กระหึ่มโซเชียล “แม่แตงโม” ยอมรับให้อภัย “ไฮโซปอ-โรเบิร์ต” 100 เปอร์เซ็นต์ แพ้ใจเป็นผู้ชายสุภาพ จริงใจ สม่ำเสมอ แถมคุยกันรู้เรื่องเกี่ยวกับเงินเยียวยาค่าชีวิตลูกสาว ระบุทั้งสองคนต้องจ่ายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ไม่แคร์สังคมวิจารณ์ ส่วนเงิน 1 ล้านบาทจากกรมธรรม์ จะขอแบ่งจ่ายให้ “น้องอีสเตอร์” ลูกบุตรธรรมของแตงโม ย้ำชัดไม่ไว้ใจ แก๊งเพื่อนสนิท โกรธ “ฮิปโป-แอนนา” จุ้นการจัดงานศพ ระบุต่อไปนี้จะให้สัมภาษณ์ต้องแจ้งก่อน ด้านพี่ชายดาราสาวฝากขอโทษกลุ่มเพื่อนน้องโม
ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของแตงโม-นิดา หรือภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ อายุ 38 ปี นักแสดงชื่อดัง ที่ไปร่วมทริปมรณะล่องเรือสปีดโบ๊ตกับเพื่อนชาย-หญิง รวม 6 คน ก่อนพลัดตกเรือปริศนาจมหายกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงดึกคืนวันที่ 24 ก.พ. ใกล้ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 กับสะพานพระราม 7 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี ก่อนศพลอยโผล่ช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.พ. กลุ่มเพื่อน
อ้างแตงโมพลัดตกเรือขณะนั่งฉี่ท้ายเรือ แต่สังคมยังกังขาในหลายประเด็น ด้านตำรวจแจ้ง 3 ข้อหากับนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือไฮโซปอและนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต ก่อนให้ประกันตัวไป ขณะที่นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาดาราสาว ให้สัมภาษณ์สื่อให้อภัยไฮโซปอ และโรเบิร์ต พร้อมจะเรียกเงินเยียวยา 30 ล้านบาทจากทั้งคู่ แต่ยังไม่ให้อภัย น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก ผจก.ส่วนตัวของแตงโม เพราะยังโกรธที่ไม่เคยติดต่อมาหลังแตงโมตกน้ำเสียชีวิต
...
ผบ.ตร.ส่งมือสืบร่วมคลี่คดี
ความคืบหน้าการคลี่ปริศนาในคดีนี้ เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 มี.ค. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปะชัย รอง ผบช.พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี นำสำนวนการสอบสวนคดี น.ส.นิดา หรือแตงโม พัชรวีระพงษ์ ดารานักแสดงชื่อดัง พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตเสียชีวิต เพื่อประชุมรายงานความคืบหน้าทางคดี หลังมีตำรวจหลายนายที่ทำคดีนี้ติดเชื้อโควิด-19 ใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชม. พล.ต.ต.วสันต์ กล่าวว่า ผบช.ภ.1 สั่งให้ตำรวจทำงานเดินหน้าให้คดีเกิดความกระจ่างกับสังคม ส่วนตำรวจคนไหนที่ติดเชื้อโควิด-19 ให้ไปรักษา คนที่ไม่ติดต้องทำงานต่อ แต่จะให้ตรวจหาเชื้อแบบรายวันก่อนลงพื้นที่ทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม มีรายงานว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. โทร.สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. ร่วมทำคดีกับตำรวจชุดสืบสวน ภาค 1 เพื่อคลี่คลายคดีแตงโม-นิดา พลัดตกเรือเสียชีวิตด้วย

“ส.ส.เต้” ฟุ้งจ่อชงคดีพิเศษ
เวลา 15.30 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทาง มาที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีแตงโม-นิดา พลัดตกเรือเสียชีวิต นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า วันนี้มาติดตามคดีในฐานะผู้แทนราษฎร และเป็นคนในพื้นที่เพราะบ้านอยู่พระราม 7 ใกล้กับจุดเกิดเหตุ คดีนี้เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี ไม่อยากให้ตำรวจเร่งสรุปสำนวนเร็วเกินไป ถึงแม้คดีนี้จะมี ผบช.ภ.1 มาคุมคดีด้วยตนเองก็ตาม หลังจากนี้ต้องคอยดูว่าจะมีอะไรผิดปกติหรือไม่ ถ้ามีอะไรผิดปกติจะนำคดีนี้เสนอต่อรัฐบาลให้เป็นคดีพิเศษ “มองว่าคดีนี้มีอะไรแปลกๆ ที่ขาขวามีบาดแผลลึกยาวพอสมควร ส่วนนิ้วมือซ้ายหงิกงอ แตงโมไม่ได้ตกท้ายเรือแน่นอน ท่าทางที่ตกเรือจะเป็นแบบหงายหลังไปขณะที่เรือแล่นอยู่ และถูกน้ำดูดเข้าไปใต้ท้องเรือจนเป็นแผลตามที่ทนายตั้มพูดไว้ ส่วนการตกแบบหงายหลังจนเสียชีวิตมีอยู่ 2 สาเหตุคืออุบัติเหตุกับการถูกฆาตกรรม” นายมงคลกิตติ์กล่าว

สั่งย้ายสปีดโบ๊ตของกลาง
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน บช.ภ.1 ได้เข้าเคลื่อนย้ายเรือสปีดโบ๊ตลำเกิดเหตุแตงโม-นิดา พลัดตกแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต ออกจากอู่จอดเรือ NBC Nontaburi BOAT CLUB ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี นำขึ้นรถพ่วงลากไปจอดไว้ที่สำนักงานแขวงทางหลวงชนบทนนทบุรี เชิงสะพานเจษฎาบดินทร์ ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี หลังมีคำสั่งอายัดเรือลำดังกล่าวไว้เป็นของกลางทางคดี ด้านเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทนนทบุรีกล่าวว่า ตำรวจได้ประสานขอใช้พื้นที่เพื่อขอจอดเรือสปีดโบ๊ตของกลาง ที่สั่งอายัดไว้เป็นของกลางในคดี เนื่องจากเห็นว่าทางแขวงฯมีพื้นที่กว้างขวาง และผู้บังคับบัญชาไม่ขัดข้อง อนุญาตให้นำมาจอดได้
“เจ้าท่า” ปัดเรียกไฮโซปอพบ
ที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานนทบุรี ต.บางไผ่ อ.เมืองนนทบุรี นายอำนาจ สอนหมวก ผอ.เจ้าท่าภูมิภาคสาขานนทบุรี เผยถึงกระแสข่าวกรมเจ้าท่า นัดหมายนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือไฮโซปอ เจ้าของเรือสปีดโบ๊ต นำหลักฐานการครอบครองเรือเข้าพบว่า จากการตรวจสอบไม่พบมีการนัดหมายนายตนุภัทรมาพบ หรือได้รับแจ้งจากเจ้าตัวว่าจะมาพบแต่อย่างใด ไม่ทราบว่ากระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร ผู้สื่อข่าวถามว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเรือสปีดโบ๊ต มีความผิดหรือไม่ นายอำนาจกล่าวว่า ตามกฎหมายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนเรือสาธารณะเท่านั้น แต่กรณีดังกล่าวเป็นเรือส่วนตัว ไม่มีกฎหมายห้าม แต่หากดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับเรือจนเกิดอุบัติเหตุจะเข้าข่ายกระทำการโดยประมาท สามารถดำเนินคดีกับผู้บังคับเรือขณะเกิดเหตุได้

แฟนคลับแห่อาลัยครบ 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี หลังครบ 7 วัน การเสียชีวิตของแตงโม-นิดา มีบรรดาแฟนคลับทยอยนำช่อดอกไม้มาวางแสดงความอาลัยดาราสาวอย่างต่อเนื่อง จนกองดอกไม้มีขนาดใหญ่ นอกจากช่อดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์แล้ว ยังมีแฟนคลับบางรายนำภาพวาดแตงโม-นิดา อาหารและน้ำดื่มมาวางไว้ด้วย น.ส.โอ๋ หนึ่งในแฟนคลับที่เดินทางมาจากย่านบางโพ กล่าวว่า เป็นแฟนคลับแตงโม-นิดา ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ ตอนที่ทราบข่าวรู้สึกตกใจมาก อยากให้ตำรวจรีบสรุปหาสาเหตุใครทำให้แตงโมเสียชีวิตหรือไม่ หรือเป็นเพียงอุบัติเหตุ จะได้ทำให้แฟนคลับคลายความสงสัย ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตลอดทั้งวัน มีไลน์แมนขี่รถ จยย. เป็นตัวแทนนำช่อดอกไม้จากแฟนคลับมาวางไว้อาลัยในจุดเกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง
แม่ยันไม่ไว้ใจเพื่อนซี้แตงโม
วันเดียวกัน นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของแตงโม-นิดา ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “โหนกระแส” ช่อง 3 มี หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ดำเนินรายการ เกี่ยวกับเรื่องราวการเสียชีวิตของลูกสาว ในช่วงหนึ่งผู้ดำเนินรายการถามว่า “วันเกิดเหตุ แม่บอกว่าฮิปโปไปรออยู่ท่า NBC ก่อน ท่าอีกท่ามีกระติกอยู่ แล้วเขามาบอกว่าแม่อย่าเพิ่งให้ข่าวแต่แม่ไม่ยอม วันก่อนคุยกับฮิปโป เขาบอกว่าเขาเคลียร์แล้ว” นางภนิดาตอบว่า “เคลียร์เมื่อศพน้องอยู่นิติเวชแล้ว แม่ค้างคาใจ แม่ไม่ไว้ใจเลย แอนนา ฮิปโป อร กระติกด้วย มันไม่ธรรมชาติ เป็นเรื่องที่เขาปิดบังอยู่ หนุ่ม-กรรชัยถามต่อว่า แอนนาเกี่ยวอะไร นางภนิดากล่าวว่า เขาเป็นพวกเดียวกัน เขากลับมาเอาแมวที่บ้านน้องโม ก็มาด้วยกันกับฮิปโป
ยกโทษให้ “ฮิปโป” ครึ่งเดียว
หนุ่ม-กรรชัยถามต่อว่า แต่เขาเป็นเพื่อน สุดท้ายตอนนี้เป็น 3 มุม เรียกว่าสามก๊กได้มั้ย มุมหนึ่งคือมุมแม่ มุมหนึ่งคือแอนนา-ฮิปโป มุมหนึ่งคือกระติก 3 คน ไม่ได้คุยกันเลยเหรอถึงทำให้เป็นประเด็นเกิดขึ้น นางภนิดาตอบว่า คือแม่อยู่นิ่งๆ เพราะแม่พบตำรวจอย่างเดียว ตำรวจเรียกเมื่อไหร่แม่ก็ไป แต่อีก 2-3 คนนั้นเขาคุยกันตลอด แล้วเมื่อข่าวแดง เจอศพแล้ว เขาถึงมาเคลียร์ว่าขอโทษ มาเคลียร์ทีหลังเมื่อ 2 วันนี้เอง ก่อนหน้านั้นไม่เจอกันเลย รอบเดียวที่แม่ว่าฮิปโปไปว่าต้องให้เป็นเรื่องธรรมชาติ ฮิปโปหายไปเลย เมื่อถามต่อว่าแม่เคลียร์หรือยัง นางภนิดาบอกว่า คุยกันทางโทรศัพท์ เขาก็ขอโทษ แต่แม่ยกโทษให้ฮิปโป 50 เปอร์เซ็นต์ แม่ไม่ทราบเขาออกข่าวทุกวันนี้ในฐานะอะไร เมื่อบอกว่าในฐานะเพื่อน นางภนิดาตอบว่าไม่ใช่ การจัดสถานที่งานศพน้องโม ต้องถามแม่ก่อนไปให้ข่าว เมื่อวานเขาก็ให้ข่าวเรื่องงานน้องโม เขามีสิทธิ์อะไร เพราะขณะนี้แม่เป็นผู้จัดการมรดกน้องโม
โกรธ “กระติก” ไม่บอกลูกตาย
หนุ่ม-กรรชัย ถามต่อว่า มุมกระติก เขาขอโทษแม่ แม่ไม่ให้อภัย ที่โกรธเขามากด้วยประเด็นอะไร นางภนิดาตอบว่า น้องเสีย คนแรกที่เขาต้องแจ้งคือพ่อแม่ แต่เขาไม่แจ้ง แม่ไม่เคยรู้เลยกระติกอยู่ตรงไหนยังไง 4 วันนั่นแหละ จนวันที่มาขออภัยถึงได้เจอกระติกวันแรก เจอศพน้องกี่วันแล้ว ถึงบอกว่าไม่รับพวงมาลัยกระติกนะ ขอคุยกันก่อน ทำไมไม่บอกแม่ตั้งแต่วันแรกที่น้องตกน้ำ เขาบอกว่าหนูกลัว หนูช็อก ก็ว่าไป แต่เขาบอกว่าก็แม่ดำน้ำไม่เป็น ก็เลยเหมือนถกเถียง แม่พยายามใจเย็น แต่เขาเถียงทุกคำ แม่ก็เลยอ้าว ทำไม ไม่แสดงการช่วยเหลือน้องโมเลยเหรอ มีผู้ชายด้วยก็ช่วยเหลือด้วย การช่วยเหลือคนตกน้ำมันมีวิธี เขาก็บอกว่าหนูว่ายน้ำไม่เป็น แม่ก็พูดเรื่องอื่น มันผิดมากเลยที่กระติกไม่บอกแม่ หายไป 3 วันเพราะแม่ไม่ใช่นักประดาน้ำด้วย ใน 3 วันที่ไม่แจ้ง ทำไมไม่แจ้งแม่ มัวแต่ไปแจ้งกับคนอื่น แม่รู้จากข่าวจากตำรวจว่าลูกแม่เสียชีวิต คนเป็นต้นเหตุทำให้ลูกเสียชีวิตคือกระติก แต่กระติกหนีหน้าไม่ยอมบอก
ติง “แอนนา-ฮิปโป” จุ้นงานศพ
หนุ่ม-กรรชัย ถามว่า ทำไมถึงโกรธแอนนากับฮิปโป นางภนิดาตอบว่า โกรธที่เขาไปออกข่าวไม่แจ้งแม่ ถึงจะเป็นเพื่อนกัน แต่ถ้ามีเหตุเช่นนี้ควรขออนุญาตแม่ก่อน เพราะตอนนี้ถึงจุดต้องจัดงานให้น้องโมแล้ว เรื่องสถานที่ เรื่องรายละเอียดของงานมันใหญ่ แต่แอนนาไม่ปรึกษาแม่เลย ออกข่าวเมื่อคืนนี้ พูดเองเลยว่าจะจัดตรงโน้นตรงนี้ ไปเอามาจากไหน แม่ต้องรู้รายละเอียดสิ คนที่จัดงานคือท่านธงชัยที่โบสถ์ เป็นคนโทร.หาแม่เลยว่างานน้องโมจะต้องออกมาเช่นนี้ ต้องสวยงาม แต่เมื่อคืนแอนนาโทร.มาขอให้แม่เปลี่ยนเป็นโบสถ์มหาไถ่ ไม่รู้แอนนากับฮิปโปได้คุยกับอาจารย์ธงชัยหรือเปล่าว่าเขาเซตกันแล้ว เขาประชุมกันแล้วว่างานต้องออกมาในรูปแบบนี้ ต่อไปนี้ใครจะมีอะไรเรื่องน้องโมต้องมาขอถามแม่ก่อน ก่อนสัมภาษณ์ต้องมาขออนุญาตแม่ก่อน อย่าเกี่ยวข้องกับน้องโมแล้วกัน เพราะมันผิดประเด็น จู่ๆจะมาขอให้แม่เปลี่ยนสถานที่ เขามีสถานที่ไว้แล้ว
อภัย “ปอ-เบิร์ต” ที่จริงใจ
หนุ่ม-กรรชัย ถามต่อว่า ปอมาขอโทษแม่แล้วและแม่ให้อภัย 100 เปอร์เซ็นต์เลยใช่หรือไม่ นางภนิดาตอบว่าใช่ แม่ขอเล่าก่อนให้อภัย น้องลงน้ำไป 1 วัน 1 คืน รุ่งขึ้นปอโทรศัพท์หาแม่ทันที ขอโทษทางโทรศัพท์ แม่กลับจากโรงพัก สายนี้ไม่คุ้น แม่ก็รับ เขาบอกว่าปอนะ ผมจะเจอแม่ได้ที่ไหน อยากขอโทษแม่ที่ทำให้น้องเสียชีวิต นี่คือปอ แม่ก็บอกว่าเดี๋ยวแม่ว่างจะโทร.กลับแล้วกัน ยังโกรธอยู่ เขาโทร.ทุกวัน จนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังโทร.และขอโทษ บอกจะดูแลแม่ทุกอย่าง ทำให้เหมือนที่น้องโมดูแล ที่แม่ยกโทษให้คือเขามีความสม่ำเสมอ จริงใจ เพราะรู้ว่าแม่เสียใจ เขาโทร.มาก็ร้องไห้ทุกวัน ร้องไห้กับแม่ วันที่ขอโทษก็ร้องไห้ด้วยกัน ยืนยันให้อภัย 100 เปอร์เซ็นต์ กับโรเบิร์ตก็เช่นกัน เขาเป็นเพื่อนกัน มาด้วยกัน แต่แซนกับจ๊อบแม่ไม่รู้จัก สำหรับกระติกใช้ไม่ได้ ไม่สมเป็นผู้จัดการ ส่วนแอนนาให้นิ่งๆ ถ้าไม่อยากมีปัญหากับแม่ ต่อไปนี้ให้สัมภาษณ์ต้องผ่านแม่ก่อน
จ่อเรียกเงินเยียวยา 30 ล้าน
เมื่อถามว่า การให้อภัยทั้ง 2 คนจะมีผลทางคดีหรือไม่ นางภนิดากล่าวว่า “นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งนะคะ คดีก็คือคดี เราคุยกันแล้วว่าเรื่องคดีก็คือเรื่องคดีนะคุณปอ ส่วนเรื่องคุณจะช่วยเหลือแม่ แม่จะได้เงินปลงศพจากปอด้วย เป็นเงินค่าเยียวยาที่ปอให้แม่ ก็คุยกันแล้ว เขาก็ยินดี เป็นเงินเท่าไหร่คุณแม่ไปคูณมา แล้วผมยินดีให้ สมมติน้องโมเล่นละคร 8 แสนถึง 1 ล้าน แม่ก็คิดไปสิว่าน้องโมจะมีชีวิตไปอีก สมมติ 30 ปี คูณไป 30 เลย” หนุ่ม-กรรชัยถามว่า “ก็ 30 ล้านที่แม่จะเรียก” นางภนิดาตอบว่า “ใช่ ถ้าน้องโมอยู่มีรายได้มากกว่านี้อยู่แล้ว นี่ยังไม่รวมถ่ายแบบ ถ่ายรูป นี่เฉพาะละครนะ น้องโมมีละครปีนึงไม่ต่ำกว่า 2 เรื่อง”
ไม่แคร์สังคม–ดูเจตนาคน
เมื่อถามว่า “แม่กลัวไหมสังคมจะมองว่าที่ให้อภัยเพราะมีตกลงเรื่องการเยียวยา” นางภนิดาตอบว่า ไม่ใช่ค่ะ คุณปอเขามีเจตนาในการขออภัยตั้งแต่วันที่น้องเสียเรามองที่เจตนาคน และเขาก็สม่ำเสมอ เขาสุภาพ คุณจะไม่สุภาพ หรือเลว แต่คุณปอสุภาพที่สุดแล้วเท่าที่แม่เจอผู้ชายมา สิ่งที่เขาพูดและสิ่งที่เขาทำให้น้องโม เขาไปทำบุญให้น้องโมหลายวัด หนุ่ม-กรรชัยถามต่อว่า “แม่มีทนายหรือยัง แนะนำว่าแม่ควรมีทนาย นางภนิดาตอบว่า “ยังไม่มี”
“อีสเตอร์” ไม่ใช่ลูกบุญธรรม
หนุ่ม-กรรชัยถามอีกว่า เรื่องกรมธรรม์ แตงโมทำให้ลูกกระติกเป็นความต้องการของแตงโม กรมธรรม์ออกมาเรียบร้อยให้บุตรบุญธรรม ผู้เอาประกันคือ 1 ล้านบาท แม่จะทำยังไงจะให้อีสเตอร์ไหม นางภนิดา บอกว่า เมื่อวานแม่ไปคัดเอกสารเรื่องจดทะเบียนอีสเตอร์เป็นบุตรบุญธรรมหรือเปล่า ยืนยันไม่มีการจดทะเบียนรับใครเป็นบุตรบุญธรรม เมื่อถามว่า มองว่าสัญญาฉบับนี้เป็นโมฆะเหรอ นางภนิดาบอกว่า ตอนนี้แม่เป็นผู้จัดการมรดกน้องโม เอกสารชิ้นนี้ก็เป็นมรดกของน้องโม อยู่ที่แม่ใจดีจะแบ่งให้เขาหรือไม่เท่านั้น
ขอเก็บเงิน–แบ่งให้เป็นก้อน
เมื่อถามว่า เป็นไปได้ไหมไม่ต้องมองที่กระติก แต่เด็กอีกเรื่องนึงแล้วเป็นความต้องการแตงโม ตรงนี้ปล่อยให้อีสเตอร์ไปได้ไหม นางภนิดาตอบว่า ยินดีให้เป็นทุนการศึกษา เพราะเขาต้องใช้เงินอีกเยอะในการเรียนตรงนี้แม่ยินดี แต่ไม่ใช่ทั้งหมดนะ ต้องแบ่งอีก แบ่งยังไงต้องคุยกัน เพราะแม่ไม่ต้องการให้กระติกเอาไปใช้อยากให้ถึงอีสเตอร์ อาจระบุว่าอายุเท่านี้เบิกได้ ให้เขารู้ความมากกว่านี้ เขาจะได้มีเงินเรียนถึงขั้นมหาวิทยาลัย ถามต่อว่า ห้าแสนต้องเป็นของแม่ นางภนิดาตอบว่า แม่อาจทำสัญญาไว้เลย ถ้าอีสเตอร์โตถึงแค่ไหน แม่จะคืนให้อีกเท่าไหร่ เป็นก้อนๆไป คือไม่ให้ทั้งหมด แม่จะให้เก็บเอาไว้ให้เขาเองเพื่อปกป้องลูกของน้องโมด้วย เมื่อถามว่า ห้าแสนแม่เก็บไว้เป็นทุนการศึกษา อีกห้าแสนแม่จะจัดสรรปันส่วนให้เอง “ค่ะ ยืนยันแบบนี้” นางภนิดากล่าว
คาใจพาลูกสาวไปงานเอ็นฯ
หนุ่ม-กรรชัยถามอีกว่า คิดว่าเหตุการณ์บนเรือเกิดอะไรขึ้น นางภนิดาบอกว่าใจแม่คิดว่าทะเลาะกันในเรือมีปัญหาในเรือ ตอบตรงๆนะ มันอาจไม่ใช่ก็ได้ที่เอาน้องโมไปทำอะไรในเรือ เอาไปเอ็นฯหรือเปล่าถามกระติกนะ แม่ก็คิดไว้เช่นนั้นว่าพาน้องโมไป เพราะทำไมน้องโมแต่งตัวสวยคนเดียว กระติกแต่งตัวไม่สวยเลย อีกคนก็ใส่กางเกงยีนส์ อาจมีเหตุลักษณะว่าน้องโมไม่ยอม น้องไม่ยอมให้ใครแตะต้องตัวถ้าเขาไม่รู้จัก ซึ่งน้องรู้จักแค่ปออีกสองคนไม่รู้จัก
ยืนยันแม่กับลูกสนิทกันมาก
เมื่อถามว่า ที่กระติกบอกว่าไม่โทร.หาเพราะเขากับแตงโมไม่สนิทกับแม่ นางภนิดาบอกว่า “หลังพ่อแตงโมเสียน้องโมก็มาสนิทกับแม่มากขึ้น มารักแม่มากขึ้น ทุกเรื่องของน้องโมจะมาบอกคุณแม่ เรื่องความลับเรื่องผู้หญิงๆ อะไรของเขาก็สนิทกัน กระติกจะพูดอะไรก็ได้ เขาไม่เฉลียวใจเหรอว่าพ่อเสียไปแล้วจะมาอ้างทำไมว่าถ้าพ่ออยู่จะบอกพ่อ จะบ้าเหรอ ขอพูดเลย แม่อยู่ทั้งคน วันไปถ่ายรูปน้องโมรับปริญญา เราไปเช่าสตูฯถ่ายกัน มีกระติก อีสเตอร์ แฟนน้องโม แม่ พี่เลี้ยง เป็นภาพใหญ่ติดอยู่ที่บ้าน ทำไมจะไม่สนิทกัน แต่กระติกไม่ค่อยอยากคุยกับแม่”
ปัดเปลี่ยนรหัสเข้าบ้านแตงโม
หนุ่ม-กรรชัยถามว่า หลังพ่อแตงโมเสียชีวิต มีข่าวลือว่าแม่ไปหยิบบางอย่างออกมา ทำให้แตงโมเซฟบ้านเปลี่ยนรหัสทั้งหมดไม่ให้แม่เข้าไปในบ้าน นางภนิดาตอบว่า ไม่ได้เปลี่ยน รหัสเหมือนเดิม ปัจจุบันก็เข้าได้บ้านพ่อ แต่บ้านแตงโมแม่ไม่เคยเข้า เพราะไม่รู้จะเข้าไปทำไม บ้านโมไม่มีอะไร บ้านพ่อไม่ได้เปลี่ยน บ้านโมก็ไม่ได้เปลี่ยน ขนาดเพื่อน 20 คนก็รู้รหัสน้องโมหมด เข้าบ้านได้หมดเป็นช่วงที่เพื่อนไปปลอบใจตอนพ่อน้องโมเสีย แต่แม่ไม่อยากเข้าไป เพราะเขามีเพื่อนอยู่ด้วย
อ้างปอเปิดเรื่องเงินเยียวยา
หนุ่ม-กรรชัยถามว่า ที่ปอมาขอโทษจะเยียวยาให้ ถ้าแม่รับเป็นการบรรเทาโทษนะ นางภนิดาตอบว่า แม่เข้าใจ เขาก็พยายามทำแหละ แต่เกี่ยวกับเรื่องที่แม่จะเรียกเงินปลงศพ สินไหมทดแทน คุยกับปอแล้ว ปอเป็นคนเปิดขึ้นมาเองว่าไม่เกี่ยวกันนะแม่ เราก็คุยกันแล้ว เขาจะดูแลแม่ในเรื่องความเป็นลูก เขาขอเป็นลูกทั้งสองคนนั่นแหละ ส่วนเรื่องคดีแม่ไม่ติดใจ แต่ต้องดำเนินคดีตามที่ตำรวจว่ามา เมื่อถามต่อว่า แม่กลัวสังคมรู้สึกไม่ดีกับแม่หรือไม่ คดียังไม่ได้ตัดสินเลยว่าแตงโมเสียชีวิตเพราะอะไร แต่แม่เร่งรีบให้อภัย มีปัจจัยเรื่องเงินเยียวยามาเกี่ยวข้อง หรืออย่างที่แม่ให้อภัยแอนนา ฮิปโปแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ แต่คนบนเรือแม่ให้อภัย 100 เปอร์เซ็นต์ แม่กลัวสังคมจะต่อว่าไหม “ไม่กลัวใดๆทั้งสิ้นเพราะผลจะไปตกอยู่ที่กระติกก่อนก่อนแม่จะกลัว ประชาชนไปเล่นกระติกตลอดเวลาละ ถ้าแม่มาพูดเรื่องนี้ อธิบายให้ฟังว่าทำไมอภัยให้ปอและเบิร์ตได้ เพราะเจตนาเขามี ติดต่อแม่มาก่อนโดนจับ” นางภนิดากล่าว
ไม่ได้อยากได้เงินจัดงานศพ
ต่อมาทางรายการโฟนอินเข้าหาแอนนา ทีวีพูล เพื่อนสนิทแตงโมให้พูดคุยกับนางภนิดา “แม่อยากบอกว่าแม่ขอบคุณนะที่แนะนำเรื่องเปลี่ยนสถานที่จัดงานน้องโม แต่ว่าท่านธงชัย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่อยู่ในโบสถ์ ซอย 36 ได้สรุปจัดงานกันเรียบร้อยแล้ว ว่าออกมาธีมไหน แบบไหน เรามีผู้ช่วยเหลือคือพี่เอ ศุภชัย พี่อั้ม พัชราภา และทางโบสถ์ด้วย เพราะแม่บอกว่าไม่แน่ใจเลยว่าจะมีเงินจัดงานให้น้องโมหรือเปล่า เขาก็พูดมาเลยว่าคุณแม่ไม่ต้องห่วง ตรงนี้ท่านธงชัยบอกว่าตรงนี้จัดการให้ จะจัดให้สวยเลย อยากบอกว่าเมื่อคืนที่ให้ข่าว แม่ไม่ทราบเรื่อง คุณจะเปลี่ยนอะไรยังไง ควรปรึกษาแม่ก่อน คุณให้ข่าวแล้ว แล้วมาปรึกษาแม่ตอนดึก ฉะนั้น ข้ามขั้นตอนแล้วเพราะเขาเซตงานแล้ว คุณจะไปเปลี่ยนเพื่ออะไร เพื่อมาบอกว่าแม่จะได้เงินก้อนใหญ่ๆมาใช้ มันไม่ใช่ แม่ไม่ได้ต้องการเงินก้อนใหญ่ แต่แม่ต้องการงานของน้องโมที่สมกับลูกสาวแม่ ต่อไปนี้ถ้าจะพูดอะไรขอให้ขออนุญาตแม่ก่อน จะโทร.มาบอกก็ได้
“แอนนา” ถอนตัวไม่ยุ่งเกี่ยว
ด้านแอนนากล่าวตอบในตอนท้ายว่า เอาเป็นว่าเรื่องการจัดงานศพ หนูขอถอนตัวเลยแล้วกัน หนูจะไม่เข้าไปก้าวก่าย ขอเคารพการตัดสินใจของแม่ทั้งหมด แต่ว่าอยากบอกแม่ด้วยใจจริงให้คนทั้งประเทศฟังว่าแอนนารักแตงโม เพราะแตงโมดีกับแอนนามากสมัยเรียน วันที่แตงโมจากไป แอนนาพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แต่ถ้ามีอะไรที่ขาดตก บกพร่องหรือผิดไป ขอโทษแม่จากใจจริง ไม่ได้มีความรู้สึกไปก้าวก่ายอะไรเลย ขณะที่ฮิปโป กล่าวว่า หนูก็เช่นกันค่ะ ถ้าทำอะไรหรือพูดอะไรให้แม่เข้าใจผิด ก็กราบขอโทษจากหัวใจจริงๆ หนูอยากให้พี่โมดีที่สุดแล้ว นางภนิดากล่าวว่า ต่อไปนี้ทำเรื่องอะไรให้ปรึกษาแม่ก่อน
พี่ชายโมฝากขอโทษทุกคน
เย็นวันเดียวกัน “กุ๊ก-กฤติกา ขอไพบูลย์” อดีตผู้ประกาศข่าวสาว ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนของ “ต๋อย-ดายศ เดชจบ” พี่ชายของแตงโม-นิดา โพสต์ข้อความเปิดเผยหลังจากพูดคุยกับ “ต๋อย ดายศ” ว่า ต๋อยฝากขอโทษเพื่อนๆน้องโมและทุกๆคนที่คอยช่วยเหลือตลอดมา ต๋อยเสียใจแต่ต้องแล้วแต่การตัดสินใจของคุณแม่ ส่วนตัวต๋อยเองยังเชื่อว่ากระบวน การยุติธรรมยังคงเดินหน้าต่อไป ขอให้ทุกคนที่รักและห่วงใยน้องโมร่วมกันทำให้น้องโมต่อไปในวาระสุดท้าย ใครที่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก็ส่งข้อมูลให้ตำรวจได้เหมือนเดิม ส่วนตัวพี่ชายเสียใจแต่ก็ยังไม่หมดหวังว่าจะได้รับความกระจ่างจากเรื่องการจากไปของน้องสาว

“ทนายตั้ม” ให้ปากคำตำรวจ
เวลา 19.00 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เดินทางมา สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในฐานะพยาน คดีแตงโม-นิดา พลัดตกเรือเสียชีวิตว่า วันนี้มาให้ปากคำในฐานะพยาน เพราะหลังเกิดเหตุแตงโมพลัดตกเรือเสียชีวิตได้มีเพื่อนที่รู้จักกับปอ โรเบิร์ตประสานมาเพื่อขอคำปรึกษาในเรื่องคดี นัดคุยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี พอไปถึงได้พบกับปอ โรเบิร์ต ได้พูดคุยขอคำปรึกษาประมาณ 15 นาที ขณะจะกลับได้พบกับกระติก แต่ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ตำรวจได้ให้เข้ามาให้ปากคำในฐานะพยานคนหนึ่งเท่านั้น และไม่ได้รับทำคดีให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ว่าจะฝั่งผู้ต้องหาหรือแม่แตงโม
อวยพรแม่ให้เฮงๆรวยๆ
ส่วนคดีแตงโมเป็นคดีอาญาไม่สามารถยอมความได้ แต่หากแม่แตงโมรับเงินเยียวยา ทนายจำเลยสามารถนำมาให้การศาล เพื่อพิจารณาให้ลงโทษสถานเบา หรือรอลงอาญา เรื่องการเรียกเงินเยียวยา 30 ล้านบาทนั้นอยู่ที่การตกลงกันทั้ง 2 ฝ่าย ตอนนี้ทายาทของแตงโม เหลือ 2 คน คือแม่และพี่ชาย ทั้งนี้ การที่กระติกไม่ได้ให้ความสนใจแม่ ไม่ได้ให้ความสำคัญตั้งแต่ต้น ตนได้รับฟังมาจากกลุ่มเพื่อนดาราเท่านั้น แต่ไม่สามารถพูดได้ การที่เดินทางมาให้ปากคำเพราะต้องการทำเพื่อแตงโมคนเดียว หลังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเสร็จ ทนายตั้มกล่าวว่า “ขอให้แม่ ปังๆเฮงๆรวยๆ ผมขออนุญาตมาให้ปากคำกับตำรวจนะครับ”