ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” จะออกมาในแบบไหนก็ตามแต่ กรณีอย่างนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก
ด้านหนึ่งผู้ถูกร้องรอดตัวได้ทำหน้าที่ต่อไป
อีกด้านหนึ่งต้องพ้นจากตำแหน่ง
แต่ถามว่า แล้วประเทศชาติได้อะไรบ้าง...ไม่ได้อะไรเลย นอกจากจะเสียเวลา เสียโอกาส ทำให้ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลต้องขาดช่วงไประยะหนึ่ง
โดยเฉพาะนักลงทุนต้องหยุดชะงักไม่กล้าตัดสินใจ เพราะไม่รู้สถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไป
ยิ่งสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างนี้ ยิ่งซํ้าเติมเข้าไปอีก
ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่เพราะบริหารเกิดความผิดพลาด แต่เป็นเพราะขาดความรอบคอบ ไม่ได้ตรวจสอบให้เกิดความถูกต้องรอบด้าน
จะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายหรือกฎกติกาคงไม่ได้ เพราะเป็นถึงนายกรัฐมนตรีที่ต้องมีเครื่องมือในการศึกษาและตรวจสอบ
แต่เป็นเพราะความประมาท เชื่อมั่นในตัวเองสูงเกินไป จนละเลยกฎระเบียบที่เป็นกติกากำหนดไว้ อันเป็นมาตรฐานที่ทุกคนต้องปฏิบัติ
ในแง่ที่ว่าหากต้องหลุดจากตำแหน่ง ก็ต้องเป็นเรื่องใหญ่ เพราะนายกรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งเช่นเดียวกับ ครม.ทั้งคณะ
จากนั้นก็ต้องโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีและตั้งรัฐบาลใหม่
ทำให้รัฐบาลต้องเสียเวลาพอสมควร
ยังดีที่รัฐบาลชุดนี้มีเสียงสนับสนุนถึง 314 เสียง และยังกลมเกลียวกันดีอยู่ ทุกอย่างจึงง่ายที่จะตกลงกันได้
หากเป็นรัฐบาลเสียงกํ้ากึ่ง ฝ่ายค้านมีกำลังสนับสนุนกว่านี้ การตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดใหม่ คงทำได้ยากและเสียเวลาอีกนาน
ดีไม่ดีต้อง “ยุบสภา” เลือกตั้งกันใหม่ เพราะตกลงกันไม่ได้
พูดถึงเรื่องนี้แล้ว การดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยเฉพาะการเป็นนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีนั้น ไม่ใช่เป็นกันได้ง่ายๆ
...
แต่เมื่อได้เป็นแล้วก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมทุกด้าน
หรือที่มีรัฐมนตรีที่แต่งตั้งคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นภรรยาหรือใครก็ตาม ก็เป็นอุทาหรณ์เช่นกัน ว่าไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะสามารถเลือกใครก็ได้
เพราะคนใกล้ชิดนั้นจะทำให้เกิดปัญหาในการทำหน้าที่ได้
ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีที่เกิดขึ้นอีกเรื่องหนึ่งก็คือ นโยบายของรัฐบาลที่หาเสียงไว้ตอนเลือกตั้ง ก็ต้องคิดหรือศึกษาให้รอบคอบก่อนที่จะนำเสนอ เพราะจะทำให้เกิดปัญหาได้
อย่าง “ดิจิทัลวอลเล็ต” ที่ทำไปคิดไปก็เลยเกิดปัญหา จนถึงขณะนี้ก็ยังจบไม่ลง ล่าสุด “วิษณุ เครืองาม” ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ยังบอกว่ายังมีบางจุดที่ยังมีปัญหา จึงต้องดูให้รอบคอบ เดี๋ยวจะตายตอนจบ
ดีที่ยังมีคนคอยดู เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด
ทั้งกรณีการตั้งรัฐมนตรี และนโยบายของรัฐบาลนั้น ไม่ได้เกิดจากการบริหารที่ผิดพลาด แต่เป็นเพราะความไม่รอบคอบในประเด็นที่สำคัญๆ
นั่นเป็นเพราะคิดแต่เพียงว่า จะทำอะไรแล้วต้องได้
จนทำให้ประเทศชาติต้องเสียเวลาและโอกาสไปโดยใช่เหตุ!
“สายล่อฟ้า”
คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม