เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2563 ที่วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงาน“อาชีวะยกกำลังสอง ” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ว่า การผลักดันอาชีวะยกกำลัง 2 เป็นการยกระดับศักยภาพกำลังพลอาชีวศึกษาให้สอดคล้องความต้องการแรงงานของประเทศ โดยมีผู้ประกอบการชั้นนำจากภาคเอกชนระดับประเทศและระดับโลก เข้ามาช่วยพัฒนาหลักสูตร แบบ 1 เอกชน ต่อ 1 วิทยาลัย ใน 7 สายงานหลัก ประกอบด้วย ปิโตรเคมี เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล หุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม เกษตรสมัยใหม่ อุตสาหกรรมการบิน อุตสาหกรรมระบบราง ยานยนต์สมัยใหม่ และธุรกิจโรงแรมและการบริการ รวม 32 แห่ง ตั้งเป้าจะตั้งศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อความเป็นเลิศอาชีวศึกษา 50 แห่ง ภายในปี 2563 และครบ 100 แห่ง ในปี 2564นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า รัฐบาลตั้งใจพัฒนาการเรียนรู้ให้กับอาชีวศึกษาด้วยการวางแผนการศึกษาตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งไม่ใช่การสืบทอดอำนาจของตน แต่วันนี้ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อผลิตคนให้ตรงต่อความต้องการตลาดแรงงาน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนที่รับนักศึกษาเข้าฝึกงาน เพื่อเพิ่มทักษะการเรียนรู้นอกห้องนอกเหนือจากการเรียนรู้ภายในห้องที่เป็นการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขณะเดียวกันการเรียนรู้ของนักศึกษาจะต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และฝากให้นักศึกษาวางแผนอนาคตท่ามกลางอุปสรรคที่เข้ามาและโลกที่เปลี่ยนแปลง รัฐบาลพยายามสร้างโอกาสให้ประเทศสงบสุข มีความมั่นคง ไม่ใช่ประเทศที่มีปัญหา จึงอยากฝากให้ทุกคนกระตุ้นนักศึกษาด้วยการเพิ่มทักษะให้มีงานทำ ที่สำคัญขอกำลังใจในการร่วมกันพัฒนาคน ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้สังคมอยู่ได้แม้เกิดวิกฤติ โดยอยากเห็นการพัฒนาอาชีวะยกกำลัง 2 เป็นยกกำลัง 10 ซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกันพล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยมีเอกลักษณ์ รอยยิ้ม อาหาร และสิ่งดีๆ ทำให้คนนิยมมาเที่ยวกว่า 40 ล้านคนก่อนโควิด-19 ระบาด ดังนั้นอย่าไปทำลาย ต้องพัฒนาตัวเอง ทำสิ่งดีๆให้ประเทศชาติ ตนเคารพครู กลับบ้านก็เจอ ซึ่งครูของตนคือประชาชนที่สอนตน โดยนำคำสอนของประชาชนมาทำงานร่วมกับ ครม. เพื่อแก้ปัญหาประเทศ ทุกคนเป็นประชาธิปไตยทั้งหมด อย่ารังเกียจกัน ขอให้ทุกคนมีความรัก สามัคคี รักแผ่นดินไทย.