สูตรสำเร็จการเมืองแบบไทยๆ ลำพังฝ่ายค้านจี๊ดจ๊าดยังไงก็ไม่มีพลังโค่นรัฐบาลได้ เว้นแต่ฝ่ายบริหารจะขัดขากันเองล้มหัวคะมำ สะดุดอำนาจและผลประโยชน์ "วงแตก" พังพาบ ณ คาบนี้ เป้าโฟกัสสังคมจึงจับจ้องอยู่ที่คิวฟัดกันเองระหว่าง “เพื่อไทย vs ภูมิใจไทย” ที่คนดูทางบ้านมองด้วยตาเปล่ายังเห็นรอยร้าว “ขัดลำ” กันจริง
เล่นกันถึงพริกถึงขิง ดุเดือด สวนหมัดกันเลือดกบปาก
แต่ตามผลนิด้าโพล ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังไม่เคลิ้มฉาก “เพื่อไทยการละคร-ซีรีส์เซราะกราว” ซะทั้งหมด เพราะชินกับบทน้ำเน่าไม่ค่อยจริงจัง
เบื้องหลังเหลี่ยมปะทะเกรียน ต้องต่อรอง “แลกของ” กันอีกหลายยก
ในจังหวะศึกในรัฐบาลผสมสูตรพิสดาร เกมล่อเป้ากันเองในขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม ตีคู่ขนานกับศึกนอก สารท้ารบจากกองทัพฝ่ายเสรีนิยม นำโดย “กุมารเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาชน
โหมโรงคิวอภิปรายไม่ไว้วางใจ “ล่อเป้า” รัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
หนังบู๊โปรแกรมชนกัน “ศึกนอก” ประชัน “ศึกใน” โดยเงื่อนไขสถานการณ์ที่คนดูทางบ้านได้ลุ้นช็อตมันๆ ตามสัญญาณที่เริ่มมีการปล่อยซิกเขย่าขวัญ “ไส้ศึก” รัฐบาลปล่อยข้อมูลโกงยัดใส่มือทีมเชือดฝ่ายค้าน ยืมมือถล่มรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลคู่อริ
ไปจนถึงหมากกล “ซ่อนแต้ม” วัดคะแนนไว้วางใจ-ไม่ไว้วางใจ ประจานรัฐมนตรี “กินบ๊วย”
“ลูกติดพัน” จากอารมณ์ด่าลั่น “หน้าตัวเมีย” อาการห้าวเป้งแบบ “เกรียนเซราะกราว” ฟาดใส่ “แก๊งกล้าทำ” ท้ารบขบวนการ “ประแป้งหน้าขาววอก”
“เนวิน-ผู้กองนัส” พะยี่ห้อขาบู๊ มวยถูกคู่
...
“ต่อมหมั่นไส้” อักเสบ ได้เห็น “สงครามสั่งสอน” แน่ แต่นั่นมันก็แค่ “ผลพลอยได้” เท่านั้น คิวผสมโรงของพรรคร่วมรัฐบาลฉวยโอกาส “เจาะยาง” กันเองเป็นแค่ “ผงชูรส” ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ไฮไลต์ทีเด็ดหลักๆก็ยังอยู่ที่ลีลาลำหักลำโค่นของฝ่ายค้าน
โดยเฉพาะ “มาตรฐานระดับสูง” ที่ทีมสีส้มโชว์เกมการตรวจสอบเชิงการเมืองใหม่ให้เห็นมาตั้งแต่ยี่ห้อ “ก้าวไกล” มาถึง “อนาคตใหม่” ไม่ทำให้คนดูทางบ้านผิดหวัง
มาถึงแบรนด์ “ประชาชน” ก็แค่ชื่อที่เปลี่ยนไป แต่มือสังหารยังหน้าเดิมล้วนๆ
เปลี่ยนผู้นำเบิกร่องญัตติเชือดเป็น “กุมารเท้ง” ที่มีโจทย์ “บทพิสูจน์แม่ทัพแถวสาม” ค้ำคอก็คงโชว์วิทยายุทธ์ไล่หวดทุจริตเพลงมวยถนัด สมฉายา “ไอ้เท้งเอาตายแน่”
โดยมีแม่ทัพเศรษฐกิจหญิงอย่าง “ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ คุมเกมประกบ “ขุนคลังลายคราม” อย่างนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กาง “ตัวเลข” เวิลด์แบงก์ ไอเอ็มไอ ทีดีอาร์ไอ ที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจเมืองไทย ด้วยสถิติเถียงลำบาก
ประกาศผลคะแนน รัฐบาลเพื่อไทย “สอบตก”
ตามรูปเกมที่ฝ่ายค้าน ทำแต้มนำตั้งแต่ระฆังยังเริ่มยกแรก ไม่ทันถึงเวลาเปิดเวทีเชือดในสภาอย่างเป็นทางการ พรรคประชาชนก็ “ตุนแต้ม” นอกสภาไปแล้วเป็นกระบุง
สปอตไลต์มุ่งไปที่ “รังสิมันต์ โรม” สส.บัญชีรายชื่อ ที่ขึ้นป้าย “Hall of fame” ในฐานะเบอร์หลักที่ปักหมุดจุดเริ่มต้นยุทธการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน แม้แต่ตัวพ่อในฝ่ายต้านกองทัพส้มอย่าง “ท่านใหม่” ม.จ.จุลเจิม ยุคล ยังอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชื่นชม
ยกให้ “โรม ตัวจี๊ด” เป็น “ฮีโร่ปราบจีนเทา”
สปอตไลต์อีกดวงก็ฉายส่องไป “ไอซ์” รักชนก ศรีนอก สส.กทม.กองทัพส้ม ที่เปิดปฏิบัติการแฉขบวนการ “ผลาญกองทุนประกันสังคม” เล่นเอาต้องล้มแผนดูงานต่างประเทศกันจ้าละหวั่น
“แก๊งสูบเลือดผู้ใช้แรงงาน” ต้องถอยกรูดไม่เป็นขบวน.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม