นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า หลายประเทศมีอัตราการเจริญพันธุ์หรือค่าเฉลี่ยการมีบุตรของผู้หญิงลดลงต่อเนื่อง สำหรับไทยพบว่าอัตราเจริญพันธุ์ลดลงเหลือเพียง 1.5 ส่งผลให้อนาคตจะประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประเทศไทยถือว่ามีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการแพทย์เป็นอันดับต้นๆของโลก จากการสำรวจ สบส.พบว่าปี 2562 การให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์สร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 4,500 ล้านบาท
ที่ผ่านมา สบส.ได้ดำเนินงานตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558 โดยบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาศักยภาพสถานพยาบาลที่ให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากอย่างต่อเนื่อง จนขณะนี้มีสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการให้บริการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ทั้งสิ้น 102 แห่ง มีอัตราความสำเร็จการให้บริการตั้งครรภ์โดยเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 46 ให้บริการทำเด็กหลอดแก้วกว่า 20,000 รอบการรักษา การผสมเทียมกว่า 12,000 รอบการรักษา และอนุญาตให้ตั้งครรภ์แทน หรือที่เรียกกันว่าอุ้มบุญแล้วกว่า 400 ราย ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นหลักฐานความสำเร็จ และยืนยันให้เกิดความเชื่อมั่นแก่คู่สมรสว่าการรับบริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์จากสถานพยาบาลไทยช่วยให้คู่สมรสสามารถมีบุตรได้ตามที่หวัง ลดปัญหาอัตราเกิดที่ลดลงรองรับการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอนาคต.