โรค “ต่อมจริยธรรมอักเสบ” อันตรายถึงขั้นเป็นตายทางการเมือง อาการผวาโรคติดต่อลามต่อเนื่องจากนายเศรษฐา ทวีสิน ต้องหลุดเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เพราะการตั้งรัฐมนตรีที่เคยโดนศาลฎีกาสั่งขังคุก ถูกศาลรัฐธรรมนูญลงดาบผิดจริยธรรมร้ายแรง
แผลสดๆตัวอย่างเห็นกันหลัดๆปรากฏการณ์ที่ผู้นำป้ายแดงอย่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องอัด “วัคซีน” ป้องกันติดเชื้อ “ต่อมจริยธรรม”
สร้างเกราะกำบังหนาๆ ไม่ให้ซ้ำรอยวิบากผู้นำ “ตายน้ำตื้น”
ตามไฟต์บังคับแบบที่นายกฯป้ายแดงประกาศ “จะทำให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้มีคดี” เริ่มต้นจากการตั้งด่านสกัดพวกอยู่ในข่าย “พฤติกรรมเสี่ยง” หลุดเข้าไปแพร่เชื้อในคณะรัฐมนตรี “แพทองธาร 1”
กรองกันหลายชั้น ตั้งแต่ขั้นเลขาธิการ ครม.ไปยันคณะกรรมการกฤษฎีกา

ตั้งแท่น “เช็กประวัติอาชญากรรม” กันเข้มข้น โดยชั้นความปลอดภัยสูงสุด จึงไม่น่าจะหยุดแค่ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ เลขาธิการค่ายพลังประชารัฐ ถูกขึ้นบัญชีดีหนึ่งประเภทหนึ่ง
...
ข้อมูลคดีย้อนหลังเคยต้องโทษจำคุกในต่างประเทศมาก่อน
ยังมีคิวของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ จากทีมภูมิใจไทย ที่มีคดีอาญาค้างเก่าในสารบบศาล นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีปมร้อนเกี่ยวกับการซิกแซ็กสอบที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง
“เสี่ยขิง” นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการค่ายรวมไทยสร้างชาติ ลูกเลี้ยง “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขาใหญ่ม็อบ กปปส.ที่โดนศาลลงโทษจำคุกแต่รอลงอาญา จากคดีการชุมนุมโค่นรัฐบาลอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ล็อกเป้าคนมีประวัติอยู่ใน “กลุ่มเสี่ยง” ตามสัญญาณไฟแดง ทีมนายกฯหญิง ปล่อยโพยขึ้นกระดานให้สังคมช่วย “สแกน”
ฉวยวิกฤติเป็นโอกาส ทีม “เถ้าแก่ใหญ่” ได้จังหวะอ้างอิงอันตรายจากภาวะ “ต่อมจริยธรรมอักเสบ” ในการกรอง ครม.ใหม่ไม่ให้ลากนายกฯติดบ่วงคดี
ขี่ความชอบธรรมในการสกัดพวกเทาๆดำๆ ตามเหลี่ยมเขี้ยวโคตรเซียนการเมืองได้เติมแต้มบวก เสริมภาพลักษณ์ผู้นำป้ายแดง เงื่อนไขสถานการณ์เอื้อทีมเพื่อไทยเดินเกมแรง “เคลียร์ตัวถ่วง” แบบไม่กลัวเสียงหนุนในสภามีปัญหา
นั่นก็เพราะยังมี “ไม้กันหมา” ใช้ขู่ได้ผลชะงัด
ในอาการแบบที่พรรคประชาธิปัตย์แบะท่าอ้าซ่ารอให้เสียบด้วยอาการระทวย แถมอีก 6 เสียง “ขบถไทยสร้างไทย” ที่รอกระดิกนิ้วเรียกไปเติมแต้มรัฐบาล

เกมเกลี่ยโควตา แบ่งเค้กทางการเมือง ไม่เกินลูกเขี้ยว “นายใหญ่”
แต่ปัญหาที่แท้จริงมันอยู่ที่การจัดการภายในอาณาจักรชินวัตรเองมากกว่าตามกระแสที่คนในพรรคเพื่อไทยพูดกันขำๆ
“แก๊งไอติม” ไป “ก๊วนช็อกมินต์” มา
ตามโพยที่ร่อนออกมาจากตึกชินวัตร 3 “เสี่ยเพ้า” นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง สายตรง “อาปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่อหลุดวงโคจร ครม.
สวนทางกับตัวเต็งเสียบโผ ครม. “แพทองธาร 1” อย่าง “เสี่ยบอย” นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค “เดียร์” ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ ทีมสนิทใกล้ชิดนายกฯป้ายแดง จ่อขึ้นชั้นประกบข้างตัวผู้นำ
เรื่องของเรื่องมันเป็นฟอร์มธรรมชาติที่เข้าใจได้
ผู้นำอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ เพิ่งฉลองวัย 38 ไปหมาดๆต้องนั่งหัวโต๊ะประชุม ครม. แวดล้อมไปด้วยผู้อาวุโส โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่อายุปาเข้าหลัก 7 หลัก 8
เทียบกันก็เหมือนปู่ ตา ต้องนั่งเป็นลูกไล่ของหลาน เหลน
มันเป็นภาพที่มองยังไงก็ลักลั่น ในมุมของการบังคับบัญชา อารมณ์แบบไทยๆที่ถือเรื่องอาวุโส ไม่น้อยกว่าความสามารถ มันก็ไม่แปลกที่นายกฯคนสุดท้องตระกูลชินเลือกเพื่อนมานั่งประกบข้างตัวใน ครม.
ต้องเน้นพวก “ผมดำ” มากกว่า “ผมหงอก”.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม