ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจ และภาวะการคลัง และงบประมาณของประเทศ ในที่สุดคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติทบทวน ชะลอโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาทในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 และ 4 ออกไป ตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้า
โดย น.ส.แพทองธาร ระบุว่า สาเหตุเพราะคณะกรรมการฯได้ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวมปัจจุบัน ทั้งเศรษฐกิจโลกผันผวน เนื่องจากสงครามการค้า อัตราภาษีประเทศมหาอำนาจกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย มีปัญหาการจัดเก็บรายได้ จึงจำเป็นต้องทบทวนแผนงานโครงการให้สอดคล้องสถานการณ์
ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง ระบุว่า เนื่องจากข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมทั้งจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อยากให้ทบทวนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อนำงบประมาณไปแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจด้านต่างๆ
ดังนั้นต้องชะลอโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไปก่อน จนกว่าสถานการณ์เหมาะสม วันนี้เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน จึงจำเป็นต้องปรับแผนการใช้เงิน อยากให้เกิดการจ้างงานก่อน ไม่เรียกว่าซื้อเวลา เพราะถ้าหากสถานการณ์ดีขึ้นก็หยิบมาพิจารณาใหม่ได้ เพราะโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง
ทั้งนี้ นายพิชัยระบุด้วยว่า นอกจาก นี้บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจยังได้พิจารณาปรับการนำงบประมาณไปใช้ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ 6 ด้าน คือ โครงการแก้ปัญหาเชิงโครงการเรื่องน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตร ภาคคมนาคมขนส่ง รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ถนน และโครงการเกี่ยวกับภาคการท่องเที่ยวและบริการ
โครงการการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้เอสเอ็มอี โครงการสนับสนุนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โครงการที่จะสามารถสร้างงาน เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และโครงการที่เกี่ยวข้องกับเยาวชน โดยเฉพาะการพัฒนาการศึกษา โดยหลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเสนอแผนการลงทุนโครงการให้บอร์ดพิจารณา
...
แน่นอน แม้การชะลอโครงการเรือธงรัฐบาลจะกระทบความเชื่อมั่น แต่จากข้อมูลความจำเป็น เชื่อว่าประชาชนเข้าใจได้ เพียงแต่ว่าหลังจากนี้ แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 ด้าน ใช้งบประมาณกว่า 1.57 แสนล้านบาท ที่จะเดินหน้า ก็ต้องกลั่นกรองควบคุมเข้มงวด ใช้งบฯอย่างคุ้มค่า ไม่ให้ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ซ้ำเติมเศรษฐกิจกันอีก.
คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม