สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ทรงเปิดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2565 ทรงยกย่อง “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ทรงเป็นทั้งแบบอย่างอันประเสริฐและแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ให้สตรีไทยตระหนักถึงศักยภาพของตน สามารถพัฒนาศักยภาพที่มีอยู่ นำไปใช้สร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ตนเอง แก่ครอบครัว แก่สังคม และแก่ประเทศชาติ พร้อมทรงเชิญชวนสตรีไทยและเยาวสตรีไทยทุกคน ตระหนักถึงคุณค่าของตนเอง และตั้งใจพยายามพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

เมื่อวันที่ 1 ส.ค.เวลา 16.07 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงเปิดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2565 “พระบารมีส่องหล้า ต่อยอดการพัฒนาสตรีไทย” ณ ทรู ไอคอน ฮอลล์ ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร

ทันทีที่เสด็จพระราชดำเนินถึง นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2565 นางพาสินี ลิ่มอติบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น พระราชทานพระราชวโรกาสให้นางสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ สมัยที่ 27 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตร และหนังสือวันสตรีไทย ประจำปี 2563-2564 และ 2565 นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2565 เฝ้าฯทูลเกล้าฯ ถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย และกราบบังคมทูลรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการจัดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2565 เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติสตรีไทยที่ประกอบคุณงามความดีทำประโยชน์แก่ชุมชนและสังคม ตลอดจนส่งเสริม สนับสนุนศักยภาพสตรีไทย ในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ รวมถึงการรวมพลังกลุ่มองค์กรสตรีทั่วประเทศ พร้อมใจกันทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล

ต่อจากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระราชวโรกาสให้ผู้ทำคุณประโยชน์ สตรีไทยดีเด่น ประจำปี 2563-2565 เฝ้าทูลละออง ธุลีพระบาท รับพระราชทานเข็มที่ระลึก และเกียรติบัตร เสร็จแล้ว ทรงจุดเทียนเปิดงาน “วันสตรีไทย ประจำปี 2565” และพระราชทานพระราชดำรัสแก่ผู้มาเข้าเฝ้าฯ ความตอนหนึ่งว่า

“...ตั้งแต่ข้าพเจ้าจำความได้ ก็ได้เห็นสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง มีพระราชอุตสาหะปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ เคียงข้างพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชน และพัฒนาประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ในบรรดาพระราชกรณียกิจนานัปการนี้ ยังมีงานที่ทรงรับเป็นพระราชภาระอย่างสำคัญ นั่นคือการส่งเสริมให้สตรีไทยในท้องถิ่นต่างๆ สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านเป็นอาชีพเสริม ควบคู่ไปกับอาชีพหลักคือเกษตรกรรม ทรงเชื่อมั่นว่าคนไทยทุกคนมีศิลปะอยู่ในสายเลือดและจิตวิญญาณของการเป็นช่างฝีมือ ขอเพียงแต่ให้ได้มีโอกาสฝึกฝน ก็จะแสดงความสามารถออกมาให้เห็นเด่นชัด...

พระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญมาตลอดระยะเวลาอันยาวนานนั้น ล้วนมีส่วนสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิต ฐานะความเป็นอยู่ ตลอดจนบทบาทและสถานภาพของสตรีไทยให้สูงขึ้น ทรงเป็นทั้งแบบอย่างอันประเสริฐ และแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ให้สตรีไทยตระหนักถึงศักยภาพของตนและสามารถพัฒนาศักยภาพที่มีอยู่ นำไปใช้สร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ตนเอง แก่ครอบครัว แก่สังคม และแก่ประเทศชาติได้

ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษานี้ ข้าพเจ้าจึงขอเชิญชวนให้สตรีไทยและเยาวสตรีไทยทุกคนตระหนักถึงคุณค่าของตนเอง และตั้งใจพยายามพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพราะเราทุกคนต่างก็มีศักยภาพที่จะเป็นพลังสร้าง สรรค์สังคมไทย และพัฒนาชาติบ้านเมืองได้ด้วย กันทั้งสิ้น และจะเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณได้อย่างดีที่สุด สมกับที่ทรงอุทิศพระองค์ดังพระราชสมัญญา “แม่ของแผ่นดิน” มาโดยตลอด และจะทรงเป็นแม่ในใจของคนไทยตราบชั่วนิรันดร์กาล”

หลังจากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินี เสด็จฯไปทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระ นางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นิทรรศการของสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ และกิจกรรมของหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมงาน อาทิ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ร้านโกลเด้น เพลซ และมูลนิธิสายใจไทยฯ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯกลับ