“แพนดอร่า เปเปอร์ส”?? น่าจะทำให้บรรดาผู้นำและนักการเมืองระดับโลก ปั่นป่วนกันพอสมควร

หลังสำนักข่าวดังอย่าง บีบีซี รายงานเปิดโปงข้อมูลจากเอกสารทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดอย่าง “แพนดอร่า เปเปอร์ส”

ที่ทาง บีบีซี พาโนรามา ร่วมกับ การ์เดียน และสื่อพันธมิตรอื่นๆ ในนาม เครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ หรือไอซีไอเจ (International Consortium of Investigative Journalists : ICIJ) ที่มีผู้สื่อข่าวเข้าร่วมกว่า 650 คน

สามารถเข้าถึงเอกสารเกือบ 12 ล้านฉบับ จากบริษัทด้านการเงิน 14 แห่ง ในหลายประเทศ รวมถึง หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน, ปานามา, เบลีซ, ไซปรัส, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สิงคโปร์ และสวิตเซอร์แลนด์ มีเจ้าของบริษัทนอกอาณาเขตประมาณ 95,000 ราย อยู่เบื้องหลัง

จนทำให้ผู้นำและนักการเมืองดังจากหลายประเทศ กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาเรื่องทุจริต, ฟอกเงิน และเลี่ยงภาษี

ตามรายงานมีการเปิดโปงข้อมูลของผู้นำทั้งในอดีตและปัจจุบัน ประมาณ 35 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐมากกว่า 300 คน เป็นข้อมูลจากบริษัทนอกอาณาเขต หรือ Offshore Company ที่รับบริหารจัดการทรัพย์สินของบรรดามหาเศรษฐีและนักการเมืองหลายคน

อาทิ นายโทนี แบลร์ อดีตนายกฯอังกฤษ และ ภรรยา (อาชีพทนายความ) ไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งคิดเป็นอากรแสตมป์มูลค่า 312,000 ปอนด์ หรือประมาณ 14,244,258 บาท เมื่อครั้งซื้ออาคารสำนักงานในกรุงลอนดอน โดยทั้งคู่ใช้วิธีการซื้อบริษัทนอกอาณาเขตที่เป็นเจ้าของอาคารดังกล่าวอีกทอดหนึ่ง

นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่ซุกทรัพย์สินไว้ในโมนาโก

กษัตริย์แห่งจอร์แดน ที่ทรงเก็บทรัพย์สินไว้ในอังกฤษและสหรัฐอเมริกาอย่างลับๆ เป็นมูลค่า 70 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 3,191 ล้านบาท

...

หนึ่งในนั้นคือคฤหาสน์วิวทะเล ในมาลิบู 3 แห่ง มูลค่า 50 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2,282 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆ ในกรุงลอนดอน และเมืองแอสคอตในอังกฤษ

จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นผลประโยชน์ที่เพิ่มพูนขึ้นจากการถูกกล่าวหาว่าปกครองประเทศด้วยระบอบเผด็จการ ท่ามกลางมาตรการรัดเข็มขัด และการขึ้นภาษี

นายอิลฮัม แอลีเยฟ ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน และพรรคพวกที่ทำงานใกล้ชิด เข้าไปพัวพันกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษ มูลค่ากว่า 400 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 18,261 ล้านบาท

นายอูฮูรู เคนยัตตา ประธานาธิบดีเคนยา และ 6 สมาชิกในครอบครัว เป็นเจ้าของเครือข่ายบริษัทนอกอาณาเขตอย่างลับๆ หนึ่งในนั้นมีมูลค่าทรัพย์สินสูงถึง 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,011 ล้านบาท

นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ถูกตรวจพบว่าได้โอนหุ้นไปในบริษัทนอกอาณาเขต ก่อนที่เขาจะชนะเลือกตั้งเมื่อปี 2562

นายเฟอร์กัส ชีเอล จากไอซีไอเจ ระบุว่า ไม่เคยมีการเปิดโปงข้อมูลที่ใหญ่ระดับนี้ เอกสารดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าบริษัทนอกอาณาเขตหลายแห่งสามารถทำอะไรต่อมิอะไรเพื่อช่วยในการซุกเงินและเลี่ยงภาษี

เป็นการเพิ่มพูนความมั่งคั่งของเหล่าผู้ปกครอง จากเงินภาษีประชาชนในประเทศตนเอง

น่าเสียดายที่ไม่มีข้อมูลบรรดาผู้นำ และนักการเมืองไทย ติดโผอยู่ลิสต์ด้วย

ไม่งั้นรายชื่อที่ปรากฏอาจต้องชิดซ้าย.

“เพลิงสุริยะ”