“อรินทราช 26” สยบ “สารวัตรคลั่ง” หลังยิงใส่หัวชุดปฏิบัติการ เดชะบุญกระสุนแฉลบหมวกนิรภัยเลยรอด “รองต่อ” ตัดสินใจสั่งลุยเข้าควบคุมตัว เพราะสร้างสถานการณ์สุ่มเสี่ยง ยิงปืนตอบโต้เจ้าหน้าที่ออกมาจากบ้านกว่า 27 ชม. ดวลเดือด 5 นาทีถูกยิง 6 นัด หนีตกลงมาจากหน้าต่างชั้น 2 บาดเจ็บสาหัส ไปตายโรงพยาบาลภูมิพล แฉ ประเด็นระเบิดอารมณ์ ทั้งอาการป่วยทางจิต ปัญหาด้านการทำงาน อกหักเพราะรักสาวรุ่นน้อง และมีความเชื่อเรื่องพระเจ้า ซาตาน และวันสิ้นโลก “บิ๊กเด่น” ประกาศชดใช้ค่าเสียหายให้ชาวบ้านบริเวณที่เกิดขึ้น ส่วนชาวบ้านโวยตำรวจดำเนินการล่าช้า

กรณี พ.ต.ท.กิตติกานต์ แสงบุญ อายุ 51 ปี สังกัดศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล มีอาการทางจิตคลุ้มคลั่งยิงปืนออกมาจากทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น เลขที่ 2/269 หมู่บ้านมั่นคง เลียบคลองสอง สามัคคี ซอยจีระมะกร แยกซอยสายไหม 46 แขวงและเขตสายไหม กทม. สร้างความหวาดผวาให้ชาวบ้านตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 14 มี.ค. เหตุการณ์บานปลายยาวนานข้ามคืน มี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว แต่ถูกโต้ตอบมาด้วยลูกกระสุนตลอดเวลา
...
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 15 มี.ค. ชุดปฏิบัติการคลี่คลายเหตุการณ์ประกอบด้วย พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมชุดเจรจายังพยายามเกลี้ยกล่อมให้ พ.ต.ท.กิตติกานต์ แสงบุญ มอบตัว รวมทั้งให้เพื่อนตำรวจร้องเพลงกล่อมให้หายเครียด แต่หลังผู้ก่อเหตุเห็นชุดอรินทราช 26 ปีนขึ้นมาประจำจุดตามกันสาดชั้น 2 บ้านใกล้เคียง จะยิงปืนออกมาตลอดเวลา สร้างความหวาดผวาให้ชาวบ้านไปทั่ว ทั้งนี้ เพื่อนตำรวจพยายามเจรจาตะโกนคุย “พี่กานต์ออกมาได้แล้ว หิวมั้ย เหนื่อยหรือเปล่า ต้องการอะไร ออกมาคุยกัน” เพื่อสร้างความไว้วางใจ
แต่แทนที่สถานการณ์จะดีขึ้นกลับมีเสียงปืนดังออกมาตลอดเวลา สลับกับเสียงยิงแก๊สน้ำตาโต้ตอบของเจ้าหน้าที่ ทำให้สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด บางจังหวะเจ้าหน้าที่พยายามบุกเข้าไปแต่ผู้ก่อเหตุหลบเข้าไปอยู่ในห้องนอนชั้น 2 เป็นมุมอับ ระหว่างนั้น ส.ต.อ.สถาพร แก้วพวง ผบ.หมู่ กก.2 บก.สปพ.ชุดอรินทราช 26 ถูกยิงเข้าหมวกนิรภัย 1 นัด เดชะบุญกระสุนแฉลบหมวกไป แต่ยังต้องส่งตรวจอาการที่ รพ.ตำรวจ ขณะที่โดรนหน่วยอรินทราช 26 พบช่องถ่ายภาพผ่านหน้าต่าง เห็นผู้ก่อเหตุหลบอยู่ในห้องนอนชั้น 2 มีผ้าห่มและเสื้อผ้าคลุมอยู่ตัวเหมือนใช้อำพราง ในห้องยังมีน้ำดื่ม บ้องกัญชาพิงอยู่ที่ผนัง ในมือยังถือปืนและมีก้นบุหรี่เกลื่อนพื้น แต่มีโดรนอีกหลายลำถูกผู้ก่อเหตุยิงตก
ต่อมาเวลา 08.00 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. อดีตผู้บังคับบัญชา เข้าเจรจาพร้อมยืนยันจะให้กลับไปทำงานที่ บช.ปส.แต่ไม่สำเร็จ ตั้งแต่เกิดเหตุมีรายงานว่าหน่วยอรินทราช 26 และตำรวจคอมมานโดระดมยิงแก๊สน้ำตาไปกว่า 50 ลูกเพื่อกดดันผู้ก่อเหตุมอบตัวแต่ไม่ประสบผล กลับถูกผู้ก่อเหตุยิงปืนสวนออกมาหลายสิบนัด
เวลา 09.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.เผยว่า ตลอดเวลาเจ้าหน้าที่พยายามกดดันเพื่อเข้าควบคุมตัว และเจรจาเกลี้ยกล่อม ยังประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา เบื้องต้นสุ่มเสี่ยงเกิดอันตรายต่อผู้ปฏิบัติ เพราะผู้ก่อเหตุยังมีเครื่องกระสุนพร้อมตอบโต้ต่อเนื่อง ส่วนความคืบหน้าการปฏิบัติเจ้าหน้าที่เปิดพื้นที่ควบคุมได้มากขึ้น เปิดช่องว่างให้เจ้าหน้าที่เห็นตัวผู้ก่อเหตุ กดดันให้ผู้ก่อเหตุอยู่เฉพาะห้องนอนชั้นสอง เป็นผลมาจากการใช้โดรนบินเข้าตรวจสอบด้านใน แต่ขณะนี้ยังมีความเสี่ยงให้เกิดความสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบใช้ยุทธวิธีจู่โจม ต้องประเมินว่า อาการป่วยของผู้ก่อเหตุต้องใช้วิธีใด หากประเมินแล้วจำเป็นต้องใช้กระสุนจริงก็พร้อมที่ปฏิบัติงานทันที
“การเจรจาสื่อสารไม่สามารถทำแบบคนปกติได้ ส่วนยุทธวิธีที่ให้เพื่อนร่วมงานมาร้องเพลงให้ฟัง และจู่โจมควบคู่ไปด้วยเป็นวิธีที่ดึงดูดความสนใจ แต่จากการปฏิบัติผู้ก่อเหตุยังตอบโต้ ทำให้จำเป็นต้องถอนกำลังมาอยู่ในจุดปลอดภัย ส่วนอาวุธที่ผู้ก่อเหตุใช้เบื้องต้นยืนยันได้ว่าเป็นชนิดลูกโม่ นอกจากนี้ยังมีเสียงคล้ายปืนแบบออโตเมติก สังเกตได้จากเสียงปืนที่ดังต่อเนื่อง ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นปืนชนิดใด มีรายงานด้วยว่าในการจู่โจมเมื่อช่วงเช้า ชุดปฏิบัติการพิเศษถูกกระสุนผู้ก่อเหตุยิงสวนมาถูกหมวกแต่กระสุนแฉลบไปทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ” ผบช.น.กล่าว

เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางมายังที่เกิดเหตุ ผบ.ตร.โทรศัพท์พูดคุยเกลี้ยกล่อม พ.ต.ท.กิตติกานต์ให้มอบตัวแต่ยังไม่เป็นผล พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ติดตามเหตุมาตั้งแต่เมื่อวาน ต้องยอมรับว่านายตำรวจผู้นี้ไม่มีภาวะแบบคนปกติ แต่เรายังไม่ถือว่าเป็นคนร้ายเพราะไม่มีตัวประกัน การทำงานของตำรวจต้องทำภายใต้ความระมัดระวังไม่ให้เกิดการสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย ต้องขอโทษประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ผู้ก่อเหตุอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่ได้เปรียบมีความรู้ยุทธวิธีพอสมควร เพราะได้รับการฝึกสยบไพรีมา ทำให้ชำนาญหลายด้าน จากการพูดคุยเหมือนจะรู้เรื่องแต่ก็ไม่รู้เรื่อง ขอให้ประชาชนให้เวลาตำรวจ อยากให้เข้าใจว่าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้มีการสูญเสีย
“ทีมแพทย์ที่เข้าประเมินอาการค่อนข้างหนักใจ คิดว่าผู้ก่อเหตุต้องได้รับการฉีดยา การพูดคุยมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระเจ้าความเชื่อส่วนตัว ส่วนยาเสพติดยังไม่ได้รับรายงาน แต่ภาวะทางจิตที่แสดงออกผิดปกติ ถ้าบ้านเรือนประชาชนเดือดร้อน หรือสูญเสียตำรวจจะชดใช้ให้ ขอย้ำว่าถ้าจำเป็นจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ก่อนย้ายมากองบัญชาการตำรวจสันติบาลทำงานที่กองบัญชาการศึกษา เคยทดสอบเรื่องจิตเภทและผ่านมาได้” ผบ.ตร.กล่าว
มีรายงานด้วยว่า คณะกรรมการตำรวจสันติบาลกำลังพิจารณาเรื่องการออกจากราชการไว้ก่อน เพราะลักษณะดังกล่าวไม่เหมาะสมกับการรับราชการต่อไป
ระหว่างนั้นเพื่อนตำรวจเผยเพียงว่าชื่อ สารวัตรยิ้ม สังกัด บช.ปส.เข้ามาที่เกิดเหตุขอเจรจากับสารวัตรกานต์ เพื่อนสนิท แต่ไม่เป็นผล ไม่มีการพูดตอบโต้อะไร กลับออกมาเผยว่า ตนสนิทกับสารวัตรกานต์มา 2 ปีแล้ว เคยอยู่สังกัดเดียวกัน รู้จักช่วงแรกสารวัตรกานต์ชอบเล่าเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้า ซาตาน วันล้างโลก เพราะเป็นคนเชื่อเรื่องลัทธิมาก ช่วงแรกเข้าใจว่าตนจะมาฆ่า ทั้งที่ตนมาเพื่อทำความรู้จัก ตนจึงเล่นตามน้ำ แกล้งแสดงว่าตอนนี้ซาตานฆ่าตนไปแล้ว ทำให้พูดคุยด้วย สำหรับปัญหาที่ทำให้สารวัตรกานต์คลั่งแบบนี้เชื่อว่า ไม่ได้เกิดจากเรื่องงาน เพราะที่ผ่านมาเป็นคนทำงานดี มีผลงาน คาดว่าเป็นเรื่องความรักครั้งใหม่ที่ไปแอบชอบผู้หญิงอายุน้อยกว่าแล้วถูกปฏิเสธ ตนไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ คิดว่าอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คลุ้มคลั่ง และเครียดเรื่องงานที่ถูกย้ายด้วย
ส่วนผู้อาศัยในหมู่บ้านเกิดเหตุคนหนึ่งเผยว่า เจ้าหน้าที่ปล่อยเหตุการณ์ยืดเยื้อ ทำให้ประชาชนสุ่มเสี่ยงถูกกระสุนที่ผู้ก่อเหตุยิงออกมาอย่างไม่มีทิศทาง หลายคนคิดเหมือนกันว่า ถ้าผู้ก่อเหตุไม่ใช่เจ้าหน้าที่จะเป็นแบบนี้มั้ย ไม่ถูกวิสามัญไปแล้วหรือปล่อยให้ยาวมาจนข้ามวัน ชาวบ้านต้องออกไปเช่ารีสอร์ต หรือไปนอนบ้านญาติ ส่วนชายวัย 70 ปีอีกคนระบุว่า ปกติชายคนดังกล่าวไม่มีพฤติกรรมสร้างความเดือดร้อน มีเพียงบางครั้งส่งเสียงดังโวยวายเหมือนบ่นคนเดียว หลังบ่นเสร็จก็เดินกลับเข้าบ้าน หลังจากเกิดเหตุการณ์ตำรวจให้ชาวบ้านไปพักยังสถานที่ที่สำนักงานเขตจัดไว้ แต่ตนไม่ได้ไป มองว่าตำรวจเข้าระงับเหตุล่าช้า ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน

ต่อมาเวลา 12.14 น.หลัง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เดินทางกลับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์สั่งให้หน่วยอรินทราช 26 บุกเข้าชาร์จจับกุม พ.ต.ท.กิตติกานต์ บริเวณชั้น 2 ของบ้านเกิดเหตุ ยิงระเบิดควันเข้าไปก่อนหลายลูก แล้วส่งกำลังบุกเข้าบ้านทางกันสาดหน้าบ้านชั้น 2 พังหน้าต่างเข้าไป สารวัตรคลั่งลุกขึ้นยืนแล้วทั้ง 2 ฝ่ายระเบิดกระสุนยิงตอบโต้กันนานเกือบ 5 นาทีจนสารวัตรกานต์บาดเจ็บ เปิดหน้าต่างชั้น 2 ด้านหลังสภาพถือปืน และมีดโรยตัวตกลงมาที่พื้นชั้นล่างแล้วตกลงมา เจ้าหน้าที่ตะโกนแจ้งว่า “ผู้ก่อเหตุบาดเจ็บ ควบคุมตัวไว้ได้แล้ว เจ้าหน้าที่ปลอดภัย” หลังจากนั้นแพทย์ฉุกเฉินรีบเข้าไปยื้อชีวิตปั๊มหัวใจ พบเลือดท่วมตัวถูกยิงถึง 6 นัด บริเวณกลางหน้าอก หน้าอกด้านซ้าย แผ่นหลัง ขาขวา ข้อพับแขนซ้าย และขาท่อนบน นำส่ง รพ.ภูมิพลอดุลยเดช อาการสาหัส หลังเหตุการณ์สงบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เผยสั้นๆก่อนเดินทางกลับว่า ผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ปลอดภัย
เวลา 15.00 น. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 เผยว่า เบื้องต้นตรวจสอบอาการที่ รพ.ภูมิพล ผู้ก่อเหตุ อยู่ห้องไอซียู คาดว่าต้องผ่าตัดเนื่องจากมีเลือดออกในช่องท้อง ส่วนโดนยิงกี่นัดยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากแพทย์ยังไม่ให้เข้าดูอาการค่อนข้างสาหัส กำชับพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ พฐ.ตรวจที่เกิดเหตุ บ้านที่เกิดเหตุ รวมถึงบ้านเรือนและทรัพย์สินประชาชนโดยรอบ รวมถึงตรวจพิสูจน์หัวกระสุนและปลอก เบื้องต้นพบปืนเพียง 1 กระบอก เป็นปืนลูกโม่ยี่ห้อรีวอลเวอร์ แต่เครื่องกระสุนยังไม่ยืนยันจำนวนและชนิด พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหารอแพทย์ยืนยันการตรวจอาการทางจิต ประเด็นการสอบสวนคือ พยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เสียทรัพย์ พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร
ประวัติ พ.ต.ท.กิตติกานต์ เคยทำงานอยู่ บก.ปส.2 หน่วยอุดรธานี ตั้งแต่ยศ ร.ต.อ. แต่ทำงานด้านเอกสารอยู่ที่กรุงเทพฯ ไม่สามารถทำงานด้านสืบสวนปราบปรามได้ เนื่องจากยังไม่มีความเชี่ยวชาญ จากนั้นขึ้นยศ พ.ต.ต.ที่ บก.ข่าวกรอง บช.ปส. ฝ่ายอำนวยการ ย้ายไปอยู่กองบัญชาการศึกษา (บช.ศ.) และตำรวจสันติบาล (บช.ส.) ตำแหน่งสารวัตรศูนย์พัฒนาด้านการข่าวตามลำดับ อดีตเป็นคนทำงานค่อนข้างดีด้านเอกสาร พูดจาเสียงดังเป็นบางครั้ง ช่วงหลังเหมือนจะค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูงและมีอาการทางจิต พูดจาจับใจความไม่ค่อยได้ เมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ที่แล้ว มีเพื่อนตำรวจด้วยกันได้รับข้อความพูดถึง “พระเจ้า” ส่งมาให้ แต่ไม่ได้คิดอะไร
ความคืบหน้าล่าสุดจากห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เมื่อเวลา 21.47 น. พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม ที่เดินทางมาติดตามอาการของ พ.ต.ท.กิตติกานต์ แสงบุญ ที่เกิดอาการคลุ้มคลั่งถูกหน่วยอรินทราช 26 บุกเข้าควบคุมตัวเกิดการยิงต่อสู้จนถูกยิง 6 นัดบาดเจ็บสาหัส ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า พ.ต.ท.กิตติกานต์ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในห้องไอซียู มีญาติเดินทางมาดูอาการเป็นครั้งสุดท้าย เบื้องต้นมอบศพให้นิติเวช รพ.ภูมิพล ชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป