"สุวรรณภูมิ" ชี้แจงหนุ่มโพสต์กลับจากสเปน เดินชิลออกมา ยันผ่านคัดกรองด้วยเทอร์โมสแกนที่มีความแม่นยำ แต่เพราะไม่มีไข้ อาการบ่งชี้ จึงไม่กักตัวไว้สอบสวนโรค แต่ย้ำให้กักตัวเอง 14 วัน

จากกรณี ที่มีชายหนุ่มโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในทำนองว่า หลังตัวเองเดินทางกลับจากเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมื่อลงเครื่องบิน ก็เดินผ่าน ตม. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปรับกระเป๋า กับบรรดานักเดินทางอีก 500-600 คน จากนั้นเดินออกนอกสนามบิน โดยระบุว่าไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ตรวจร่างกายแต่อย่างใด  

นายปฏิคม วิวัฒนานนท์ หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีที่บุคคลคนดังกล่าว ที่สามารถผ่านการตรวจจากเครื่องเทอร์โมสแกน ที่มีความแม่นยำ ซึ่งตั้งไว้ตามจุดต่างๆ โดยไม่มีอาการป่วย ต้องสงสัยตามเกณฑ์การคัดกรองการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คือ ไม่มีไข้ ไม่มีน้ำมูก ไม่มีอาการไอจาม เจ็บคอ หรือหายใจลำบาก ซึ่งทางด่านควบคุมโรค ก็จะไม่มีการกักตัวไว้ตรวจพิสูจน์เพิ่มเติม หรือสอบสวนโรคต่อ

โดยจะให้ผู้เดินทางเข้าประเทศเหล่านี้ทุกคน ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ไปกักตัวเองเฝ้าดูอาการในที่พักของตัวเอง เป็นเวลา 14 วัน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และยืนยันการปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ

ด้าน นายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ทราบเรื่องราวดังกล่าวและทราบตัวผู้โดยสารที่โพสต์แล้ว และยืนยันว่าผู้โดยสารคนดังกล่าว ได้ผ่านจุดตรวจหรือจุดคัดกรองที่มีเครื่องเทอร์โมสแกนของเจ้าหน้าที่ ตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่เชื้อไวรัสโควิด -19 แต่ที่ผ่านไปได้ เพราะตัวผู้โดยสารเองไม่มีไข้หรืออาการบ่งชี้ รวมทั้งประเทศต้นทาง ที่เดินทางมายังประเทศสเปน ไม่ใช่ประเทศกลุ่มเสี่ยง 4 + 2 ตามที่ออกประกาศไว้ จึงไม่จำเป็นต้องซักถามข้อมูล หรือตรวจเพิ่มเติม

...

นายกิตติพงษ์ กล่าวยืนยันด้วยว่าในจุดตรวจหรือคัดกรองในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะมีแพทย์ประจำการอยู่ ดังนั้นหากบุคคลใดก็ตามที่เข้าข่ายต้องสงสัย หรืออยู่ในภาวะกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น จะต้องถูกซักถามประวัติและตรวจร่างกายซ้ำอย่างแน่นอน ขออย่าเป็นกังวล

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการเจ้าหน้าที่หาภาพขณะผู้โดยสารคนดังกล่าวเดินผ่านเครื่องเทอร์โมสเเกน เพื่อเตรียมนำมาประกอบยืนยันข้อมูล และจะไปประชุมพูดคุยเพื่อพิจารณาว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้โพสต์หรือเนื่องจากสร้างความตื่นตระหนกหรือไม่

ขณะเดียวกันได้มีการติดต่อไปยังผู้โพสต์รายดังกล่าวเพื่อจะชี้แจงและขอพูดคุยแล้วแต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ พร้อมขอให้ประชาชนให้เข้าใจ เนื่องจากทุกวันนี้ ข้อมูลข่าวสารไปไกลเกินกว่าความเป็นจริงซึ่งอาจทำให้สังคมตื่นตระหนกได้ 

นายกิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่คลังสินค้าของสายการบินโคเรียนแอร์ ซึ่งเป็นคนไทยและประจำอยู่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 1 ราย และล่าสุดได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาแล้วนั้น ถือเป็นเจ้าหน้าที่ของสนามบินรายที่ 4 ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19

เบื้องต้นจึงแจ้ง AOC ให้ประสานไปยังสายการบินโคเรียนแอร์ เข้ามาทำความสะอาด อบฆ่าเชื้อโรคภายในสำนักงานและพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งให้พนักงานสายการบินโคเรียนแอร์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เดียวกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว รวมถึงเจ้าหน้าที่ของการบินไทยที่ต้องทำงานประสานกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ต่อไป.