เชือดไก่ให้ลิงดู! "สมชัย" นำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อ สน.ทุ่งสองห้อง เอาผิดกองทุนจดทะเบียนใน จ.ขอนแก่น หลังโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก้าวร้าว อาจนำไปสู่การชี้นำรับ-ไม่รับร่าง

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 59 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดกับองค์กรที่เป็นกองทุนจดทะเบียนใน จ.ขอนแก่น กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำประชามติ ด้วยการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ก้าวร้าว รุนแรง เชื่อมโยงไปสู่การชี้นำว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งฐานความผิดตามมาตรา 61 วรรคสอง โทษสูงสุดคือจำคุก 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท และศาลอาจสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งอีก 10 ปีได้

โดยพยานหลักฐานที่นำมามอบต่อพนักงานสอบสวนในวันนี้ ที่ต้องทำเช่นนี้ไม่ได้หวังให้ใครติดคุก แต่ต้องการสร้างเป็นคดีตัวอย่างในสังคม ว่า การแสดงความเห็นว่า จะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญสามารถกระทำได้ แต่ต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลและเป็นสุภาพชน

นายสมชัย กล่าวต่อว่า ในฐานะ กกต.เห็นข้อความดังกล่าว จึงเดินทางเข้ามาแจ้งความดำเนินคดี สำหรับการเชื่อมโยงกลุ่มดังกล่าว ไปยังตัวบุคคลไม่ยาก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เป็นทางการ และมีตัวบุคคลที่เป็นผู้จัดการของกลุ่มชัดเจน โดยได้นำเอกสารของกลุ่มดังกล่าว ที่โพสต์บนเฟซบุ๊ก มาเป็นหลักฐานต่อพนักงานสืบสวนสอบสวน ไม่ว่าข้อความที่โพสต์จะโพสต์โดยผู้บริหารของกลุ่มองค์กรเอง หรือ บุคคลภายใน แต่ผู้บริหารกลุ่มดังกล่าว ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย เนื่องจากเป็นการโพสต์แบบสาธารณะ แม้ว่าปัจจุบันได้มีการลบข้อความดังกล่าวแล้ว แต่กกต.ได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน

“ที่มาแจ้งความวันนี้ไม่ได้ต้องการให้ใครมาขึ้นโรงขึ้นศาล แต่ต้องการให้เป็นตัวอย่าง ในการใช้ถ้อยคำที่สร้างสรรค์ ไม่หยาบคาย การโพสต์ข้อความว่า จะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ต้องอยู่บนเหตุผลทางวิชาการ ไม่มีลักษณะถ้อยคำรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย และไม่โน้มน้าว ไม่ชักจูง ปลุกระดม ข่มขู่ผู้อื่น โดยหวังผลให้ออกเสียงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง หากประชาชนพบเห็นถ้อยคำที่มีลักษณะดังกล่าว สามารถนำหลักฐานมาแจ้งความดำเนินคดี ได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง ไม่จำเป็นต้องแจ้งต่อ กกต.” นายสมชัย กล่าว.

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายสมชัยเดินทางเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษอยู่นั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางมายังสน.ทุ่งสองห้องและได้เข้าพูดคุยกับนายสมชัย ด้วย

จากนั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้บังเอิญมาเจอกับ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ซึ่งท่านได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ กรณีที่มีการโพสต์ข้อความ จึงถือโอกาสกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ตามที่กล่าวหาว่า กระทำผิดตามมาตรา 61 วรรคสอง ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ถ้าหากการกระทำดังกล่าว เข้าฐานความผิดก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย อยากจะย้ำเตือนทุกคนว่า ช่วงนี้อยู่ระหว่างที่ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯมีผลใช้บังคับแล้ว ดังนั้น การแสดงความคิดเห็นใดก็ต้องอยู่ในกรอบของข้อกฎหมาย ส่วนตัวไม่กังวลว่า จะมีการฟ้องร้องกันมากขึ้น ทุกอย่างอยู่ที่ข้อเท็จจริง หากเจตนาบริสุทธิ์ ไม่มีอะไรแอบแผงก็คงไม่มีปัญหาใด โดยเชื่อว่า กฎหมายจะช่วยให้ทุกอย่างสงบเรียบร้อย ตนมีหน้าที่รักษากฎหมาย รักคนไทยทุกคน อยากให้ทุกคนเดินหน้าร่วมกันเพื่อทำให้บ้านเมืองสงบสุข เพื่อประเทศไทยจะได้น่าอยู่และน่าท่องเที่ยว และคนจะได้มาเที่ยวประเทศมากๆ เศรษฐกิจก็จะได้ดีด้วย