กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย และแบบประคับประคองผู้เป็นโรคที่รักษาไม่หาย แต่ต้องได้รับการดูแลจากทีมบุคลากรทางการแพทย์โดยต่อเนื่องจากโรงพยาบาล ถึงการดูแลรักษาจนวาระสุดท้ายของชีวิต ตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้ความสำคัญ
ดังนั้น ทุกโรงพยาบาลจึงต้องมีการปรับภูมิทัศน์และตกแต่งห้องผู้ป่วยระยะสุดท้าย เป็นบริการรักษาดูแลผู้ป่วยจากหลักฐานเชิงประจักษ์ โดยทีมวิชาชีพที่เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นการบรรเทาความทุกข์ทรมานทางกาย จิตใจ และจิตวิญญาณตามความเชื่อในแต่ละศาสนา จนวาระสุดท้าย
สำหรับที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า (ส่วนขยาย) อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ นพ.พนา พงศ์ชำนะภัย ผอ.ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย และจัดเตรียมห้องผู้ป่วย รวมถึงการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยในทุกมิติ

...
นับว่าโชคดีที่ น.ส.อาภาพรรณ แสงสีดา พยาบาลไทยที่ประเทศอังกฤษ เดินทางมาประเทศไทย ได้พบกับ นพ.พนา ผอ. และทราบว่ากำลังต้องการปรับปรุงจัดสร้างห้องผู้ป่วยบริบาลบรรเทา หรือห้องผู้ป่วยระยะสุดท้ายใหม่แทนที่ทรุดโทรม จึงริเริ่มเข้ามาช่วยเหลือ
ทางโรงพยาบาลได้จัดทำ โครงการพันธมิตรสร้างสังคมสุขภาวะ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ขึ้นเพื่อดำเนินการปรับปรุงจัดสร้างห้องผู้ป่วยใหม่นำร่องก่อน 2 ห้อง
น.ส.อาภาพรรณ ได้เชิญ นายดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชื่อดังของไทย มาเป็นประธานกิตติมศักดิ์โครงการฯ ให้คำแนะนำ และได้ นายวรพล อยู่สุข มาเป็นสถาปนิกโครงการและรับผิดชอบปรับปรุงสร้างห้องผู้ป่วยใหม่
ขณะเดียวกัน ผู้บริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทราบเรื่องและเห็นความสำคัญของการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย จึงบริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง จำนวน 2 ห้อง เป็นการนำร่อง ที่ตึกอุบัติเหตุฉุกเฉิน
ห้องผู้ป่วยบริบาลบรรเทา สร้างเสร็จและมีพิธีส่งมอบพร้อมเปิดใช้เป็นทางการเมื่อตอนสายวันที่ 16 พ.ค.2561 โดยมี ว่าที่ ร.อ.อานนท์ เชื้อเล็ก นายอำเภอหล่มเก่า พร้อมด้วย นพ.พนา ผอ.รพ. และ นายทำนุ แดงทองดี ประธานมูลนิธิของโรงพยาบาล รวมทั้งแพทย์และพยาบาลไปร่วมพิธีด้วยความดีใจ
ส่วนฝ่ายสนับสนุนการปรับปรุงจัดสร้างมาร่วมงานกันครบ โดยมี นายนคร วรินทรีย์ ผจก.และประธานเขตเพชรบูรณ์ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนผู้บริหารธนาคาร มาร่วมส่งพิธีส่งมอบ และนำชมห้องผู้ป่วย

นายนคร ผู้แทนผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางธนาคารยินดีที่ได้มอบห้องผู้ป่วยระยะสุดท้ายครั้งนี้ ตามนโยบายของธนาคารในการทำงานภาคสังคม เพื่อช่วยเหลือคนในชุมชนต่างๆ ที่ไปเปิดบริการ
นายดวงฤทธิ์ กล่าวว่า ตอนมาดูห้องครั้งแรก เห็นสภาพแล้วหดหู่ใจ เก่าและทัศนวิสัยไม่ดี ผู้ป่วยมาพักมีผลต่อสภาพจิตใจ จึงแนะนำให้เรื่องการออกแบบ ให้ผู้ป่วยเห็นภาพต้นไม้และวิวสวยงามผ่านหน้าต่าง เปลี่ยนเตียงนอนใหม่ และมีโซฟาทันสมัย ให้ญาติและคนมาเยี่ยมได้นั่งสบาย รวมทั้งสร้างห้องน้ำใหม่ที่ทันสมัย
“ผมเชื่อว่า ผู้ป่วยที่มาพักและรอวันสุดท้ายของชีวิต ได้มาพักในห้องที่สะดวกสบาย มีทัศนวิสัย และทิวทัศน์ผ่านหน้าต่างที่สวยงาม จะทำให้ผู้ป่วยมีความสุข มีจิตใจที่ดีขึ้น ทำให้เขามีความสุขก่อนจากไป” นายดวงฤทธิ์กล่าว
ด้าน พญ.ยุวธิดา ชาลี แพทย์ประจำครอบครัวและผู้ป่วยระยะสุดท้าย กล่าวอย่างดีใจว่า ผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่ดูแลอยู่ขณะนี้ มีทั้งผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรคปอด โรคถุงลมโป่งพอง โรคไต ปอดอักเสบ โรคหัวใจระยะสุดท้าย อยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน ถึง 1 ปี ได้รับความทุกข์ทรมาน บางคนหายใจไม่สะดวก ขับถ่ายไม่ได้ เวลามารักษาและนอนพัก มีความว้าเหว่ จะจากไปเมื่อไรไม่รู้ ส่วนใหญ่จะมีเวลา 2-4 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต
“แพทย์และพยาบาลจะดูแลกันให้ดีที่สุด เพื่อให้คนไข้จากไปอย่างสงบและมีศักดิ์ศรี คนที่มาร่วมสร้างห้องผู้ป่วยนี้นับว่าได้บุญกุศล ที่ช่วยให้คนไข้มีจิตวิญญาณที่ดี จากไปอย่างมีความสุขไปสู่ภพใหม่” พญ.ยุวธิดา กล่าว

ส่วน นพ.พนา ผอ.รพ. กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมามีผู้ป่วยระยะสุดท้ายมารักษาที่โรงพยาบาล 200 คน เป็นมะเร็ง 80% นอกเหนือจากโรคอื่นๆ และขณะนี้มีผู้ป่วยระยะสุดท้ายอยู่ 4 ราย ขอขอบคุณทุกคนทุกหน่วยงานที่ช่วยสนับสนุนให้มีห้องผู้ป่วยที่มีทัศนวิสัยที่ดี
นับเป็นส่วนหนึ่งของอีกภาคสังคม ที่ช่วยเหลือให้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายได้นอนพักอย่างสบาย และมีสภาพจิตใจที่ดี ก่อนจะลาลับโลกนี้ ไปอย่างสงบ และผู้มีจิตกุศลจะสนับสนุนบ้างติดต่อได้ที่โรงพยาบาล.
กำธร โจมจตุรงค์