ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่คนแล้ว ไม่มีวันเลิกได้ ต้องเป็นแม่ตลอด 24 ชั่วโมงจริงๆ และไม่ว่าจะยากดีมีจนขนาดไหน ก็ไม่มีแม่คนใดไม่รักและไม่หวังดีกับลูกตัวเอง ทีมข่าวหน้าสตรีไทยรัฐ นำเสนอ 4 สุดยอดคุณแม่ยุคใหม่ ที่เป็นแบบอย่างของ “มนุษย์แม่สายพันธุ์อึด” อย่างแท้จริง

“มณีสุดา ศิลาอ่อน” แม่ผู้ทุ่มเทของ “อาย-แอ๊มพ์-อิน”
ธรรมะคือแสงสว่างนำทางชีวิต

เอ็มเป็นแม่ที่ใกล้ชิดคุยกับลูกตลอดเวลา ยอมรับว่าการเลี้ยงลูกในยุคดิจิทัลไม่ง่ายเลย เราต้องพยายามตามโลกให้ทัน และรับรู้สังคมของลูก ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย และรับฟังลูกๆให้มากขึ้น ต้องคุยกับลูกในลักษณะของเพื่อน เปิดใจรับฟังสิ่งที่ลูกอยากเป็นและอยากทำ บางอย่างอาจจะรู้สึกว่ามันไม่ถูกอกถูกใจเราก็ต้องรับฟัง เอ็มอยากเลี้ยงลูกให้ใกล้ชิดและอบอุ่นเหมือนที่พ่อแม่เลี้ยงดูเรามา โดยพยายามผสมผสานกับสิ่งที่พี่แอม (สามี) ได้รับการเลี้ยงดูมาจากพ่อแม่ด้วย จำความรู้สึกได้ว่าตอนเด็กๆเรามีความสุขมาก และอยากให้ลูกเติบโตแบบมีความสุขเหมือนอย่างเรา เอ็มให้ลูกทั้งสามคนเรียนโรงเรียนไทย จนถึง ป.4-ป.5 แล้วค่อยส่งเข้าเรียนโรงเรียนอินเตอร์ที่โชรส์เบอรี่ เพราะอยากให้ลูกๆได้ซึมซับความเป็นไทยมากที่สุด และเขียนภาษาไทยแตกฉาน ต้องรู้จักประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชาติไทย และภูมิใจในความเป็นคนไทย เอ็มยังปลูกฝังให้ลูกๆมีความจงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรี, เข้าใจเรื่องบาปบุญคุณโทษ และการกตัญญูต่อบุพการี เหมือนที่คุณยายสั่งสอนเอ็มมา พี่แอมและเอ็มได้รับการปลูกฝังธรรมะในจิตใจตั้งแต่เด็ก ทำให้รู้ซึ้งว่าธรรมะเป็นแสงสว่างนำ ทางชีวิตได้ทุกครั้งที่มีโอกาสจึงพาลูกๆไปปฏิบัติธรรมร่วมกัน การสอนลูกที่ดีที่สุดคือ ทำให้ลูกดูเป็นแบบอย่าง เอ็มชอบพาลูกๆไปต่างจังหวัดที่สุด อยากให้ลูกได้เปิดมุมมองชีวิตใหม่ๆ เวลาไปกับลูกเราได้สอนลูกไปในตัว เอ็มจะบอกเสมอว่าพวกหนูต้องตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด เผื่อวันหนึ่งที่พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว ก็จะต้องดูแลตัวเองและครอบครัวได้ วันนี้เราอาจอยู่อย่างสบาย แต่เงินใช้เมื่อไหร่ก็หมด ถ้าไม่สามารถหามาเพิ่มเติมได้ ตอนนั้นพ่อแม่ก็ไม่อยู่แล้ว พวกหนูจะทำยังไง เอ็มจะเอาความรู้สึกดีๆที่ได้จากผู้ใหญ่มาถ่ายทอดให้ลูก โดยปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย พยายามใส่ความเป็นเพื่อน และเปิดใจยอมรับฟังลูก ให้โอกาสเด็กๆได้แสดงความเป็นตัวตนของแต่ละคนในขอบเขตที่คิดว่าพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข

...

มณีสุดา ศิลาอ่อน
มณีสุดา ศิลาอ่อน

“นวลพรรณ ล่ำซำ” คุณแม่สายสตรองของ “น้องปราง”
จงยืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเอง

แป้งเชื่อในความดี และการดำรงตนให้เป็นที่ชื่นชมของคน ความพอดีและความพอเพียงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทุกอย่างอยู่ที่ใจ แป้งจะปลูกฝังเรื่องนี้กับ “น้องปราง” มีเงินพันล้านกับหมื่นล้าน ถ้าใช้ชีวิตได้ถูกต้องก็มีความสุขไม่แตกต่างกัน หรือบางคนมีเงินไม่กี่แสนกลับมีความสุขได้ล้นเหลือ เพราะใจที่พอเพียง เนื้อแท้ของความดีสำคัญที่สุด ถึงจะเกิดมาในตระกูลล่ำซำ แต่แป้งบอกลูกตลอดว่า เงินไม่สามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ แต่ความดีเป็นสิ่งที่พิสูจน์ทุกอย่าง คบคนอย่าเลือกยากดีมีจน “น้องปราง” อายุ 22 แล้ว เพิ่งเรียนจบปริญญาตรี จากภาควิชาจิตวิทยา อินเตอร์ จุฬาฯ แป้งบอกลูกว่าไม่ต้องเรียนปริญญาโทก็ได้ เพราะประสบการณ์สำคัญกว่า แป้งเลี้ยงลูกเหมือนเพื่อน ไม่เคยบังคับ จะให้แต่สิ่งที่คิดว่าดีที่สุด หลายครั้งต้องฟังสิ่งที่ลูกพูดด้วย เพราะความคิดของลูกทำให้เราอึ้ง ลูกเรียนรู้จากเรา และเราก็เรียนรู้จากลูก คุณแม่เลี้ยงแป้งมาแบบเข้มงวดมาก แต่พอเป็นคุณยายและต้องมาเลี้ยงหลาน กลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง บ้านแป้งจะเป็นเหมือนกันหมดคือ ทุกคนใช้ชีวิตสมถะ ไม่ติดแบรนด์เนม เวลาเดินทางบินอีโคโนมีตลอด เพิ่งจะได้บินเฟิสต์คลาสก็ตอนแต่งงานมีสามีแล้ว ถามว่าเรามีเงินไหม ก็พอมีและมีพอ แต่เป็นครอบครัวที่ค่อนข้างจะดำรงชีวิตอยู่บนเส้นทางที่ไม่ประมาท และมีความภาคภูมิใจในบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นคนจีนยุคเสื่อผืนหมอนใบที่เข้ามาทำมาค้าขายจนรุ่งเรืองในเมืองไทย แป้งซึมซับความละเอียดอ่อนมาจากคุณแม่ และพยายามถ่ายทอดสิ่งนี้ให้ “น้องปราง” คุณแม่เคยเป็นเวิร์กกิ้ง วูแมนที่เปรี้ยวมาก แต่เมื่อแต่งงานมีครอบครัวแล้ว ท่านก็เสียสละทุกอย่าง เพื่อทำหน้าที่แม่ พอเป็นคุณยายก็เลี้ยงหลานได้ดีมาก “น้องปราง” เป็นเด็กที่โตมาแบบพ่อแม่เลิกกัน ก็ยอมรับว่าลูกต้องปรับตัวเยอะเพื่ออยู่รอดให้ได้ แต่แป้งจะไม่สปอยลูก วันรับปริญญาของลูก แป้งบอกเขาว่า ลูกคือความภาคภูมิใจของพ่อแม่ และจากวันนี้ไปจงยืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเอง!! เพราะชีวิตข้างหน้าจะต้องเจออะไรอีกมากมาย “น้องปราง” กำลังลองผิดลองถูกหาแนวทางของตัวเอง ในฐานะแม่เราต้องให้กำลังใจลูก และย้ำตลอดว่าความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จจะอยู่ที่นั่น ทำอะไรต้องมีสติเสมอ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในชีวิต ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ชีวิตอาจหักมุมไปทางไหนก็ได้

นวลพรรณ ล่ำซำ
นวลพรรณ ล่ำซำ

“พญ.นลินี ไพบูลย์” คุณแม่โลกสวยของ “หมอกิ๊ฟ”
การมองโลกในแง่ดีเป็นเกราะป้องกันภัย

เป็นแม่ที่เป็นเพื่อนกับลูก พยายามจะเข้าใจว่าลูกคิดยังไง ด้วยความรักที่เรามีต่อเขา เชื่อว่าจะทำให้ลูกมีความสุข, เป็นที่รักและรักคนเป็น “น้องกิ๊ฟ” อยากเป็นหมอตั้งแต่เด็ก และเลือกเรียนมาทางผิวหนัง ซึ่งอันนี้ก็ไม่เคยบังคับลูกเลย จำได้ว่าหมอเริ่มทำกิฟฟารีน ตอนลูกอายุ 4 ขวบ ลูกจะนอนดึกเพื่อรอคุณแม่มาส่งเข้านอนทุกวัน สิ่งที่เป็นข้อดีที่สุดของลูกคนนี้คือ กิ๊ฟเป็นเด็กมองโลกในแง่ดี ไม่เคยอิจฉาริษยาใคร จะชื่นชมคนเก่งกว่าประสบความสำเร็จกว่าได้ด้วยใจจริง อันนี้เป็นเหมือนเกราะป้องกันภัยให้กิ๊ฟเป็นคนที่มีความสุข ไม่ต้องทะเยอทะยาน ไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกับใคร เมื่อมาเป็นหมอเต็มตัว น้องกิ๊ฟก็ทำให้แม่ภูมิใจ เพราะสามารถทำหน้าที่ได้ดี ลูกสาวชอบดูแลคนไข้ เป็นคนอดทนสูง เข้าใจคนอื่น และมีจิตใจเมตตากรุณา ถามว่าต่อไปลูกจะมาสืบทอดกิจการกิฟฟารีนไหม ตอนนี้คงปล่อยให้ลูกทำในสิ่งที่อยากทำไปก่อน หมอจะไม่บังคับลูก ชีวิตเป็นของลูก พ่อแม่ก็ไม่เคยบังคับเรา สำหรับกิฟฟารีนบริหารโดยมืออาชีพหมด ไม่ว่าลูกจะเข้ามารับช่วงหรือไม่ ธุรกิจก็ดำเนินไปได้ คิดว่าลูกได้เรื่องมองโลกในแง่ดีจากหมอเต็มๆ จะบอกลูกเสมอว่า ความสุขอยู่ที่ใจ ต้องคิดบวกและมองโลกในแง่ดี แต่ก็ระแวดระวัง ไม่ปล่อยให้คนอื่นมาเอาเปรียบได้ และต้องเท่าทันในทุกสิ่งที่เข้ามา หมอเชื่อว่าหน้าที่ของพ่อแม่คือให้ความรักความอบอุ่นเป็นภูมิคุ้มกันลูก เด็กสมัยนี้ฉลาดมากรู้จักดูแลตัวเอง สิ่งที่ต้องระวังคือการให้ทัศนคติที่ดีกับลูก หมอจะบอกลูกเสมอว่าความรักและบารมีเป็นสิ่งที่ใครสร้างให้ไม่ได้ อยากให้คนรักเรา ต้องเป็นคนอ่อนโยน และรักคนอื่นเป็น ถึงจะอยู่บนโลกนี้อย่างมีความสุข

พญ.นลินี ไพบูลย์
พญ.นลินี ไพบูลย์

“ภาณุมาศ จิราธิวัฒน์” แม่ผู้เสียสละของ “เฟน-ฟร้องซ์-เฟบ”
ความเป็นแม่อยู่กับเรา 24 ชั่วโมง

นกแต่งงานมา 20 ปีแล้ว มีลูกสามคน ตอนมีลูกสาวคนแรก “น้องเฟน” นกเลี้ยงลูกตามตำราเลย ตอนนั้นนกทำงานอยู่แกรนด์ไฮแอท เอราวัณ เป็นผู้จัดการฝ่ายขาย แผนกจัดเลี้ยง ยังคิดว่าพอคลอดแล้วได้ลาหยุด 3 เดือน น่าจะแฮปปี้มาก เพิ่งได้ค้นพบว่าการเป็นแม่ไม่มีวันหยุดอีกต่อไปแล้ว ต้องเป็นแม่ 24 ชั่วโมง!! แต่มีความสุขนะคะ รู้สึกว่าชีวิตเราเต็มดี นกพยายามปั้นลูกให้ดีที่สุด ถึงจะเป็นเวิร์กกิ้งมัมทำงานตลอด แต่นกจะให้ความสำคัญกับลูกเป็นอันดับแรกเสมอ ถ้าเป็นเรื่องลูกจะพุ่งไปก่อนเลย ยอมทิ้งงานที่ร้านภาณุมาศทุกอย่าง นกดีใจอย่างหนึ่งที่ลูกสาวคนโตชอบแฟชั่นเหมือนนก ลูกสอบได้เซนต์มาร์ติน ที่อังกฤษ ถ้าถามว่าเลี้ยงลูกสมัยนี้ยากไหม ก็ต้องบอกว่ายากมากค่ะ ตอนแรกนกก็เผลอจุกจิกกับลูก แต่พอตั้งสติได้รู้ว่าลูกกำลังวัยรุ่น เราก็ต้องปรับตัวเป็นคูลมัม ทำตัวเป็นเพื่อนกับลูกให้ได้ หลายอย่างอาจขัดใจเรา แต่ต้องพยายามเข้าใจลูกมากขึ้น คอยซัพพอร์ตสิ่งที่ลูกอยากทำ และให้คำแนะนำเมื่อลูกต้องการ ก็คอยบอกตลอดว่า แม่รักและเชื่อใจลูกนะ ทำอะไรให้รักตัวเองและรักแม่ด้วย เพราะแม่เป็นห่วง แม่บังคับหนูไม่ได้ ถึงหนูจะโกหก แต่แม่ก็ไม่รู้อยู่ดี ฉะนั้นลูกต้องเคารพตัวเองและเคารพแม่ ลูกมีโอกาสมากกว่าคนอื่น ลูกจะต้องใช้โอกาสสร้างสิ่งดีๆให้กับตัวเอง ยุคสมัยนี้จะแข็งใส่ลูกมากไม่ได้ ลูกยิ่งกระเด็นออก ต้องเปิดใจรับฟังลูกเยอะๆ.

ภาณุมาศ จิราธิวัฒน์
ภาณุมาศ จิราธิวัฒน์


ทีมข่าวหน้าสตรี