“ทิดกาโตะ” ปะทะ “ใบตอง” เดือด กลางรายการโหนกระแส ฝ่ายชายโฟนอินกล่าวหาถูกแบล็กเมล์ ให้เงินไปเท่าไหร่ก็ไม่จบ ครั้งหลังสุดให้ไป 3 แสนบาท เรื่องก็ยังไม่จบอยู่ดี รับมีความสัมพันธ์ 2 ครั้ง ครั้งแรกริมเขื่อน ยอมรับพลาดเพราะเป็นวัยรุ่น อ้างถูกฝ่ายหญิงยั่วยวน หลังจากนั้นถูกไถเงินตลอด ยันเงินที่จ่ายฝ่ายหญิงใช้เงินส่วนตัวไม่เกี่ยวกับเงินวัด พ้อหลังสึกมีเงินติดตัวแค่ 4 พัน ด้าน “ตอง” แฉแหลก รู้จักหลังมาฟังเทศน์ขอเบอร์ติดต่อเอง แต่หลังจากนั้นอดีตพระส่งข้อความมาหาตลอด ยอมรับได้เงินจริง แถมเอาชื่อหมอปลาไปอ้างเป็นบางครั้ง เชื่อเป็นสิ่งที่ฝ่ายชายต้องรับผิดชอบ

...

กรณีคลิปเสียงและข้อความสนทนาระหว่างหญิงสาวพูดแทนตัวเองว่า “ตอง” และเสียงผู้ชายอ้างว่าเป็นพระนักเทศน์ชื่อดังแอบมีสัมพันธ์กับหญิงสาวในรถยนต์เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเสียงของพระกาโตะ หรือนายพงศกร จันทร์แก้ว ตอนแรกพระกาโตะออกมาปฏิเสธ ส่วนฝ่ายหญิงออกมายอมรับว่าเป็นไบโพลาร์เลยกุเรื่อง แต่ถูก “พระย้อย” หรือ “พระธนวัฒน์” อายุ 23 ปี พระลูกวัดวัดหน้าพระลาน ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ปล่อยคลิปเสียงแฉซ้ำจนพระกาโตะตัดสินใจลาสิกขาจากสมณเพศ

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 2 พ.ค. รายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดยหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย เชิญ ใบตอง อายุ 37 ปี สีกาที่มีสัมพันธ์กับอดีตพระกาโตะ พระย้อย และหมอปลามาออกรายการ ใบตอง เผยว่ารู้จักอดีตพระกาโตะเพราะไปถวายเพลที่วัด เมื่อวันที่ 31 ม.ค. แล้วเดินดูวัดตอนจะแยกย้ายตนถามพระว่า ถ้าคราวหน้าจะถวายเพลอีกจะติดต่อยังไง ท่านบอกว่าสามารถแอดเบอร์ได้เลย หลังจากนั้นพูดคุยติดต่อมาตลอด ท่านทักมาถามว่าทำอะไรบ่อยมาก เหมือนชวนคุยให้ตนรู้สึกสบายใจ ณ ตอนนั้นตนรู้สึกดีมีคนเป็นห่วง เพราะวันนั้นที่ไปถวายเพลบอกท่านว่าไม่สบายมารักษาจิตใจ

“พอพูดคุยกันแล้วเริ่มเปิดใจคุยกันมากขึ้น หลังจากนั้นตอนแรกท่านบ่นปวดหลังอาจเทศน์นาน ตนเลยแนะนำว่าให้ทายาหม่อง ปกติหมอสามารถนวดให้ได้ไหม หมอผู้หญิงหรืออะไรแบบนี้ เขาบอกว่านวดได้ แล้วถ้าเป็นตนจะนวดให้ได้ไหม เขาบอกว่าถ้าเราเจตนาดี นวดได้ รู้ว่าสีกาเขาไม่ให้โดนตัวพระ ตอนนั้นอ้างจิตใจอ่อนแออย่างเดียวไม่ได้ ด้วยความศรัทธา เชื่อมั่น ท่านพูดหลายครั้งว่า เจตนาดี”

หนุ่ม-กรรชัย ถามว่า เจตนาดีท่าไหนถึงได้มีสัมพันธ์กัน คุณไม่ได้ถูกขืนใจถูกล่วงละเมิดทางเพศ คุณก็ผิดส่วนนึง สมยอมด้วยส่วนหนึ่ง สุดท้ายไปตกล่องปล่องชิ้นกับท่านได้ไง ใบตอง ตอบว่า มีการนัดกัน ท่านบอกว่าให้ตนไปที่หนึ่งดีไหม สบายนะ อากาศดี เดี๋ยวเทศน์เสร็จเวลานี้ประมาณเกือบสี่ทุ่ม ถึงที่วัดประมาณสี่ทุ่ม เดี๋ยวกลับมาพาไปเที่ยวแถวเขื่อน เขาให้นวด แต่ก่อนจับถามตลอดว่า ผิดไหม บาปไหม ทำได้ไหม เขาบอกเขาป่วย ทำได้ หลังจากนั้นก็เกินเลย ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ครั้งที่สองเริ่มมีคนสงสัย มีคนมาเตือนว่า เห็นรถคันนี้ขึ้นมาเวลานี้ อย่าเจอกันบ่อย ตลอดเวลาที่คุยใจหนึ่งรู้สึกสุข แต่อีกใจหนึ่งรู้สึกทุกข์ ไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะอธิบายให้ใครฟัง เป็นเรื่องที่พูดไม่ได้

ด้านหมอปลากล่าวว่า พอมีเรื่องวันที่ 4 เม.ย.ใบตองติดต่อมา เรานัดเจอที่กรุงเทพฯ ต้องวางแผนเพราะพระพวกนี้ถ้าจะจับให้ได้ต่อให้มีหลักฐานชัดเจนเขาก็ไม่ยอมรับ แต่ตนใจร้อน เอาคลิปส่งให้หลวงพี่ก่อนแล้วบอกตน แถมส่งให้พระย้อยด้วย

ส่วนพระย้อยกล่าวว่าเปิดคลิปเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ให้กระจ่าง เพื่อปกป้องพระศาสนา ไม่ได้เปิดคลิปเพราะอิจฉาพระกาโตะ ไม่จริง รวมทั้งที่บอกว่าแอบชอบใบตองด้วย ก็ไม่จริง หลังจากนั้นถูกไล่ออกจากวัด จะร้องเรียน เรื่องต่อสู้ไม่เคยกลัว ไม่ได้โกรธ แต่น้อยใจ เราแค่ออกมาปกป้องพุทธศาสนาไม่ให้เสื่อมเสียเพราะพระรูปหนึ่ง

ใบตองกล่าวด้วยว่า หลังจากวันนั้นมีพระผู้ใหญ่ท่านหนึ่งโทรศัพท์มา ท่านแจ้งว่ารู้เรื่องหมดทุกอย่างแล้ว เพราะพระกาโตะเล่าให้ฟัง เรามาช่วยหาทางออกกัน เพราะเรื่องไปกันใหญ่แล้ว หาข้อตกลงสรุปกันดีกว่าว่าจะตกลงกันยังไง เพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อตัดปัญหาตนตอบไปว่า เดี๋ยวยอมรับผิดเองทั้งหมด เพราะตนอยากให้จบเร็วๆ ไม่มีผลกระทบต่อใคร คิดว่าไม่ได้มีชื่อเสียงหรืออะไร คงไม่เป็นไร

หนุ่ม-กรรชัยถามว่า สรุปที่ออกมาแฉ เอาคลิปมาเปิดเผยตั้งแต่คลิปแรก ทำเพื่ออะไร ใบตองตอบว่า มันขัดแย้งกันในใจ ระหว่างความถูกกับความผิด มันติดอยู่ในใจตลอดเวลา อึดอัดใจมาก เพราะปรึกษาใครไม่ได้ แต่พอตัดสินใจว่าจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะถึงผิดพลาดอะไรไป อย่างน้อยก็ไม่เสียใจที่เลือกแล้วว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และไม่อยากให้ผู้หญิงคนอื่นตกเป็นเหยื่ออีก ไม่ทราบว่าเขาทำมากี่ครั้งแล้ว หรือทำพฤติกรรมไหนบ้าง

หนุ่ม-กรรชัยถามว่า มีข่าวว่าฝั่งไหนก็ไม่รู้เสนอเงินมา 3 แสน ให้หยุดพูดจริงหรือไม่ ใบตอง ตอบว่า จริง 3 แสน นัดรับหลังห้างเซียร์ รังสิต คืนนั้นอดีตหลวงพี่โทร.มาบอกว่าจะให้เบอร์คนนี้ เขาเป็นพ่อเลี้ยงไว้ใจได้ เดี๋ยวเขาจะเป็นคนดำเนินการเอาที่ไปจำนองเอาเงินมาให้ เขาบอกว่า ตอนนี้ไม่ได้ใช้โทรศัพท์แล้วให้ติดต่อพ่อคนนี้อย่างเดียว แต่มีข้อแม้ว่าให้ตนไปปิดบัญชีธนาคาร ต้องลบไลน์ทิ้ง อัดวิดีโอไปด้วย

ต่อมานายพงศกร จันทร์แก้ว หรือทิดกาโตะ ติดต่อเข้ามาในรายการเผยว่า มีความจริงที่อยากพูด เราเป็นฝ่ายถูกกระทำ อย่างน้อยสังคมจะได้เข้าใจว่าจริงๆเป็นยังไง เคยมีความสัมพันธ์ 2 ครั้ง ครั้งแรกยอมรับว่าพาเขาไปดูเขื่อนตอนสี่ทุ่มจริง เราพลาดจริง หนึ่งอายุเรายังน้อย ด้วยผู้หญิง ขอพูดตรงๆไหนๆก็ไหนๆแล้ว มันยั่ว มันเย้า มันยวนเรา อยากพูดว่าตั้งแต่รอบแรกมาโดนบังคับขู่เอาเงินตลอด เขาบอกว่าหลวงพี่ฉันมีหนี้นะ เราพลาดแล้วต้องรับผิดชอบ เหมือนถูกแบล็กเมล์ โครงการคือจะสึกนานแล้ว ตั้งใจจะสึกปลายปี เพราะหนึ่งวัดยังไม่เสร็จ เราอยากให้วัดเสร็จก่อนเพราะสงสารวัดมาก เรารู้ว่าพลาดเราเผลอใจไปแต่สังคมยังเข้าใจ แฟนคลับยังเข้าใจ แต่เราไม่อยากออกสื่อเพราะเราอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง ผู้หญิงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เขาบอกว่าต้องใช้เงินเท่านั้น พอเราโอนไปเขาเก็บหลักฐาน คิดว่าจบแต่ไม่จบ ขอบอกก่อนว่าเงินส่วนตัวหลังออกมาโลกภายนอกมีเงินติดตัวแค่ 4 พันบาท

“ผมบอกแล้วว่าผมยอมรับทุกอย่าง ยอมรับเพราะเรายังเด็ก ยับยั้งไม่อยู่ ยอมรับว่าพลาดมาก แต่ก่อนหน้านี้ตั้งแต่พรรษา 1-2 จนถึงพรรษา 3 ไม่มีเหตุการณ์นี้เลย หนึ่งเรามีสิ่งยั่วยุ พอขอเงินเริ่มอ้างหมอปลามีคลิปออกไป ที่ผมบอกว่าไปพามาเลยหมอปลา ผมระเบิดแล้ว รู้สึกว่าเงินฉันให้ไปหมดแล้ว ทำไมเธอทำร้ายฉันมาก ฟังเป็นขั้นตอนนะครับ ผู้หญิงถามว่า อยากให้เรื่องจบไหม อยากให้เขาไม่พัวพันไหม ถ้าไม่อยากให้พัวพันขอเงิน 1 แสนจะจบ เรารู้สึกว่าถ้าจบจริงก็โอเค พอโอนให้ 1 แสนมันไม่จบ ขอว่าจะไปทำงานต่อที่กรุงเทพฯ แล้วขอเงินซื้อโน้ตบุ๊ก เราหวังดีว่าเขาไปทำงาน เขาบอกว่าเขามีโรคประจำตัวไบโพลาร์และรักษาอยู่ ไม่มีงานทำ พอหลังโน้ตบุ๊กขอของกำนัล ผมไม่ให้ เพราะคิดว่ามันไม่ใช่แล้ว ไปทำงานทำไมต้องขอทองขอแหวน เริ่มขัดแย้ง เราคิดว่าโดนหลอกเงินแล้วหรือเปล่า”

ส่วนเงิน 3 แสนบาท อดีตพระกาโตะ ยืนยันว่า ไม่ได้เอาเงินวัด ไม่มีครับ ไม่ได้เอาเงินวัดสักบาท เป็นเงินเทศน์ของตน เทศน์ทุกคืน ไม่ใช่เงินทำบุญวัด เป็นเงินทำบุญที่หามาเอง การจ่ายเงิน 3 แสน เกิดหลังจากมีคลิปเสียงแล้ว ฝ่ายหญิงโทร.มาบอกว่าตองต้องรักษาโรคไบโพลาร์หนักมากเพราะนักข่าวโทร.มาเยอะมาก ไม่ไหวแล้ว จำเป็นต้องขอค่ารักษา และจบเพียงแค่นี้จริงๆ หลังจากให้ไปก็ยังไม่จบ