ปล่อยควาย ด่าง่าว ตีกราดดะเป็นลูกระนาด
อารมณ์ “กลอนพาไป” สะอกสะใจกองเชียร์พันธุ์แท้ ตื่นตาตื่นใจในฟอร์มดุดันของ “อุ้ยสิน” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในตำนาน นำทีมรถแห่ขึ้นดอย ข้ามเขา เดินทางไกลเป็น “กิโลแม้ว” ตระเวนปราศรัยช่วยผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย
อาการจมูกแดง หูแดง “ของขึ้น” ทุกเวที นักข่าวจดกันมือไหม้ แกะคลิป “โคลสคำพูด” แทบไม่ทัน
แต่ในมุม “คนรู้ทัน” มันก็แค่ลีลาโคตรเซียนการตลาด เหลี่ยมเก๋าตัวตึง เหมือนตั้งใจ “ปล่อยของ” ให้สื่อพาดหัวไม้
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เป็นข่าวดังไปทั่วโลก
สื่อยักษ์ใหญ่ระดับบลูมเบิร์ก เอพี ค่าย CBS news ของสหรัฐอเมริกา สำนักข่าวบีบีซี เดอะการ์เดียน ของอังกฤษ เอเอฟพี ของฝรั่งเศส CBS news ของแคนาดา สื่อดังของสิงคโปร์อย่าง CNA รวมถึงสื่ออินเดีย NDTV
พากันตีข่าวฮือฮานายกฯหญิงของไทยมีบัญชีทรัพย์สิน 400 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทย 1.4 หมื่นล้านบาท
ยกให้เป็นนายกรัฐมนตรีที่รวยสุดในโลก
อ้างอิงตามข้อมูลที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดบัญชีทรัพย์สินผู้นำหญิงคนสุดท้องตระกูลชิน ครอบครองสมบัติมหาศาล อพาร์ตเมนต์สุดหรู กลางกรุงลอนดอน อังกฤษ บ้านพักตากอากาศหรู ที่เกาะฮอกไกโด ญี่ปุ่น
นาฬิกาโคตรแพงยี่ห้อดัง กระเป๋าหนัง รองเท้าแบรนด์เนม ฯลฯ รวมไปถึงเงินฝากในบัญชีธนาคารจำนวน 24 บัญชี หุ้นในบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ เรียกว่านับกันไม่หวาดไม่ไหว
เป็นไปตามที่ “นายกฯอิ๊งค์” ยอมรับเอง จำไม่หมด ต้องใช้เวลาในการสำรวจ ตรวจนานกว่านักการเมืองทั่วไป ในการ “ดีแคลร์” แจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.
...
พอเปิดโพย “โคตรสมบัติ” มาก็ฮือฮาไปทั่วโลกจริงๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ณ จุดที่แค่ตื่นตะลึงพรึงเพริด ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด เพราะมันไม่ได้มีที่มาที่ไปเกี่ยวพันกับการทุจริตคอร์รัปชัน มันก็อย่าง “ทักษิณ” ออกหน้าเคลียร์แทน เบิ้ลกลับพวกจ้องอิจฉา ยั่วกระแสหมั่นไส้เป็นนัยอวยลูกสาว รวยกว่าช่วงตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีซะอีก
“แพทองธาร” รวยเป็นปกติอยู่แล้ว จากสมบัติที่พ่อแม่โอนให้
ออกสไตล์คนรวย ทำอะไรก็น่ารัก ว่างั้น
เรื่องของเรื่อง หากเป็นมุมของการจัดลำดับมหาเศรษฐีไทย โดยสถาบันดังๆอย่างนิตยสารฟอร์บส์ที่เปิดโพยคนโคตรรวยสังคมจะไม่ตื่นตาตื่นใจกับทรัพย์สินหมื่นล้านของลูกสาวคนสุดท้อง “ทักษิณ”
รวมตัวเลขของครอบครัวชินวัตรขึ้นไปแตะที่ระดับแสนล้านก็ไม่แปลก
แต่บังเอิญวันนี้ “อิ๊งค์” คือนายกรัฐมนตรี ผู้นำคนสุดท้องตระกูลชินที่เจอไฟต์บังคับต้อง “ดีแคลร์” ทรัพย์สินกับ ป.ป.ช.
ตามมาตรการป้องกันคอร์รัปชันของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
อย่างไรก็ตามที่สำคัญ ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ที่ไม่ตรงจังหวะกาลเทศะ พานกระตุ้นอารมณ์สุ่มเสี่ยงทางการเมือง
ตามท้องเรื่องที่ย้อนแย้งกับสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยที่ดิ่งเหวลึกลงทุกขณะ
อย่าว่าแต่ 1.4 หมื่นล้านบาท แค่ 1.4 หมื่นบาทสำหรับชาวบ้านร้านตลาด อาจไม่เคยแตะต้อง ลำพังหาเลี้ยงปากท้องไปวันๆ แสนยากลำบาก
อารมณ์คนจน เห็นวาสนาผู้นำรวย อาจพานหงุดหงิด
ยิ่งได้เจอกับอาการ “ผิดคิว” แบบที่ทีมโทรโข่งเพื่อไทย พยายามประคองกระแส อวยผู้นำหญิงรวยเป็นหมื่นล้านแล้วยังติดดิน ใส่กางเกงตัวละ 200 บาท
ไม่เหมือนคนบางกลุ่มที่มีทรัพย์สินไม่ถึง 0.5 เปอร์เซ็นต์ของ “นายกฯอิ๊งค์” แต่ใช้ของแบรนด์เนม ชีวิตติดหรู ไม่เจียมตัว เจียมฐานะ
อวยไม่ดูตาม้าตาเรือ เดี๋ยวพวกนักร้องตามจับผิดจะ “เถิดเทิง” ไปกันใหญ่.
ทีมการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม