เทพแห่งทรัพย์สินของจีน ที่เรียกกันว่า “ไฉ่ซิ้ง” ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ แต่องค์ที่เป็นหลัก มีคนนับถือกันมากมีอยู่สี่องค์เจ้ากงหมิง เทพแห่งความสุจริตเที่ยงธรรม กวนอู เทพแห่งความซื่อตรง ผดุงความชอบธรรม สององค์นี้ถือเป็นเทพแห่งทรัพย์สินฝ่ายบู๊ปี่กัน เทพความบริสุทธิ์ รักความถูกต้อง และฟ่านหลี เทพแห่งปัญญาในการแสวงหาทรัพย์ สององค์นี้เป็นเทพแห่งทรัพย์สินฝ่ายบุ๋น(ไฉ่ซิ้ง เทพแห่งทรัพย์สินของจีน เทวดาผู้มาแรงในยุคปัจจุบัน ศิลปวัฒนธรรม ฉบับ ก.พ.2561)อาจารย์ ถาวร สิกขโกศล เขียนไว้ในบทท้ายๆว่า เดิมในเมืองไทยมีคนไหว้ไฉ่ซิ้งไม่มาก ไม่กี่ปีมานี้เอง ที่เริ่มมีประเพณีไหว้ไฉ่ซิ้ง ตอน 5 ทุ่ม ในคืนวันไหว้ตรุษจีนจีนในปักกิ่ง เริ่มไหว้ไฉ่ซิ้งก่อน จีนในกว่างโจว จีนกวางตุ้ง ในฮ่องกง มีประเพณีไหว้ไฉ่ซิ้ง ในช่วงสองชั่วโมง ระหว่าง 5 ทุ่ม ถึงตี 1 ของคืนสิ้นปีเก่ากับคืนเริ่มปีใหม่เมื่อแพร่หลายในเมืองไทย แม้มีการไหว้ แต่ก็ไหว้อย่างเรียบง่าย ส่วนมากใช้ส้มกับชาเท่านั้นในกระแสไหว้ไฉ่ซิ้ง อาจารย์ถาวร ทักว่า ออกไปทางงมงาย เช่น การถือทิศ จะต้องตั้งเครื่องเซ่นไหว้ตรงทิศไหน ความเชื่อเรื่องนี้ จึงมีเรื่องขำขันเมื่อทิศนั้นไปตรงกับประตูห้องส้วม การไหว้ส้วม คนไหว้เองก็กระอักกระอ่วนใจไม่น้อยความจริงแล้ว เรื่องทิศมงคลในปฏิทินโหรจีนนั้น ให้คนเปิดบ้านแล้ว หันหน้าไหว้ไปทางทิศนั้น เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ไม่ใช่ทิศที่ไฉ่ซิ้งเสด็จลงความเชื่อนี้มาจากหมอดูและผู้รู้เรื่องจีน ไม่รู้หนังสือจีนดีพอ จึงอธิบายเข้ารกเข้าพงไปสาระดั้งเดิมประการหนึ่งของประเพณีเชิญไฉ่ซิ้ง อาจารย์ถาวร บอกว่า คือการแบ่งปันทรัพย์สินน้อยนิดให้แก่ผู้ยากไร้ที่มาอวยพรคนยากจน มักถือเป็นเวลาส่งรูปไฉ่ซิ้ง สัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง แก่คนร่ำรวยในวันขึ้นปีใหม่ เห็นได้ว่าประเพณีนี้มีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตและสภาพสังคมน่าเสียดายที่คนเดี๋ยวนี้ไม่เข้าใจ กลายเป็นความเชื่อทางโชคลางอย่างเดียวเทพไฉ่ซิ้งหลักทั้งสี่ เจ้ากงหมิง กวนอู ปี่กัน และฟ่านหลี ล้วนแต่ชี้ว่า เงินทองต้องแสวงหาด้วยอุตสาหะวิริยะของตนเป็นสำคัญ ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้อาจารย์ถาวรเล่าว่า ศาลไฉ่ซิ้งแห่งหนึ่ง มีผู้คนไปกราบไหว้ขอความร่ำรวยกันล้นหลามคืนหนึ่ง เทพไฉ่ซิ้ง ได้มาเข้าฝัน ให้คนเฝ้าศาลเขียนกลอนคู่(ตุ้ยเลี้ยง) สองวรรค แปะติดไว้ในศาล ข้อความแปลเป็นไทยวรรคแรกเงินทองพอมีอยู่บ้าง คนนั้นก็ขอ คนนี้ก็ขอ แล้วข้าควรจะให้ใครวรรคที่สอง งานสักนิดก็ไม่ทำ เช้ามาไหว้ เย็นมาไหว้ ทำให้ข้าลำบากใจต่อมา กลอนคู่สองวรรคนี้ก็เป็นที่นิยม ติดเตือนใจไว้ในศาลไฉ่ซิ้งหลายแห่งแต่จำนวนคนที่ไปไหว้ ก็ไม่ได้ลดน้อยลง เพราะคนเชื่อกันว่า ปีเดียวขอหนเดียว เทพไฉ่ซิ้งคงพอแบ่งปันโชคลาภทรัพย์สินให้ได้เทวดาในความเชื่อของผู้คน ใช้สโลแกนเดียวกับเจ้าพ่อมาเฟีย พี่มีแต่ให้ ให้ ให้ และให้ แต่โชคดี เทวดายังบ่นได้ไม่เหมือนรัฐบาล ก็ประกาศชัดแจ้งจางปางทั้งบ้านทั้งเมือง อาสามาเอง ขอเวลาเข้ามาทำเอง แม้จะเหนื่อยและหนักแค่ไหน ขืนบ่นเข้าหูชาวบ้าน ก็ถูกด่าเปิงสถานเดียว.กิเลน ประลองเชิง