูลอีกระยะหนึ่ง ที่คิดเอาไว้จะเป็นเรื่องในช่วงรุ่นลูกและ มีเรื่องของมนต์กฤษณะกาลีเป็นตัวเชื่อม เกิดขึ้นในช่วงยุคของพระเพทราชา-พระเจ้าเสือ-พระเจ้าท้ายสระและอาจจะถึงพระบรมโกศ ขณะเดียวกันก็ได้มีการพูดคุยถึงการแปลนิยายเป็นภาษาอังกฤษและจีนไว้บ้างแล้วด้วย“แรงบันดาลใจของการเขียน มาจากความชอบประวัติศาสตร์ อีกทั้งส่วนตัวก็ชอบดูละครอิงประวัติศาสตร์ อย่างเช่น เรื่องสายโลหิต ทวิภพ จึงอยากใช้ความรู้ที่มีรากฐานเกี่ยวกับโบราณคดีและประวัติศาสตร์ของไทยที่เรียนมาต่อยอดนำเสนอในรูปแบบเข้าถึงได้ง่าย ให้คนอ่านแล้วเข้าถึงและมีความสุข ที่ผ่านมางานเขียนส่วนใหญ่ก็เป็นแนวโรแมนติกปนคอมเมดี้ ซึ่งเรื่องต่อไปก็เขียนในลักษณะนี้เช่นกัน ส่วนกระแสยอดขายนิยายบุพเพสันนิวาสเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดพิมพ์ครั้งที่ 73 แล้ว รู้สึกดีใจมากเพราะถือว่าละคร ทำให้นิยายอิงประวัติศาสตร์ขายดีไปด้วย กระตุ้นวงการหนังสือให้มีความคึกคักมากขึ้น ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้ที่นำนิยายไปเผยแพร่นั้น ล่าสุดได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เบื้องต้นก็ทราบตัวผู้กระทำความผิด มีหลายรายยังเปิดเผยไม่ได้ต้องรอหลักฐานและให้เป็นไปตามกระบวนการ” รอมแพงกล่าว