สถานการณ์การเมืองของประเทศวนกลับมาที่เดิมที่ตัวแสดงยังคงไม่ต่างไปจากเก่า มีเพียงตัวแสดงหน้าใหม่เข้ามาผสมผสานบ้าง

เงื่อนไขของปัญหาความขัดแย้งเปลี่ยนไปจากปัญหาภายในเป็นความขัดแย้งจากนอกประเทศกัมพูชาที่เท่ากัน

แต่ตัวแสดงหลักยังเป็นคนในตระกูลเก่า “ชินวัตร”

มากกว่าเดิมก็ตรงที่เป็น “พ่อกับลูก” จากที่เคยเป็น “พี่กับน้อง” ทว่าตัวแสดงหลักยังคงเป็น “ทักษิณ ชินวัตร”

อันบ่งบอกว่า “ระบอบทักษิณ” นั้นยังคงหลอกหลอนคนไทยไม่ได้หนีไปไหน

สถานการณ์วันนี้ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ลดความตึงเครียดลงไประดับหนึ่ง เพราะไม่มีเงื่อนไขอย่าง “คลิปฉาว”

ก็ต้องใช้วิธีการยั่วยุชิงไหวชิงพริบเพื่อให้อีกฝ่ายแก้เกมอย่างเรื่องการปิดด่าน การห้ามนำเข้าสินค้า การห้ามเดินทางข้ามประเทศ

คงไปอีกระยะหนึ่งน่าจะจบลงได้!

แต่ที่กำลังเริ่มก็คือ การแก้ไขปัญหาภายในประเทศเพราะหลังจากตั้งตัวยืนระยะได้ก็ต้องปรับขบวนสร้างความมั่นคงให้กับรัฐบาล

เป็นรอยต่อจากการที่ “ภูมิใจไทย” ถอนตัวออกจากรัฐบาล

นั่นคือ การปรับ ครม.เสริมใยเหล็กจับพรรคร่วมรัฐบาลให้มั่น จับทหารให้อยู่ในแถวด้วยการตั้งรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่

ที่เป็น “ทหาร” เพื่อเป็นการเอาใจไม่ให้มีช่องว่าง

เพราะหลังจากที่ให้ “พลเรือน” มาระยะหนึ่งค่อนข้างจะมีปัญหาในการประสานงานและวางแผนในกรณีขัดแย้งกับกัมพูชาที่ไม่ค่อยจะทันเกม

ที่สำคัญคือ “ทหาร” ได้คะแนนนิยมจากประชาชนไปเต็มๆ

การปรับ ครม.เพื่อเสริมใยเหล็กรัฐบาลนั้นเนื่องจากการถอนตัวของ “ภูมิใจไทย” เท่ากับมีตำแหน่งว่างมาก การจัดสรรปันส่วนจึงไม่น่าจะมีปัญหา

...

แจกจ่ายให้แต่ละพรรคจึงทำได้ง่ายขึ้น เพียงแต่คำนึงถึงความพึงพอใจและสอดรับกับการสร้างผลงาน

เพื่อให้ “เพื่อไทย” ฟื้นจากอาการเมาหมัดให้ได้!

ว่ากันถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่มีการเรียกร้องให้ถอนตัวนั้น ร้องให้คอแตกก็ไม่มีพรรคไหนยอมออก เพียงแต่จะอยู่ต่ออย่างไรให้ได้ทั้ง “เงิน” และ “กล่อง”

บางพรรครู้ว่ามีความสำคัญแต่มีฝ่ามือหนุนไม่มากนัก ก็ต้องเล่นบทต่อรองน้อยหน่อยคือได้เท่าเดิม หรือขยับหน่อย ขอเพิ่มอีกหน่อย

บางพรรคก็รู้แน่ว่าต้องได้เพิ่มก็ไม่ต่อรองมากนัก แต่ขอกระทรวงที่เหมาะๆหน่อย แม้จะเกิดปัญหาในพรรคก็ถือเป็นเรื่องปกติเพราะคิดว่าแนวทางนี้ดีกว่า

บางพรรคมาหลายชั้นหน่อยเพราะมีเสียงมากหากขาดไปรัฐบาลก็ไปไม่รอด แถมยังมีปัญหาขัดแย้งภายในทำให้เสียแต้มต่อเพราะฝ่ายที่ขัดแย้งนั้น

เป็นพวกเดียวกัน พรรคแกนนำก็เลยต้องเล่นหมากหลายชั้น

พูดง่ายๆว่าต้องการได้ทุกอย่าง ได้ทั้งตำแหน่งที่แน่นอน ได้ภาพดี มีตำแหน่งอื่นๆเพิ่มขึ้นมาอีกก็เลยต้องวางหมากหลายชั้น

สุดท้ายก็สมใจทั้งฝ่ายให้และฝ่ายรับ!

แต่คนดูพากันถ่มถุยใส่เพราะทนเห็นความทุเรศไม่ได้ ด้านหนึ่งก็แสดงตัวมีภาพดี มีอุดมการณ์รักชาติบ้านเมือง

ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีผลงานอะไรดีเด่น เพราะไม่ได้ทำจริงให้ปรากฏ

เป็นพวก “เทพ” ในร่าง “มาร”

ก็ต้องจำหน้ากันไว้ให้ดี...เพราะเวลาพิสูจน์ “คน” ให้ปรากฏ!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม