วันพุธ 27 กันยายน เป็นวันที่สื่อมีข่าวใหญ่ให้เล่นมากที่สุด วันที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาจำคุก อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นเวลา 5 ปี ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตโครงการรับจำนำข้าว วันที่ กนง.แบงก์ชาติมีมติยืนดอกเบี้ยนโยบาย 1.5% สวนทางกระทรวงการคลังวันที่ WEF ประกาศผลการจัดอันดับ ดัชนีขีดความสามารถการแข่งขันโลก 2017-2018 ไทยขยับขึ้น 2 อันดับ จากอันดับ 34 ปีที่แล้ว ขึ้นไปอยู่อันดับ 32 ในปีนี้โลกวันนี้มีแต่ข่าวร้ายมากมาย วันนี้ผมขอเขียนแต่ข่าวดีก็แล้วกันนะครับเช้าวันพุธที่ 27 กันยายน ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ไปเปิดเผยในเวทีสัมมนาประจำปี สมาคมนักศึกษาสถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) ว่า ขณะที่กำลังพูดอยู่นี้ WEF เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม ได้ประกาศผลการจัดอันดับขีดความสามารถการแข่งขันโลก ปีนี้ไทยขยับขึ้นมา 2 อันดับ จากอันดับ 34 ปีที่แล้ว ขึ้นมาอยู่อันดับ 32 โดยตั้งคำถามกับผู้ฟังว่า ของแบบนี้ ถ้าปล่อยไปตามธรรมชาติ จะเกิดขึ้นไหม พร้อมกับเรียกร้องให้สมาชิก วตท.กว่า 2 พันคน ทำตัวเป็น Change Agent เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทยในอนาคตอันดับแข่งขันไทยที่ดีขึ้น มาจาก โครงสร้างพื้นฐาน ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน ทั้ง คุณภาพถนน โครงสร้างระบบราง ท่าเรือ การขนส่งทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีโทรศัพท์มือถือ ขยับจากอันดับ 55 ปีที่แล้ว ขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ในปีนี้ อัตราการเข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษา ก็ขยับขึ้นจากอันดับ 84 มาอยู่อันดับ 8 และ จีดีพีไทยอยู่ในอันดับ 20 ของโลก แต่ อันดับคอร์รัปชัน ยังสูงลิ่ว อันดับ 80 ของโลกดร.สมคิด เปิดเผยด้วยว่า นายกฯได้สั่งให้ทุกกระทรวงโหลดข้อมูลของกระทรวงเข้าสู่ระบบทั้งหมดให้เสร็จภายใน 2 เดือน เพื่อสร้าง Big Data ของระบบราชการ และ อยากให้มหาวิทยาลัยสอนนักศึกษาเรื่องการค้าขาย แทนที่จะสอนแต่ MBA เรียกร้องให้คนไทยลุกขึ้นสู้ต่างชาติ แทนที่จะเรียกร้องให้ปกป้อง อย่าง ลาซาด้า ที่เข้ามา สหพัฒน์ ก็ล็อกเอาไว้เลย เจดีดอทคอม ที่เข้ามา เซ็นทรัล ก็ล็อกเอาไปไม่ต้องกลัวอีกเรื่องที่น่าสนใจจากการเปิดเผยของ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลฯ ในเวทีเสวนาสมาคมศิษย์เก่า วตท. ก็คือ ภายในสิ้นเดือนธันวาคมปีนี้ เน็ตประชารัฐ 24,700 หมู่บ้าน จะเสร็จเรียบร้อย และ ภายในเดือนธันวาคม 2561 เน็ตประชารัฐ 75,000 หมู่บ้านทั่วประเทศจะเสร็จสมบูรณ์ เป็น อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ บรอดแบรนด์ ที่มีความเร็วเท่าเทียมกับกรุงเทพฯ จะเป็น “ซุปเปอร์ไฮเวย์ แห่งศตวรรษที่ 21” สร้างโอกาสไปจ่อที่ปากหมู่บ้านแล้วประเทศ ไทยจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง อี-คอมเมิร์ซ อี-เลิร์นนิ่ง อีเฮลท์แคร์ อี-ฟาร์มเมอร์ ฯลฯ จะเกิดขึ้นตามมา e-Market Place จะเกิดขึ้นเปิดทางให้ทุกหมู่บ้านสามารถค้าขายไปทั่วโลกผมฟังแล้วก็อึ้งและทึ่งไปเลย คิดไม่ถึงว่าเวลาไม่ถึงสองปี ดิจิทัลไทยแลนด์ จะไปไกลขนาดนี้ ถ้า 75,000 หมู่บ้านทั่วประเทศไทยมีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในเดือนธันวาคมปีหน้า ขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยคงจะก้าวกระโดดไปไม่รู้กี่เท่าที่ผมรู้สึกเป็นห่วงก็คือ การเตรียมคนไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่มาเร็วเกินคาด เช้าวันพุธก่อนที่ผมจะไปร่วมงานสัมมนา ยังอ่านข่าว โรงเรียนประชาสามัคคี ใน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ด้วยความเศร้า เพราะครูที่สอนนักเรียนชั้นประถม จำนวน 4 คน เกษียณอายุในวันนี้ทั้งหมด เหลือผู้อำนวยการโรงเรียนเพียงคนเดียว แต่ไปขอครูมาแทนได้ 1 คน โรงเรียนหาเงินมาจ้างครูอีก 1 คน แต่ก็ยังขาดครูอีก 3 คนนี่คือ สิ่งล้าหลัง ที่ซ่อนอยู่ใน กระทรวงศึกษา ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข“คน” เป็น โครงสร้างพื้นฐาน ที่ผมเห็นว่า สำคัญที่สุด แม้จะมีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงทุกบ้าน แต่คนใช้ไม่มีความรู้ ใช้ไม่เป็น ค้าขายไม่เป็น ก็เชื่อมโลกไม่ได้.“ลม เปลี่ยนทิศ”