แก้รัฐธรรมนูญส่อฝันค้าง วงประชุมรัฐสภาล่มไม่เป็นท่า สส.รัฐบาล-สว.สีน้ำเงินเดินเกมป่วนวอล์กเอาต์ 120 สส.เพื่อไทยเอากับเขาด้วย ไม่ยอมนับองค์ประชุม แห่หนุนญัตติ “หมอเปรม” ส่งศาล รธน.ตีความ “เท้ง” ผู้นำฝ่ายค้านจวกพรรคร่วมฯ เล่นเกมยื้อ จี้นายกฯ-พท.แสดงความจริงใจ เชื่อมีขบวนการขัดขวางร่าง รธน.ฉบับใหม่ “ชูศักดิ์” รีบโต้ไม่เจตนาเตะถ่วง แค่วิเคราะห์แล้วฝ่าด่านอรหันต์ยากเลยต้องตั้งลำใหม่ “สุทิน” ชี้เป้า ภท.-สว.สีน้ำเงินตัวขวางลำ ภาคประชาชนขว้างกล้วยหลังถูกหักหลัง ไอลอว์ฉะภูมิใจไทยตระบัดสัตย์ “อิ๊งค์” ชิวๆองค์ประชุมล่ม ชี้สองสภาเห็นต่างได้ ไม่ทำ “หน้าอย่างหลังอย่าง” สส.พปชร.ส่อไหลซบ “กล้าธรรม” เพิ่มหมายจับ “ปูอัด” ถึงเลขาสภาฯ เลขาฯไทยก้าวหน้าลั่นอับอายขอไขก๊อก
การประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เพื่อตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ล่มไม่เป็นท่า สส.พรรคร่วมรัฐบาล-สว. เดินเกมป่วน สส.พรรคเพื่อไทย 120 คนเอากับเขาด้วยไม่ยอมนับองค์ประชุม
ถกแก้รัฐธรรมนูญป่วนตั้งแต่หัววัน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 ก.พ. ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 บรรยากาศดุเดือดตั้งแต่เริ่มการพิจารณา เมื่อนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวในนามพรรค ภท.ว่า วาระที่กำลังจะพิจารณาเข้าข่ายขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ภท.จึงขออนุญาตไม่ร่วมพิจารณา จากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์แจ้งว่า มีญัตติด่วนของ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ที่ขอให้รัฐสภาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา ที่ประชุมเห็นด้วยหรือไม่ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) แย้งว่า การเข้าชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ต้องยื่นเป็นญัตติด่วน และต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนวันประชุม 1 วัน จึงขอให้พักการประชุม 15 นาที ให้วิปแต่ละฝ่ายไปหารือกัน นายวันมูหะมัดนอร์จึงสั่งพักการประชุม
...
สว.เดินเกมชงญัตติส่งศาล รธน.
ต่อมาเวลา 10.15 น. หลังพักการประชุม ประธานรัฐสภาแจ้งว่า อาศัยอำนาจตามข้อบังคับการประชุมที่ 32 (1) และ (5) รับเรื่อง นพ.เปรมศักดิ์และคณะ ที่ยื่นญัตติด่วนเข้ามาเมื่อเช้า คือไม่ต้องเสนอส่งเป็นหนังสือก่อน 1 วันได้ถ้าเป็นเรื่องด่วน และ (5) ให้อำนาจประธานฯอนุญาตให้บรรจุได้ ที่ประชุมต้องพิจารณาและลงมติ ว่าจะเลื่อนญัตติด่วนขึ้นมาพิจารณาก่อนญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หรือไม่ หากเลื่อนและพิจารณาแล้ว ต้องลงมติว่าจะส่งหรือไม่ หากมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญต้องหยุดการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับออกไป จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
ทำ รธน.ใหม่ต้องทำประชามติก่อน
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ผู้เสนอญัตติด่วนชี้แจงว่า ญัตติดังกล่าวเสนอโดย สส. และ สว. รวม 60 คน เห็นว่าการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 ขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 4/2564 เกิดปัญหาว่ารัฐสภามีอำนาจพิจารณาและลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ หากรัฐสภาจะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติก่อนว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ หากประชามติเห็นชอบจึงจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เมื่อทำรัฐธรรมนูญใหม่เสร็จแล้วต้องทำประชามติอีกทีว่าจะเห็นชอบหรือไม่ จากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญต้องทำประชามติ 3 ครั้ง ขณะที่ผู้ยื่นเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมองว่าทำได้ จึงถือเป็นความขัดแย้งต่ออำนาจและหน้าที่ ขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย
ปชน.อัดถ้าหยองอย่ามาเป็นผู้แทน
จากนั้น สส. และ สว.หลายคนลุกขึ้นอภิปรายมีความเห็นแบ่งเป็น 2 ฝ่าย โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ประธานวิปฝ่ายค้าน อภิปรายว่าพรรค ปชน.ไม่เห็นด้วยกับการเสนอญัตติของ นพ.เปรมศักดิ์ เพราะการบรรจุวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของประธานรัฐสภา และสมาชิกรัฐสภายังมีหน้าที่โดยแท้ในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อยืนยันในอำนาจของสมาชิกรัฐสภา ไม่ใช่ยื่นเรื่องถามศาลรัฐธรรมนูญที่เชื่อว่าเป็นการขัดต่อการถ่วงดุลอำนาจ ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายตุลาการ หากสมาชิกรัฐสภาไม่กล้าทำหน้าที่ของตนเอง ไม่ต้องเสนอตัวมาเป็นตัวแทนประชาชน ขณะที่นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายสนับสนุนญัตติของ นพ.เปรมศักดิ์เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจะได้ไม่เสียของ ซ้ำรอยเหตุการณ์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญเหมือนเมื่อปี 2564 ขณะที่ฝั่ง สว.มีความเห็นแบ่งเป็น 2 ฝ่ายเช่นกัน ระหว่างฝั่ง สว.พันธุ์ใหม่นำโดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ที่เห็นว่าไม่จำเป็นต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความกับกลุ่ม สว.สีน้ำเงิน ที่สนับสนุนให้ยื่นตีความ
วอล์กเอาต์ป่วนล่มองค์ประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังปล่อยให้สมาชิกอภิปรายกันพอสมควร นายวันมูหะมัดนอร์ขอให้ที่ประชุมลงมติว่าจะเลื่อนญัตติ นพ.เปรมศักดิ์ขึ้นมาพิจารณาก่อนหรือไม่ ผลปรากฏว่าที่ประชุมไม่ให้ความเห็นชอบ ด้วยคะแนน 275 ต่อ 246 เสียง งดออกเสียง 4 นายวันมูหะมัดนอร์จึงแจ้งต่อที่ประชุมว่า ญัตติของ นพ.เปรมศักดิ์ยังอยู่ในวาระ และพิจารณาต่อจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่บรรยากาศเริ่มป่วนขึ้นมาอีกเมื่อนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงษ์ สว.กลุ่มสีน้ำเงิน แจ้งต่อที่ประชุมว่าขอออกจากที่ประชุม เพราะการพิจารณานั้นไม่ชอบ ทำให้ สว.กลุ่มสีนํ้าเงินพากันวอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุม ด้าน นพ.เปรมศักดิ์เสนอให้นับองค์ประชุมเพราะมีสมาชิกรัฐสภาวอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุมหลายคน ประธานรัฐสภาจึงให้มีการแสดงตนหลังการนับองค์ประชุมปรากฏว่ามีสมาชิกแสดงตนแค่ 204 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม ประธานรัฐสภาจึงสั่งนัดประชุมรัฐสภาอีกครั้งในวันที่ 14 ก.พ. เวลา 09.30 น. ก่อนสั่งปิดประชุมในเวลา 12.04 น.
พท.เอาด้วย 120 สส.ไม่แสดงตน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบผลการนับองค์ประชุม พบว่า สส.พรรคประชาชนแสดงตนเป็นองค์ประชุมเกือบทั้งหมด ยกเว้น 3 ราย คือ นางจุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม สส.เชียงราย นายนิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. ที่ไม่ปรากฏการแสดงตน ส่วนพรรคเพื่อไทยมีผู้แสดงตนเพียง 22 คน อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ นายสุทิน คลังแสง สส.มหาสารคาม อีก 120 คนไม่แสดงตน และมี 5 พรรคที่ไม่แสดงตนทั้งพรรค คือ พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคกล้าธรรม และพรรคชาติไทยพัฒนา ส่วนพรรคชาติพัฒนาแสดงตนคนเดียว คือ นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รวมถึงพรรค ปชป.มีแสดงตน ได้แก่ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ และนายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พัทลุง ส่วน สว.ที่มีจำนวน 199 คน มีแสดงตน 33 คน เป็นกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ เช่น นางอังคณา นีละไพจิตร น.ส.นันทนา นันทวโรภาส นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย ส่วนกลุ่ม สว.สีน้ำเงิน กลุ่ม สว.สีขาว ชักแถวไม่แสดงตน รวมถึงนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาด้วย
ปชน.จวกพรรคร่วม รบ.เล่นเกมยื้อ
ต่อมานายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน นำ สส.พรรค ปชน. แถลงหลังเหตุองค์ประชุมล่มว่า น่าละอายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คำวินิจฉัยและคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญชัดเจนว่ารัฐสภาสามารถเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ได้ทันที อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยในข้อสงสัยเรื่องการทำหน้าที่ของรัฐสภาที่เกิดผลขึ้นแล้ว และที่ประชุมลงมติไม่ให้เลื่อนญัตติของนพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ที่ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อน แต่กลับมีการเสนอนับองค์ประชุม และมีสมาชิกนั่งอยู่ในห้องมากกว่าผลที่ปรากฏบนหน้าจอ ข้อเท็จจริงนี้สะท้อนให้เห็นว่ามีเพื่อนสมาชิกโดยเฉพาะจากฝั่งรัฐบาลเองที่ไม่กดแสดงตนเป็นองค์ประชุม ทั้งที่นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย พูดในห้องประชุมว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมจะเป็นองค์ประชุม
จี้นายกฯ-พท.แสดงความจริงใจ
นายณัฐพงษ์กล่าวต่อว่า นายกฯต้องแสดงให้เห็นถึงการควบคุมเสียงของฝั่งรัฐบาลเอง เชื่อว่าถ้านายกฯเป็น สส.อยู่ในห้องประชุมคอยควบคุมเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล วันนี้เราจะสามารถเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ที่ฝ่ายค้านมาแถลงข่าวเพราะอยากให้ช่วยกันส่งเสียงเรียกร้องให้รัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยและนายกฯ ช่วยกำกับดูแลเสียงฝั่งรัฐบาลมาเข้าร่วมประชุมรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ อย่างน้อยๆ การเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ควรเปิดโอกาสให้มีการอภิปรายกันในสภาก่อน ไม่ควรเซ็นเซอร์อำนาจของตัวเอง ถึงขนาดไม่กล้าให้เพื่อนสมาชิกอภิปรายในสภา เมื่อถามถึงความจริงใจของพรรคเพื่อไทยในการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะมี สส.พท.หลายคนร่วมลงชื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายณัฐพงษ์ตอบว่า มีร่างของพรรคเพื่อไทยเสนอเข้ามาด้วย จึงงงว่าทำไมถึงไม่ยอมแสดงตนกัน หรือว่ายังตกลงกันไม่ได้ หรือมีรอยร้าวอะไรระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯต้องแสดงให้เห็นภาวะผู้นำ ควรแสดงให้เห็นว่าสามารถควบคุมเสียงรัฐบาลได้จริง
เชื่อมีขบวนการขัดขวาง รธน.ใหม่
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ไม่อยากให้มองว่าเป็นการเมืองของคนดีหรือคนร้าย พูดง่ายๆคือเราต้องการคนที่มีอำนาจใช้อำนาจของตัวเองเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ แต่ผลปรากฏว่าสิ่งที่เราเห็นคือการเสนอญัตติเพื่อเซ็นเซอร์ตัวเอง ดังนั้น ต้องถามว่าตกลงเราตกอยู่ในภาวะที่ผู้มีอำนาจตกอยู่ในอุตสาหกรรมที่รัฐขาดความรับผิดรับชอบ ไม่กล้าใช้อำนาจตัวเอง หรือไม่กล้ารับผิดชอบต่อการใช้อำนาจของตัวเอง สิ่งที่ประชาชนต้องการในตอนนี้ คือผู้มีอำนาจที่กล้าตัดสินใจใช้อำนาจตัวเอง และพร้อมที่จะรับผิดชอบ ส่วนท่าทีของ สว.บางส่วนในวันนี้ เกมในสภาที่เกิดขึ้น มีกระบวนการพยายามขัดขวางไม่ให้พวกเราเดินหน้าไปสู่การลงมติได้ เป็นสิ่งที่ประชาชนทุกคนไม่อยากเห็น
“ชูศักดิ์” ยันยึดนโยบายไม่เตะถ่วง
ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สส.บัญชีรายชื่อ นำ สส.พรรคเพื่อไทยแถลงว่า วิเคราะห์แนวโน้มการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มี 2 ร่าง คงไม่ผ่านมติของที่ประชุมรัฐสภา หรือเสียง สว.ที่จะเห็นชอบไม่ถึง 67 คน เราจึงสนับสนุนญัตติของ นพ.เปรมศักดิ์ คือทำให้ถูกต้องเดินหน้าต่อได้ เจตนาเราคือต้องการให้ญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนี้ยังคงอยู่ในรัฐสภา และคิดหาทางกันต่อไปว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประสบความสำเร็จ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีเจตนาเตะถ่วง มีเพียงเจตนาเต็มที่ที่จะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามเป็นนโยบายที่เราเสนอไว้
“สุทิน” ชี้เป้า ภท.–สว.น้ำเงินขวางลำ
นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถึงวันนี้ประชาชนมองออกว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ มีอยู่ 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือพรรคภูมิใจไทย และ สว.ส่วนหนึ่ง ที่ไม่ต้องการให้แก้ กลุ่มที่ 2 คืออยากแก้แสดงตัวว่าจะแก้ แต่มีข้อแม้ว่าแก้จริงหรือไม่ พยายามดันต่อไปทั้งที่รู้ว่าจะถูกตีตก พรรคเพื่อไทยเราเดินเกมเต็มที่ แต่เจออุปสรรค จึงต้องชะลอเพื่อหาทางสู้ใหม่ ประชาชนคงมองออกว่าใครคือกลุ่มที่จะแก้โดยหวังผล หรือกลุ่มที่สักแต่ว่าจะได้แก้ ทั้งที่รู้ว่าเดินต่อก็จะตก เดินไปทำไม กับเราที่รู้ว่าจะตก เราไม่เดินต่อ แต่ชะลอเพื่อตั้งหลักใหม่ พรรคเพื่อไทยมีเจตนารมณ์แก้รัฐธรรมนูญให้ได้ตามนโยบายที่ให้ไว้ เราพยายามประสานทุกฝ่ายทั้งเสียงพรรคร่วมรัฐบาล และเสียง สว. เราขอความร่วมมือเต็มที่แล้ว จึงสนับสนุนให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อน ร่างก็ยังอยู่
“อ้วน” ย้ำ พท.ไม่ใช้แท็กติกการเมือง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญได้คุยกันแล้วกับทุกพรรค แต่เรื่องนี้ไม่ใช่กฎหมายของคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ที่พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนเสนอ จึงเป็นเรื่องของสภาฯ หากพรรคภูมิใจไทยไม่เดินตามนี้ก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ แต่หากเป็นกฎหมายที่ ครม.ยื่น จะเป็นอีกอย่าง เมื่อถามว่ามี สส.พรรคเพื่อไทยไปเข้าชื่อร่วมเสนอญัตติของ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. นายภูมิธรรมตอบว่า เป็นเอกสิทธิ์ของ สส.ทุกคน เมื่อถามว่าเป็นเกมยืมมือ สว.ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า “อย่าไปคิดว่าเรามีทริก เราตรงไปตรงมา เพราะเป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยเสนอให้พรรคร่วมฯพิจารณา และแถลงต่อรัฐสภา เป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ และสังคมรับรู้
ภท.รีบปัดไม่ขวางแก้รัฐธรรมนูญ
น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี โฆษกพรรคภูมิไจไทย กล่าวว่า พรรคเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องขึ้นอยู่บนพื้นฐานความถูกต้องชอบธรรม ไม่สร้างปัญหาในอนาคต พรรคเห็นร่วมกันว่านี่คือการขัดคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญปี 2564 ดังนั้น สส.ทั้งพรรคจึงไม่ขอมีส่วนร่วมในครั้งนี้ ต้องทำประชามติ ถามความเห็นประชาชนทั้งประเทศก่อน เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะกระทบต่อการทำงานในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ น.ส.แนน บุณย์ธิดาตอบว่า เป็นการยื่นของ 2 พรรคการเมือง การทำงานในระดับพรรคร่วมรัฐบาลเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องนี้เป็นการทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ
ผู้ชุมนุมขว้างกล้วยหลังโดนหักหลัง
สำหรับบรรยากาศบริเวณหน้ารัฐสภาตั้งแต่ช่วงเช้า กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ และภาคีเครือข่าย นำโดยกลุ่มไอลอว์ จัดกิจกรรม “อยากเลือกตั้ง ส.ส.ร. ชวน สว.ทำเรื่องกล้วยๆ” ตั้งขบวนเดินเท้าจากสถานีรถไฟฟ้า MRT เตาปูน พร้อมพี่น้องไรเดอร์จำนวน 67 คนนำขบวน มาที่อาคารรัฐสภาฝั่งทางเข้า สว.มีการนำเต็นท์และเครื่องขยายเสียง มาติดตั้ง ทั้งนี้ตัวเลข 67 เป็นจำนวนที่ สว.ต้องเห็นชอบเพื่อผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระแรก เพื่อเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมือง และ สว.ให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ร่าง เพื่อเปิดให้มีการเลือก ส.ส.ร.มาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีการขนกล้วยจำนวนมากมาแจกให้กับ สส. และ สว. เป็นสัญลักษณ์ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องกล้วยๆ แต่หลังจากทราบว่าองค์ประชุมล่ม กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งไม่พอใจมีการขว้างกล้วยจำนวนมาก พร้อมสาดสีฟ้าที่หน้าทางเข้าอาคาร มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาควบคุมดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
“นี่คือการหักเหลี่ยมทางการเมือง”
ต่อมา สส.พรรคประชาชน สส.พรรคเพื่อไทย และ สว.พันธุ์ใหม่ เดินออกมารับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน รับหนังสือพร้อมกล่าวว่า ยืนยันว่าพรรคประชาชนจะร่วมกันผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับอย่างแน่นอน ขณะที่ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ กล่าวขอโทษประชาชนที่ทำไม่สำเร็จ นี่คือการหักเหลี่ยมทางการเมือง ไม่ได้มีเจตจำนงที่แท้จริงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พวกเรา สว.พันธุ์ใหม่ยินดีสู้ร่วมกับประชาชน ด้าน น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยังคงยืนยันจุดยืนพรรคเพื่อไทยเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรคเห็นด้วยกับญัตติด่วนของ สว.ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะเห็นว่าจะเป็นการหาทางออกร่วมกัน ให้มีความชัดเจน
ไอลอว์ฉะภูมิใจไทยตระบัดสัตย์
นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) กล่าวว่า ชัดเจนว่ามีคนไม่ต้องการให้อภิปราย และไม่ต้องการให้มีการลงมติ แม้จะรู้ว่าประชาชนต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่คงไปดีลอะไรมาจึงโหวตให้ไม่ได้ ทำอะไรก็ได้เพื่อให้ตัวเองไม่ลงมติ “วันนี้ผมเจ็บกับภูมิใจไทย เพราะพรรคภูมิใจไทยบอกว่าต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย ส.ส.ร. แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม คือไม่เข้าร่วมประชุมและโยนภาระไปให้พรรคเพื่อไทย ถ้าพรรคเพื่อไทยกล้าหาญก็คงเดินหน้าต่อ เราอยากเห็นสัญญาณที่จริงใจและจริงจังจากนายกรัฐมนตรี ถ้าท่านต้องการเดินหน้านโยบายนี้ก็ออกมาพูดอะไรหน่อย และบอกให้ สส.ทุกคนเข้าร่วมประชุมในวันพรุ่งนี้และเดินหน้าต่อไปให้ได้”
สส.พปชร.ส่อไหลซบ “กล้าธรรม” เพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ระหว่างการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปรากฏภาพนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นางรัชนี พลซื่อ รองหัวหน้าพรรค น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ รองเลขาธิการพรรค พปชร. มานั่งรวมกลุ่มกับ สส.พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น มีรายงานเพิ่มเติมว่าการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. เป็นประธานการประชุม แต่มี สส.ของพรรคเข้าร่วมบางตามาก น.ส.กาญจนาก็ไม่ได้มาร่วมประชุม ท่ามกลางกระแสข่าวจะมี สส.พปชร.อีกส่วนหนึ่งย้ายตามไปสมทบที่พรรคกล้าธรรม
“อิ๊งค์” ต้อนรับ “บิ๊กมาสด้า” เยือนไทย
เวลา 13.30 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนายมาซาฮิโระ โมโระ (Mr.MORO Masahiro) ประธานและผู้บริหารสูงสุดบริษัท มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ที่เข้าเยี่ยมคารวะ เนื่องในโอกาสเยือนประเทศไทย ทั้งนี้ นายกฯยืนยันว่ารัฐบาลไทยมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภทเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกระดับโลก จากนั้นเวลา 15.40 น. น.ส.แพทองธาร เดินทางมาที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง เยี่ยมชมเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 (Bangkok Design Week 2025) มี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำ สำนักนายกฯ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ร่วมคณะ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร กรรมการ ทำหน้าที่ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้การต้อนรับ และพาชมบูธที่จัดแสดงภายในงาน ก่อนที่นายกฯทดลองนั่งรถตุ๊กๆไฟฟ้า ทะเบียน สข 2198 กรุงเทพมหานคร ไปยังบ้านเลขที่ 1 เยี่ยมชมนิทรรศการงานปักผ้า STITCH Rhythm of the Threads By Sirivannavari Atelier & Academy ที่ผสมผสานงานเทคนิคฝรั่งเศส และจินตนาการแบบไทย เล่าผ่านชุด 13 ชุด 1 ฉลองพระองค์ และ 4 ช่างฝีมือ
ชิวๆองค์ประชุมล่มเห็นต่างกันได้
น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์กรณีองค์ประชุมรัฐสภาล่มว่า ทั้ง สว. สส.คิดต่างกันได้ ไม่เหนือความคาดหมาย เมื่อถามว่าฝ่ายค้านโจมตีพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาล แต่กลับทำให้สภาล่ม น.ส.แพทองธารตอบว่า เป็นกลไกทางสภา เมื่อทั้ง 2 สภามีความเห็นแตกต่างกันก็เป็นอย่างนี้ เรื่องอื่นที่เห็นตรงกันก็ไม่ออกมาแบบนี้ คิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลต้องการส่งญัตติไปเป็นคำถามต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ดำเนินการได้ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อถามอีกว่าเรื่องนี้เป็นนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ต้องพูดคุยกันกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายกฯตอบว่า มีการคุยกันก่อนแล้ว มันเป็นข้อเสนอของแต่ละพรรคที่เราเสนอมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ทราบอยู่แล้วว่าแต่ละพรรคเสนออย่างไร พูดคุยกันแต่คิดไม่เหมือนกัน เพราะคนละพรรคกัน เมื่อถามย้ำว่าเมื่อเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาต้องปรับจูนเพื่อให้เห็นสอดคล้องกันหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า มีหลายเรื่องมากที่เราคิดเห็นตรงกัน แต่แน่นอนเป็นรัฐบาลผสมจะให้เหมือนกันทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์คงไม่ได้
จุดยืนเดิมไม่ “หน้าอย่างหลังอย่าง”
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะไม่เป็นปัญหาใช่หรือไม่ เพราะเรื่องการบริหารเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ในเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติเห็นต่างกัน นายกฯตอบว่า ค่ะ เราทราบอยู่แล้วว่าเห็นต่างกัน เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยอาจถูกมองว่าหน้าอย่างหลังอย่าง เพราะตอนหาเสียงกับตอนอยู่ในสภาไม่เหมือนกัน น.ส.แพทองธารถึงกับอุทานว่า “โอ้! เราว่าไม่ใช่หน้าอย่างหลังอย่างนะ เราก็ยังยืนจุดยืนเดิม ที่ไม่แก้หมวด 1 และหมวด 2 เหมือนเดิม ก็ผลักดันไป ต้องใส่ความก้าวร้าวอย่างไรไหม ก็ไม่ได้ คุยกันด้วยเหตุผลแสดงจุดยืนทางประชาธิปไตยของตัวเอง”
ศาล รธน.ตีตก “ธรรมนัส” รุกลำน้ำ
วันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคดีที่นายธรณิศ มั่นศรี ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 233 ว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขณะดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ ผู้ถูกร้องที่ 1 และมีนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ผู้ถูกร้องที่ 2 เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ สั่งการและติดตามการซ่อมแซมฝายวังบัว บริเวณพื้นที่บ้านโขมงหัก ต.เทพนคร อ.เมืองกำแพงเพชร ที่ปลูกสร้างล่วงล้ำลำแม่น้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า ส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของนายธรณิศ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 43 วรรคหนึ่ง (2) และมาตรา 50 (2) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 53 โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ไม่ปรากฏว่านายธรณิศถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรงและได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการถูกละเมิดสิทธิ หรือเสรีภาพจากการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสอง เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นของนายธรณิศ เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ถูกร้องทั้งสองเท่านั้น กรณีไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมาตรา 46 วรรคหนึ่ง ดังนั้นนายธรณิศไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213
หมายจับ “ปูอัด” ถึงเลขาธิการสภาฯ
อีกเรื่อง ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าหมายจับนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า (ทกน.) ในข้อหาข่มขืนนักท่องเที่ยวหญิงชาวไต้หวันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ส่งหนังสือมาถึงสภาฯแล้ว เมื่อคืนวันที่ 11 ก.พ. เบื้องต้นแจ้งให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรทราบเรื่องแล้ว เมื่อถามว่าจะส่งต่อให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมเป็นเรื่องด่วน ในวันที่ 20 ก.พ.หรือไม่ ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ตอบว่า ยังเป็นไปตามกำหนดการเดิม แต่การพิจารณาต้องไปดูเนื้อหาว่าในวันที่ 20 ก.พ. มีวาระอะไรบ้าง และเรื่องดังกล่าวจะอยู่ในวาระที่เท่าไหร่ นายไชยามพวานต้องทราบจากวาระการประชุมอยู่แล้ว เมื่อถามว่าประธานสภาฯจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการจริยธรรมของสภาด้วยหรือไม่ เลขาธิการสภาฯตอบว่า ต้องดูว่าคณะกรรมการจริยธรรมคนใดจะหยิบยกเรื่อง
นี้ขึ้นมาพูดในที่ประชุมหรือไม่
เลขาฯไทยก้าวหน้าอับอายขอไขก๊อก
ที่สำนักงาน กกต. นายภูชิสส์ ศรีเจริญ เลขาธิการพรรคไทยก้าวหน้า พร้อมกรรมการบริการพรรคบางส่วน เข้ายื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไทยก้าวหน้า ต่อ กกต. จากกรณีนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.พรรคไทยก้าวหน้า ถูกกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเรานักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน นายภูชิสส์กล่าวว่า เหตุผลที่ลาออกมีประการเดียวคือต้องรักษาจรรยาบรรณ และมารยาททางการเมือง ก่อนที่พรรคไทยก้าวหน้ารับนายไชยามพวานเข้ามามีการแถลงว่าจะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดสร้างความอับอายให้กับสังคมและตน ส่วนจะถูกหรือผิดให้เป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมาย ทั้งนี้ยังมีสมาชิกอีกว่า 200 คนจะยื่นลาออกจากสมาชิกพรรคด้วย
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่