ตอนนี้จำนวน ผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศไทย พุ่งขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,000 รายต่อวัน ในขณะที่ วัคซีนโควิด–19 ทยอยเข้ามาทีละแสนโดส เมื่อเทียบสัดส่วนของจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นกว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้พอดี โศกนาฏกรรม หาโรงพยาบาล ตรวจโควิดไม่ได้ เพราะน้ำยาไม่พอ หาโรงพยาบาลที่รักษาโควิดไม่ได้ เพราะเตียงไม่พอ มีอยู่ 2 ทางเลือกคือยอมเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่เคยอยู่ในพื้นที่การควบคุมสูงสุด อาทิ จ.สมุทรสาคร หรือไม่ก็ กักตัวเองอยู่กับบ้าน กินยาแก้ไข้ปวดหัวตัวร้อนไปตามมีตามเกิด เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะเกิดการระบาดของโรคเป็นแบบ ซุปเปอร์สเปรดเดอร์ จาก แหล่งคลัสเตอร์ ซ้ำซากโดยเฉพาะสถานบันเทิง หรือบ่อนพนัน ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมาย ขนาดดารา นักแสดง ไฮโซ คนดัง ยังหาโรงพยาบาลตรวจเชื้อหรือเข้ารักษาพยาบาลได้ลำบาก จะมาคาดหวังอะไรกับ ชาวบ้านตาดำๆ ที่หาเช้ากินค่ำ
นี่คือความล้มเหลวของระบบสาธารณสุขไทยในยุคนี้
การที่จะฉีดวัคซีนเพื่อให้ประสิทธิภาพเป็น ภูมิคุ้มกันหมู่ ก็ต้องใช้วัคซีนประมาณร้อยละ 70-80 ของจำนวนประชากร ประเทศไทย สั่งวัคซีนเอาไว้ 63 ล้านโดสรวมทุกยี่ห้อเพื่อฉีดให้คนไทย 31-32 ล้านคน ขณะที่คนไทยปัจจุบันไม่รวมคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ประเทศไทยอีก 4-5 ล้านคน ก็ปาเข้าไป กว่า 70 ล้านคนแล้ว ถ้าจะฉีดแค่ร้อยละ 50 ของประชากร ประสิทธิภาพของวัคซีนไม่มีภูมิคุ้มกันแน่นอน ก็ต้องขยับขึ้นไปอีกหน่อย คิดเป็นจำนวนประชากรอย่างน้อยก็น่าจะประมาณ 45 ล้านคนขึ้นไป
ฉีดให้ประชากรคนละ 2 โดส ก็ต้องใช้วัคซีน ประมาณ 90 ล้านโดส หลังที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คุยกับผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนแล้ว ได้ข้อสรุปทำนองที่ว่า เปิดโอกาสให้เอกชน เป็นผู้นำเข้าวัคซีนมาสมทบกับวัคซีนรัฐบาลอีกประมาณ 10 ล้านโดส ก็จะมีปริมาณวัคซีนที่ประมาณ 70 กว่าล้านโดส ก็ยังไม่พอกับปริมาณของประชากรในกลุ่มภูมิคุ้มกันหมู่อยู่ดี คำถามคือทำไมไม่ยอมอนุมัติให้ เอกชน สามารถนำเข้าวัคซีนมาโดยตรง ทำไมต้องขึ้นอยู่กับ สาธารณสุข จะบอกว่าไม่มีประสิทธิภาพ ก็เป็นวัคซีนชนิดเดียวกัน บริษัทเดียวกันที่รัฐอนุญาตให้นำเข้า
...
แสดงถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการวัคซีน
การแบ่งกลุ่มผู้รับวัคซีนก็เช่นกัน จะให้บุคลากรทางการแพทย์ก่อน จะให้ผู้สูงอายุก่อน จะให้กลุ่มเสี่ยงตามชายแดนก่อน ในทางปฏิบัติปรากฏว่า คนใหญ่คนโต ข้าราชการระดับสูง หรือดารา นักแสดงบางคน ได้รับวัคซีนก่อนเฉยเลย บุคลากรทางการแพทย์ บางพื้นที่ บางโรงพยาบาลยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด จนในที่สุด บุคลากรทางการแพทย์ ต้องติดโควิดจำนวนมาก ส่งผลกระทบถึงการรักษาพยาบาลผู้ป่วยในเวลาต่อมา
กทม.กลายเป็นแหล่งรวมโรค จนถึงบัดนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 มากกว่า 3,000 รายแล้ว เป็นที่น่าสังเกตว่าประชากร กทม.ยังได้รับวัคซีนในสัดส่วนที่น้อยที่สุด ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นมา ประเทศไทยมีคนติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นกว่า 3,600 ราย ไวรัสโควิด-19 กระจายไปแล้วกว่า 70 จังหวัด เศรษฐกิจประเทศ ความปลอดภัยของประชาชน หายนะทันที
จนถึงจุดนี้ ไม่มีแม้แต่คำขอโทษจากผู้นำใดๆทั้งสิ้น.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th