อารีพงศ์ ภู่ชอุ่มก็เป็นข่าวฮือฮาในแวดวงพลังงาน เมื่อ กพช.คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ อนุมัติให้ กฟผ.การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ซื้อไฟฟ้าจาก โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสตึงมนัม ของ กัมพูชา ในราคาแพงลิ่ว หน่วยละ 10.75 บาท ในขณะที่ ราคาไฟฟ้าพลังน้ำในไทยหน่วยละ 1.59 บาท แพงกว่ากันกว่า 6 เท่า โดยอ้างเหตุผลว่า ต้องการผันน้ำจากเขื่อนสตึงมนัมมาป้อนโครงการ EEC ปีละ 300 ล้านลูกบาศก์เมตรโครงการนี้เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล (บริษัทลูกของ กฟผ.) กับ บริษัท Steung Meteuk Hydropower Co.Ltd. ­ของกัมพูชาคุณอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงานและประธานกรรมการ กฟผ. ซึ่งสวมหมวกสองใบ เป็นทั้ง ผู้บังคับบัญชา และ หน่วยงานใต้สังกัด แถลงว่า โรงไฟฟ้าอยู่ในฝั่งกัมพูชา ใช้เงินลงทุน 9,554 ล้านบาท ยังไม่รวมการพัฒนาระบบท่อส่งน้ำที่จะกระจายน้ำ เพื่อใช้ในภาคตะวันออก โรงไฟฟ้าแห่งนี้ผลิตไฟได้ 24 เมกะวัตต์ ส่งขายไทยทั้งหมด ยูนิตละ 10.75 บาท และส่งน้ำให้ไทยปีละ 300 ล้านลูกบาศก์เมตรฟังดูเผินๆก็น่าจะดี แต่สิ่งที่ “ซ่อน” อยู่ในโครงการนี้ จากการเปิดเผยของ คุณอารีพงศ์ ก็คือ “สิ่งที่ยังไม่รวม” อยู่ใน ค่าไฟฟ้า 24 เมกะวัตต์ นั่นเองสิ่งที่ “ยังไม่รวม” อยู่ใน ค่าไฟฟ้า 24 เมกะวัตต์ และ น้ำปีละ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็คือ ระบบท่อส่งน้ำเพื่อกระจายน้ำในภาคตะวันออก และ ท่อส่งน้ำจากเขื่อนสตึงมนัมในประเทศกัมพูชา มายังอ่าง เก็บน้ำประแสร์จังหวัดระยอง ระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร รวมทั้ง สายส่งไฟฟ้าแรงสูงอีกหลายร้อยกิโลเมตร ที่ต้องสร้างจาก โรงไฟฟ้าพลังน้ำ สตึงมนัม ข้ามมายังฝั่งไทย เพื่อเชื่อมกับระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. ทั้ง 3 โครงการนี้ คาดว่าต้องใช้เงินลงทุนอีกกว่า 100,000 ล้านบาทนี่คือ เงินลงทุนก้อนใหญ่อีกก้อน ที่ “ซ่อน” อยู่เบื้องหลัง โรงไฟฟ้าพลังน้ำสตึงมนัม ราคา 9,554 ล้านบาทเอาเงินก้อนนี้ไปสร้าง โรงกลั่นน้ำทะเลเป็นน้ำจืด ผมว่าคุ้มกว่าเยอะนอกจากนี้ยังมีข่าวว่า กระทรวงพลังงาน กำลังเร่งรัดให้ซื้อไฟฟ้าจาก โรงไฟฟ้าถ่านหิน 2 แห่งบนเกาะกงของกัมพูชา ที่กำลังจะก่อสร้างโดย คนไทย และ บริษัทลูก กฟผ. โดย กฟผ.จะรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งละ 2,400 เมกะวัตต์ และ 1,800 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตสองโรงรวม 4,400 เมกะวัตต์ โรงแรกผลิตไฟฟ้าขายให้ไทยอย่างเดียว ยังไม่รู้จะรับซื้อกันหน่วยละกี่บาทแต่สิ่งที่ “ซ่อน” อยู่ใน โรงไฟฟ้าถ่านหิน 2 แห่งบนเกาะกง ก็เหมือนสิ่งที่ “ซ่อน” อยู่ใน โรงไฟฟ้าพลังน้ำสตึงมนัม ก็คือ ค่าก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูงหลายร้อยกิโลเมตรจากเกาะกงมายังไทยอีกกว่าแสนล้านบาท เพื่อเชื่อมต่อกับสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ.ถ้าไทยซื้อไฟฟ้าจากกัมพูชา 3 โรงนี้ ต้องลงทุนเพิ่มอีกหลายแสนล้านบาทวันนี้ ประเทศไทยติดกับดักประเทศรายได้ปานกลาง ทำให้มีคนจนมากมาย คนจนที่จนต่ำกว่าเส้นยากจนมีถึง 14 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลกำลังขึ้นทะเบียนให้ความช่วยเหลือแต่รัฐวิสาหกิจ กฟผ.และบริษัทลูก กลับใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายมากเกินความจำเป็น ทั้งที่ “แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า พ.ศ.2558–2579” หรือที่เรียกกันว่า PDP 2015 ปัจจุบัน ไทยมีไฟฟ้าสำรองสูงถึง 39% จนต้องลดปริมาณการผลิตไฟฟ้าของภาคเอกชนลง แต่กลับไปซื้อไฟฟ้าเพิ่มจากกัมพูชาอีก 4,000 กว่าเมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้ไทย มีไฟฟ้าสำรองเพิ่มขึ้นเป็น 45–47% มากมายมหาศาลเลยทีเดียว สตง.ไม่รู้สึกสงสัยบ้างหรือที่ไม่ดีคือ จะส่งผลกระทบต่อประชาชน ทำให้ค่าไฟฟ้าต่อหน่วยแพงขึ้นอีกมากหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะสั่งไปทบทวนดู คุ้มค่าการลงทุนหรือไม่ แม้จะเป็น เงินของรัฐวิสาหกิจ แต่ก็เป็น เงินหลวง เหมือนกัน.“ลม เปลี่ยนทิศ”