รัฐมนตรี ณ ปัจจุบัน สังคมไม่เชื่อมั่นปั่นเศรษฐกิจฟื้นได้ เป็นมุมมองทางวิทยาศาสตร์ผ่านการทำโพลในหัวข้อต่างๆ สะท้อนให้เห็นอารมณ์ของสังคมที่ ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นสถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (นิด้าโพล) ชี้ให้ “รัฐบาลอิ๊งค์” ได้เห็น
ประชาชนอยากเห็นรัฐมนตรีใหม่ๆเข้ามาสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมว่าสามารถทำได้ ทั้งในส่วนของกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง เชื่อมั่นว่าตอนนี้สังคมกำลังจับตามองรัฐบาลจะทำอย่างไร โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยจะปรับ ครม.อย่างไร
เพื่อสร้างความมั่นใจเศรษฐกิจเดินหน้าแน่นอน
โดยเฉพาะผลสำรวจโพลภายใต้หัวข้อ “ปรับ ครม.วันไหนดี” บ่งบอกให้เห็นอะไรได้หลายอย่าง และรัฐบาลรู้ดีว่าเศรษฐกิจไม่ดี แต่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง คงไม่ออกมาพูดว่า ทุกวันนี้เศรษฐกิจแย่ พรุ่งนี้ประชาชนยิ่งแย่ เสียความเชื่อมั่นตาย
เหมือนแพทย์ตรวจร่างกายคนไข้ ไม่พูดหรอกว่าคนไข้อาจเสียชีวิตภายใน 7 วัน 8 วัน อาจมีโรคแทรกซ้อนอาจเสียชีวิตภายใน 3 วัน แบบนี้แพทย์ไม่พูดกับคนไข้ ต้องคอยปลอบประโลมไปเรื่อยๆ
ฉะนั้น พรรคเพื่อไทยที่มีแบรนด์ด้านกอบกู้เศรษฐกิจ สัมผัสได้ถึงปัญหาเศรษฐกิจมันส่งผลต่อคะแนนเสียงในอนาคต โดยเฉพาะตั้งแต่รัฐบาลเพื่อไทยเข้ามา สภาพเศรษฐกิจนิ่งอยู่กับที่ มีแนวโน้มแย่ลง ซ้ำยังเจอผลกระทบจากกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกาอีก
สอดรับกับผลโพลล่าสุดที่ไล่ถามทีละกระทรวงว่าควรปรับเปลี่ยนหรือไม่ควรปรับเปลี่ยน ประเด็นคือ กระทรวงที่เกี่ยวพันกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเยอะๆ
เช่น กระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับเกษตรกร ไปถึงปากท้องของชาวบ้าน ราคาสินค้าแพง แต่เงินในกระเป๋าของประชาชนวิ่งตามไม่ทันราคาสินค้า เศรษฐกิจดีหรือไม่ดูไม่ยาก ขอให้รัฐมนตรีเดินตลาดสักวัน เดี๋ยวก็รู้
...
ทำให้กระทรวงพาณิชย์มาอันดับหนึ่งที่ “ควรปรับเปลี่ยน” ตามด้วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยอยากได้สามกระทรวงเศรษฐกิจอยู่ในมือทั้งหมด เพื่อใช้ตรงนี้เป็นฐานเสียงในอนาคตผ่านการผลักนโยบายต่างๆลงพื้นที่
โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยกับพรรคกล้าธรรม มีความสนิทชิดเชื้อ คาดว่าสามารถเปิดเจรจาแบบตรงๆได้ ขอแลกกระทรวงเกษตรฯกับกระทรวงสาธารณสุข ให้ “อาจารย์แหม่ม” นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ ไปเป็น รมว.สาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข อยากดูแลผลักดันเรื่องวัวอยู่แล้ว มาเป็น รมว.เกษตรฯ
สถานการณ์การเมืองขณะนี้ และผลสำรวจนิด้าโพลต้องการให้ปรับ ครม.ใหญ่ เพื่อเรียกศรัทธาความเชื่อมั่นกลับมา ผศ.ดร.สุวิชา บอกว่า ในอดีตรัฐบาลเพื่อไทยมีอำนาจเบ็ดเสร็จ เป็นพรรคการเมืองที่มีคะแนนเสียงเกินครึ่งหนึ่ง
แต่ครั้งนี้เป็นรัฐบาลผสม ต้องแบ่งปันอำนาจ แชร์เก้าอี้รัฐมนตรี เพื่อให้เกิดความสมดุลสมน้ำสมเนื้อของแต่ละพรรค การปรับ ครม.มันไม่สามารถวางตุ๊กตาดั่งใจที่เพื่อไทย หรือหัวหน้าพรรค หรือแกนนำพรรค และผู้อยู่เบื้องหลังของพรรคคาดหวังได้
ฉะนั้นปรับ ครม.มันต้องเกิดขึ้นแน่นอน
เพื่อกระชับการทำงานของรัฐบาลเพื่อไทย
“ปรับ ครม.รอบแรกเยอะหน่อยในกลุ่มของพรรคในโควตาของเพื่อไทย อาจแลกโควตาข้ามกระทรวงกับพรรคกล้าธรรม
ให้ดูเข้าที่เข้าทาง พุทเดอะไรท์แมน อินเดอะไรท์จ๊อบ สร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณะให้ได้ในช่วงเวลาที่เหลือของรัฐบาล
ส่วนในพรรคร่วมรัฐบาลอื่นคงแค่ถามว่าแต่ละพรรคขยับอะไรบ้างหรือไม่ โดยปกติทั่วไปการปรับ ครม.มันก็ต้องมีการต่อรอง แต่ครั้งนี้เชื่อมั่นไม่มีการต่อรอง”
ปรับ ครม.เศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นเหมือนเปลี่ยนม้ากลางศึกระหว่างที่ทีมไทยแลนด์กำลังเตรียมเจรจากับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับกำแพงภาษี ผศ.ดร.สุวิชา บอกว่า ไม่มีผลเท่าไหร่ เพราะคนขี่ม้ายังไม่ได้เตรียมอะไร แม้หัวข้อที่เสนอมาก็ดูดี แต่ยังเป็นนามธรรมมากเกินไป
ดูสถานการณ์ภาพรวมแล้วคงไม่มีการคุยแค่รอบเดียวรอบแรกเป็นแนวเจรจากว้างๆ ไม่ได้อะไรกลับมา คงมีการคุยหลายรอบ และต้องเกาะติดดูสถานการณ์โลกว่าสุดท้ายสหรัฐฯยังเดินหน้าต่อนโยบายนี้หรือไม่
เพราะนักวิเคราะห์หลายคนมีมุมมองตรงกันว่า ทรัมป์ 2 จะใช้แนวเดิมเหมือนทรัมป์ 1 ขู่ให้กลัวก่อน ไม่กลัวก็เขยิบให้เห็น เริ่มหวั่นไหวก็ต้องเข้ามาเจรจา หลังจากนั้นดูความหวั่นไหวของคู่แข่ง ถ้าผลสุดท้ายมันสร้างแรงสั่นสะเทือนกลับไปที่สหรัฐฯ ทรัมป์จะถอยหมด
นายกฯควรรีบปรับ ครม. เพื่อเตรียมทีมเจรจากับสหรัฐฯ โดยไม่ต้องรอผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่เข้าสู่ที่ประชุมสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 28 พ.ค.68 เพื่อเรียกความเชื่อมั่นฟื้นศรัทธาจากสังคม ผศ.ดร.สุวิชา บอกว่า ไม่ต้องผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯในวาระที่ 1
ต้นเดือนพฤษภาคมนี้ต้องรีบปรับ ครม.
ก่อนหน้านั้นผมคิดว่าประมาณปลายเดือน พ.ค.หรือต้นเดือน มิ.ย.68 แต่ตอนนี้มีโอกาสปรับ ครม.เร็วๆนี้ เพราะนายกฯส่งสัญญาณแล้วว่า “ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง” หมายความว่าตื่นเช้ามาอย่าตกใจอาจไม่มีชื่อของตัวอยู่ใน ครม.
ฉะนั้นถ้ารีบปรับ ครม.จะสามารถเรียกศรัทธากลับมาได้หรือไม่ ต้องรอดู เพราะคนไทยชอบให้โอกาสคนที่เข้ามาใหม่ ในช่วง “ฮันนีมูนพีเรียด” อย่างน้อย 3 เดือน ดูสิน้ำผึ้งมันหวานหรือไม่ ถ้าไม่หวานค่อยว่ากันอีกที
ผมกำลังคิดว่ากระทรวงการคลังได้กระแสข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยากเปลี่ยนตัว รมว.คลัง แต่นายกฯอิ๊งค์ไม่อยากเปลี่ยน โดยคนที่เหมาะนั่ง รมว.คลังอีกคน คืออาจารย์ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษาด้านนโยบายนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาของคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐฯ
เชื่อมั่นนายกฯปรับ ครม.ประชาชนแฮปปี้
โดยเฉพาะในช่วงนี้นายกฯเริ่มเอาท์ออฟคอลโทรลแล้ว แค่มีข่าวขัดกับพ่อปมปรับ ครม. แสดงภาวะผู้นำให้เห็นแล้ว พร้อมไม่ฟังพ่อ พร้อมดำเนินการด้วยตัวเอง เหมือนในชื่อหนังเรื่องเอาท์ออฟคอนโทรล
ตามท้องเรื่องเกี่ยวกับลูกสาวในบ้าน พอเริ่มโตเป็นสาวก็เริ่มเอาท์ออฟคอนโทรล ไม่อยู่ในความเชื่อฟังของพ่อแม่ หลังจากที่ตัวเองเริ่มเห็นอะไรหลายอย่าง เริ่มพร้อมดำเนินการด้วยตัวเอง
สังเกตทุกครอบครัว ลูกหลานเจ้าของธุรกิจ พอถึงจุดหนึ่งไม่อยู่ในความควบคุมของพ่อแม่หรอก เริ่มแตกไลน์ธุรกิจ ทำอะไรบางอย่างที่เป็นของตัวเอง เริ่มตัดสินใจบริหารธุรกิจในรูปแบบที่คิดว่าใช่ แรกๆพ่ออาจสะอึกนิดหน่อย
พรรครัฐบาลอื่นก็อยู่กันไปก่อน ไม่ต้องแลกกระทรวงทำให้รัฐบาลสั่นคลอน ถ้ารัฐบาลเพื่อไทยมั่นใจในการเลือกตั้ง ถึงปรับ ครม.อีกครั้ง ปรับ ครม.ครั้งที่ 2 เชื่อว่าเกิดขึ้นประมาณปลายปี 69 หลังใช้งบประมาณไปสักระยะหนึ่ง เพื่อกระชับอำนาจเตรียมเข้าสู่โหมดเลือกตั้งในปี 69
เพื่อไทยไม่รอถึงปี 70 แน่ การรอถึงปี 70 คือรอให้ฝ่ายตรงข้ามหรือคู่แข่งอย่างพรรคประชาชนสามารถตั้งตัวทัน เตรียมต่อสู้ได้ในจังหวะนั้นมีทั้งคดี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ผลชี้ขาดออกมาย่อมกระทบต่อพรรคประชาชน และสมการคณิตศาสตร์ทางการเมืองมันแปรเปลี่ยน
เมื่อจังหวะพร้อมแล้วก็บอกกับพรรคภูมิใจไทย ขอกระทรวงมหาดไทยคืน แม้เจรจาต่อรองให้เอากระทรวงคมนาคมมาแลก สุดท้ายเพื่อไทยเดินตามกลยุทธ์ “แกล้งทำร้ายตัวเอง” ทำให้เสียงในสภาสั่นคลอน
โดยบีบให้พรรคภูมิใจไทยออกไป แต่ในใจต้องการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ภายใต้คะแนนนิยมทางการเมืองไม่ลดลง คู่แข่งอย่างพรรคประชาชนอยู่ในจังหวะเพลี่ยงพล้ำ ควบคุมกลไกอำนาจรัฐเบ็ดเสร็จ หวังเอาชนะพรรคประชาชนให้ได้ เพื่อกลับมาด้วยคะแนนที่สูงกว่าเดิม แม้ไม่ถึง 250 เสียง
แบบนี้เพื่อไทยชิงจังหวะยุบสภาเลือกตั้งใหม่ทันที
ดูไทม์ไลน์การเมืองคงเกิดขึ้นก่อนสงกรานต์ปี 69.
ทีมการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม