7 องค์กรอิสระลงนามภาคีเครือข่ายเสริมสร้างพลังคุณธรรมจริยธรรมของแผ่นดิน ห่วงวิกฤติคุณธรรมไทยกำลังร่อแร่ หวั่นบ้านเมืองแตกสลายจากนักกดขี่กฎหมาย...

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 ต.ค. มีรายงานว่า องค์กรอิสระ ประกอบด้วย สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สำนักงานสภาพัฒนาการเมือง สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ และสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ร่วมบันทึกข้อตกลงความร่วมมือภาคีเครือข่ายเสริมสร้างพลังคุณธรรมจริยธรรมของแผ่นดิน โดยมีนางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานภาคีเครือข่ายฯ คนแรก โดยภาคีจะมีการนัดประชุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้

นางผาณิต กล่าวว่า หวังว่าสังคมไทยจะเกิดความหวังในการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมของแผ่นดินให้เกิดผลในทางปฏิบัติ มุ่งขับเคลื่อนพลังอย่างเข้มแข็ง เสริมสร้างพลังคุณธรรมของแผ่นดิน ซึ่งองค์กรเครือข่ายฯจะกำหนดแนวทางที่เหมาะสม และมีการนำไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง ไม่ให้เป็นเพียงบันทึกข้อตกลงที่แต่ละองค์กรนำไปวางบนโต๊ะ แต่จะยกย่องปกป้องคุ้มครองคนดีและองค์กรที่ดีเพิ่มขึ้น ทำให้วิกฤติคุณธรรมจริยธรรมในสังคมไทยดีขึ้น แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกคนในสังคม ในการทำให้คนชั่วคนที่คิดไม่ดีกับประเทศหมดไปจากสังคมไทย

ด้านนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ กล่าวว่า ประชาธิปไตยที่ไม่มีคุณธรรมคือระบอบเผด็จการที่อยู่ในคราบของนักบุญ เวลานี้มีแต่นักกดขี่กฎหมาย ไม่มีนักกฎหมาย การออกกฎหมายในขณะนี้ถือเป็นลางร้ายของประเทศ คุณธรรมจริยธรรมร่อแร่เต็มที ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยไปไม่รอดและจะกลับไปอยู่ในเผด็จการ  การออกกฎหมายเพื่อคนใดคนหนึ่งเป็นสิ่งกังขาอยู่ในหัวใจของประชาชน อย่างนี้ถือเป็นการกระทำโดยสุจริตหรือไม่ บางคนบอกว่ามีเสียงใหญ่ในสภาจะทำอะไรก็ได้ ตรงนี้เป็นเรื่องที่ผิด เสียงใหญ่แต่ไม่สุจริตก็ใช้ไม่ได้ ในสหรัฐฯมีการออกหมายบางฉบับและศาลชี้ว่าออกกฎหมายโดยไม่ชอบก็ล้มเลิกไป แต่ประเทศไทยหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ชอบศาลอาจจะอยู่ไม่ได้

...

นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า สังคมไทยขณะนี้เข้าสู่วิกฤติที่เกิดจากสังคมที่มีคุณธรรมจริยธรรมบกพร่อง ค่อนข้างจะร้ายแรง ถ้าองค์กรที่ทำหน้าที่คุณธรรมจริยธรรมไม่ร่วมมือร่วมแรงในการแก้ไขปัญหา อาจจะไปไม่รอดและบ้านเมืองแตกสลายได้  ถ้าเราไม่สร้างจิตสำนึกปลุกคนไทยให้ต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชัน ปล่อยให้ทำอะไรตามใจชอบเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้คงจะไปไม่รอด วันนี้คนที่ถูกรังแกที่สุดคือ ข้าราชการพลเรือน ขอชื่นชมนายสีมา สีมานันท์ ที่มาร่วมเคลื่อนไหวด้วยกัน และเครือข่ายจะทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองเพื่อแก้ไขปัญหาให้ข้าราชการในโอกาสต่อไป ซึ่งในส่วนของ ป.ป.ช.มีกฎหมายคุ้มครองพยานอยู่

นายสีมา กล่าวว่า หน้าที่ภาคีเครือข่ายนอกจากส่งเสริมปกป้องคนดี จะมีการผลักดันกฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้ที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเอาผิดผู้ที่กระทำผิด หรือ วิสเซอร์ โบรว์เวอร์ ให้ไม่ต้องถูกกลั่นแกล้งหรือโยกย้ายข้าราชการ

นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ประธานสภาการพัฒนาการเมือง กล่าวว่า  ในส่วนของการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ต้องดูที่หลักการ ที่บอกว่าเราต้องเคารพเสียงข้างมาก แต่เราต้องฟังเสียงข้างน้อยดู ต้องดูหลักนิติรัฐ นิติธรรม ผลประโยชน์ของบ้านเมืองอันนี้เป็นหลักการสำคัญในการยึดถือในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทางเป็นประมุข ซึ่งกรอบนี้จะใช้ในการตัดสินใจของภาคีเครือข่ายและเรื่องนี้ภาคีคงจะมีการพูดคุยต่อไป เมื่อทุกอย่างมีความชัดเจนแล้ว ซึ่งภาคีคงจะมีการกำหนดท่าทีต่อไป