มวลอากาศเย็นระลอกใหม่จากเมืองจีนแผ่มาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคเหนือ ภาคอีสาน ทำให้อุณหภูมิลดลง 2–8 องศาเซลเซียส ลากยาวจากวันที่ 12 ธันวาคม รู้สึกหนาวไปถึงช่วงคริสต์มาส แม้แต่พื้นที่เมืองหลวง คนกรุงเทพฯจะได้สัมผัสมวลอากาศเย็นตั้งแต่วันเสาร์–อาทิตย์ สุดสัปดาห์นี้เป็นต้นไปอีกหลายวันคนเมืองร้อน ได้อากาศหนาวเป็นข่าวดีกระตุ้นบรรยากาศปีใหม่ เพราะมันเป็นเหมือนของขวัญพิเศษจากธรรมชาติ ที่ส่งมาผ่อนสถานการณ์เลวร้าย ฝุ่นควันพิษ pm2.5 ที่ปกคลุมกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ภาคเหนือ ภาคกลาง เค้าลางวิกฤติมาเร็วกว่าปีที่แล้วแนวโน้มฝุ่นควันพิษมรณะยกระดับรุนแรงทั้งในแง่ของระยะเวลาและปริมาณ เหนือการควบคุม แบบที่กรุงเทพฯขึ้นจุดส้มครบทั้งเมือง ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานครบทั้ง 50 เขต ประชาชนต้องอยู่ในม่านหมอกที่อันตรายต่อสุขภาพตายผ่อนส่งอย่างไร้ความหวัง ไม่รู้จะฝากชีวิตไว้กับใครในสถานการณ์ที่ฝ่ายบริหารได้แค่เคลียร์ฝุ่นเฉพาะหน้า ป้องกันอาการสำลักฝุ่น สะดุดแรงเสียดทานทางการเมือง ตามฟอร์มที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เทกแอ็กชันโชว์ความเอาจริงเอาจังกับปัญหาฝุ่นควันพิษ PM 2.5ยกเป็นวาระหลักต้นๆในเวทีอีเวนต์โชว์ผลทำงานรัฐบาลรอบ 90 วันฟอร์ม “แฟมิลี วูแมน” ผูกสตอรีเป็นเรื่องครอบครัว ห่วงลูกรักตัวน้อยๆของผู้นำหญิงเองก็ต้องเดือดร้อนจากฝุ่นพิษ ปิดโอกาสวิ่งเล่นในสนามกลางแจ้งอารมณ์ “นายกฯหญิง” ไกวเปล แกว่งดาบรบกับฝุ่นมรณะ PM 2.5 สุดกำลังจังหวะหมอกควันพิษคลุมเมือง แยกไม่ออกกับหมอกหน้าหนาว ในห้วงผสมโรงกับฝุ่นตลบอบอวลสนามการเมือง สถานการณ์ตะลุมบอนศึกเลือกตั้งเวทีเล็กที่โยงเดิมพันถึงการเมืองเวทีใหญ่เกมชิงนายก อบจ.ทั่วประเทศที่ตะลุมบอนกันดุเดือดเลือดพล่านตามเดิมพันที่ผูกติดกับการทวงคืนความยิ่งใหญ่ของ “ประมุขจันทร์ส่องหล้า” พิสูจน์บารมีเข้มขลังของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในตำนานกระชับพลัง “ศูนย์กลางจักรวาล” ค่ายเพื่อไทยจังหวะโฟกัส “นายใหญ่” ยกทัพหลวงไปช่วยนายกานต์ กัลป์ตินันท์ ผู้สมัครของทีมเสื้อแดงที่สมรภูมิเมืองดอกบัว อุบลราชธานี กระตุกกระแสคึกคัก ตามฉากกองเชียร์พันธุ์แท้แห่รับขวัญใจกันแน่นสนามบินยึดพื้นที่ข่าวการเมือง ครองกระแสสื่อ “ทักษิณ” ขวัญใจคนเดิม เพิ่มเติมคือรอยตีนกา อายุที่มากขึ้นสวนทางกับมนต์ขลังที่เสื่อมลงตามกาลเวลาและจุดยืนที่พลิกไปพลิกมาเรื่องของเรื่อง ตามฉากที่โคตรเซียนการตลาดตั้งใจโชว์เรตติ้ง มันก็มีจุดน่าเอะใจ เซียนการเมืองจับทางตั้งข้อสังเกต ไฟต์ อบจ.อุบลฯ “นายใหญ่” ดึงระยะ ไม่ลุยเต็มสูบเหมือนสนาม อบจ.อุดรธานีเหมือนเผื่อระยะ “ออกตัว” หากพลาดท่าปราชัยเอาเป็นว่า อาการใส่เดิมพันไม่หมดหน้าตัก มันล้อกันเลยกับภาพตามข่าวที่ทีมแห่เพื่อไทยโชว์ช็อต “นายใหญ่” ปราศรัย คนฟังแน่นห้องประชุม 5 พันคนแต่ในเวลาเดียวกันเลย อีกฝั่งคู่แข่งคนสำคัญคือ “มาดามกบ” นางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ผู้สมัครอิสระ “ตัวเต็ง” สำคัญ ก็ทำให้เห็นเป็นภาพข่าว คนมานั่งฟังปราศรัยใหญ่เต็มสนามกลางแจ้งกว่า 2 หมื่นคนตัวเลขข่มกันหลายเท่า “นักเลือกตั้งอาชีพ” น่าจะเดาสถานการณ์ออกโดยรูปเกมสะท้อนปัจจัยเปลี่ยนตัวแปรเพิ่ม สนามอบจ.อุบลราชธานี งานหินไม่เหมือน “ปอกกล้วย” ที่สนามเลือกตั้ง อบจ.อุดรธานี ที่อดีตนายกฯในตำนานโชว์เชิงเก๋า ขี่ “แต้มต่อ” สู้กับพลังเด็กที่ลุยหาเสียงแบบดาวกระจาย วิ่งขายอุดมการณ์แลก “แต้มฟรี”ประสาเซียนเลือกตั้งอาชีพคือเวทีกินหมู “สาดกระสุนฝ่ายเดียว”แต่พอถึงช็อตของจริงที่ทีมเพื่อไทยต้องขับเคี่ยว ออกแรงหนัก โดยรูปเกมดุเดือด สูสี ศึกชิงเก้าอี้ อบจ.อุบลราชธานี วัดกันระหว่างค่ายแดงและทีมเขียวฟอร์มแรง“บ้านใหญ่” เจอ “โรงแป้งมัน” หน้าตักหนา คลังแสงแน่นไม่น้อยหน้ากันเกมปะทะสนามรบ “กระสุนจริง” ต่างฝ่ายต่างพร้อมยิงสนั่นโดยปรากฏการณ์ ทำให้ “ทักษิณ” ต้องลดระดับความมั่นใจ ส่ออาการสะท้านคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ ลำหักลำโค่นพอกัน ต้องกั๊กเชิงเผื่อใจในสนามรบ “กระสุนจริง”“สงครามบ้านใหญ่” นี่แหละ แนวรบที่ “นายใหญ่” ไม่ชัวร์และมันก็หมายรวมถึงอีกหลายสนาม เกมชิง อบจ.ทั่วประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า โฟกัสคู่ต่อสู้ของ “ทักษิณ” ไม่ใช่ค่ายประชาชน ทีมเด็กที่มีฤทธิ์แค่ในโซนตัวเมือง เขตเศรษฐกิจตัวเก่ง “เกมรบประชิด” ของแท้ ก็คือค่ายเซราะกราว ภูมิใจไทยโมเดลยึด “ฐานคะแนนจัดตั้ง” ตรึงแนวรบ “สงครามบ้านใหญ่” ขึงพืดกันเลยตามฟอร์มที่ขี่กันเห็นๆ พลังสีน้ำเงินภายใต้การกำกับเกมรบของ “เดอะโอ้ง” นายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ค่ายเซราะกราว และ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินพลังใต้ดิน กรีธาทัพยึดมาเรียบวุธ ทั้ง อบจ.นครสวรรค์ อุทัยธานี อยุธยา อ่างทอง ปทุมธานี ชัยภูมิ สุรินทร์ ระนอง นครศรีธรรมราช ฯลฯเงียบๆแต่ฟาดเรียบ เดินหมากเฉียบคมกว่า “นายใหญ่”ค่ายน้ำเงินรุกคืบ “สงครามบ้านใหญ่” จังหวะบีบทีมเพื่อไทย เร่งไฟต์บังคับ “ทักษิณ” ต้องลุยกระชับพื้นที่คืนแบบหูตาตื่น ในห้วงเวลาที่เหลือน้อยประกอบกับความแน่นของฐานการเมืองที่เสื่อมถอยตามฟอร์มที่บ่อนตีราคาต่อรอง “ทักษิณ” ด้อยกว่าลูกน้องเก่า “เนวิน–อนุทิน”แต่ด้วยศึกแห่งศักดิ์ศรี ที่มีเดิมพันผูกโยงจากสนามเล็กเชื่อมโยงสนามใหญ่ ไม่มีทางเลือกอื่น อดีต นายกฯในตำนานต้องสำแดงฤทธิ์เดชเต็มที่ เบ่งพลังยึดสนาม อบจ.กลับมาให้มากสุดเท่าที่จะมากได้และนั่นก็ทำให้ดีกรีการต่อสู้สนามท้องถิ่น ยกระดับดุเดือดเลือดพล่านตามฉากสถานการณ์สดๆร้อนๆ คดีโหดสะท้านประเทศ เหตุยิงถล่มอดีต สจ.ตายคาบ้าน “โกทร” นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี คนดังระดับขาใหญ่ค่ายภูมิใจไทย โดยเหตุเชื่อมโยงจากการเมืองท้องถิ่นปมชนวนเลือด จากการเบียดแย่งกันลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.โยงกับเกมชิงฐานคะแนนจัดตั้ง ระหว่างค่ายเซราะกราว เจ้าถิ่นเก่า กับทีมเพื่อไทยที่พยายามเจาะเข้าไปเบียดแย่งพื้นที่ สุดท้ายคือจบแบบต้องตายไปข้างในอาการเดือดขึ้นหน้า อดีตนายกฯทักษิณส่งสัญญาณให้ลุยล้างบาง “มาเฟียทีมฆ่า” พูดกันชัดๆ เลยว่า ตั้งใจจะส่งภรรยาของผู้ตายลงสมัครชิงนายก อบจ.ปราจีนบุรีในนามพรรคเพื่อไทยผิดแผน ภรรยาของคนตายออกอาการถอดใจถอย เพราะแหยงความปลอดภัยแต่นั่นก็ไม่น่าจะหยุดหรือทำให้จังหวะการรุกชิงพื้นที่คืนของ “นายใหญ่” ต้องสะดุด เพราะพร้อมๆกันมันก็มีจุดให้ตามรอยภาพนายทักษิณไปปรากฏตัวในงานเลี้ยงย่านชานเมืองกรุงโผล่กลาง “ชุมนุมบ้านใหญ่นครปฐม” โชว์แท็กทีม “ตระกูลสะสมทรัพย์” ส่งสัญญาณตีตราจองโควตา ล็อกคิวการวางตัวผู้สมัครนายก อบจ.เมืองพระปฐมเจดีย์ในนามพรรคเพื่อไทยในสถานการณ์ “นายใหญ่” ต้องปั่นแต้มแข่งกับ 2 น. เซราะกราว เปิดยุทธศาสตร์วางหมากยาวถึงศึกเลือกตั้ง สส.รอบหน้า “สงครามบ้านใหญ่” โมเดลล็อกฐานคะแนนจัดตั้ง สูตรการเมืองโบราณส่งผลต่อเดิมพันในการชิงธงนำขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยมตามอาการหมั่นไส้ชักกลั้นไม่อยู่ อารมณ์ “ทักษิณ” เหน็บ “เสี่ยหนู” ออกอากาศ รีบโชว์หล่อเร็วเกินไปนิด ในจังหวะสกัดเกมรื้อ พ.ร.บ.กลาโหมของคนเพื่อไทย ไม่เอาด้วยกับการสกัดรัฐประหาร ต้านรถถังปฏิวัติ“อนุทิน–เนวิน” อินกับบทองครักษ์ ได้แต้มไว้วางใจจากกองทัพมากกว่า.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม