“งูเห่าการเมือง” กลับมาวิ่งยั้วเยี้ยอีกครั้ง ในจังหวะที่การเมืองกำลังวุ่นวายสับสน นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงว่า มีความพยายามของหลายพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อติดต่อกับ สส.พรรคก้าวไกล ในขณะที่กำลังเผชิญกับชะตากรรมอาจถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบหรือไม่ ในวันพุธที่ 7 สิงหาคม โดยมุ่งหวังจะซื้องูเห่าเข้าพรรค

แต่ผู้นำพรรคก้าวไกลเชื่อมั่นว่า สส.ของพรรคจะเคารพความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้ นายชัยธวัชไม่ได้คาดโทษว่าใคร “ขายตัว” เท่ากับทรยศต่อประชาชน แต่ในอดีตเมื่อหลายทศวรรษก่อน เคยมี สส.ที่ถูกตราหน้าเป็น สส.ขายตัว เป็น “โสเภณีการเมือง” และถูกขับออกจากพรรค ขาดจากความเป็น สส. และถูกจารึกชื่อบนหนังสุนัข

เพื่อประจานให้ประชาชนทั้งประเทศได้รู้กันทั่วหน้า แต่รัฐธรรมนูญปัจจุบันที่เรียกกันว่าฉบับวิตถารคล้ายกับจะส่งเสริมให้ สส.ขายตัว สส.ที่ทำผิดร้ายแรงทรยศต่อประชาชน และถูกขับออกจากพรรคกลับดีอกดีใจ เพราะไม่ทำให้หลุดจาก สส. แต่ยังสามารถรักษาสถานภาพของ สส.ไว้ได้ ด้วยการหาพรรคใหม่ เข้าทางพรรคที่จ้องซื้องูเห่า

เหมือนกับที่ผู้นำพรรคก้าวไกลเปิดโปง พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคตั้งท่าจะซื้อ สส. งูเห่าพรรคก้าวไกล หลังจาก ประสบภัยเรือแตก พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคต้องการเพิ่มจำนวน สส. โดยวิธีการ “จับปลาในบ่อเพื่อน” โดยไม่ต้องเสียเวลาสร้าง สส. ด้วยตนเอง เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองทางการเมือง บางพรรคอาจใช้วิธีอื่นๆ

เช่นใช้ช่องโหว่ของการเลือก สว. แบบใหม่ ให้เข้าครอบงำ สว. แบบใหม่ได้ เป็นการเพิ่มอำนาจการต่อรองในทางการเมืองตามวิธีที่ถนัด ทำให้การเมืองไทยจมปลัก อยู่ในวังวนของความน้ำเน่า แต่ดูเหมือนพรรคก้าวไกลจะไม่ย่อท้อ ยังหามาตรการแก้ไข ด้วยการสังคายนากฎหมายเรื่องพรรค การเมือง

...

มีรายงานข่าวว่านายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง สื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนได้เสนอรายงานผลการศึกษาต่อสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ดำเนินการต่อ มีข้อเสนอให้ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องถึง 20 ฉบับ เช่น รัฐธรรมนูญ 2560 พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกฎหมายเลือกตั้ง สส. เป็นต้น

จะต้องมีการสังคายนากฎหมาย ที่เกี่ยวกับการเมืองครั้งใหญ่ ทั้งการตั้งพรรค การพัฒนาพรรคให้ยึดโยงประชาชน การมีส่วนร่วมของประชาชน ในการเลือก ตัวแทนของพรรคผู้สมัครในระดับต่างๆ และที่สำคัญอย่างยิ่งต้องเขียนให้ชัดเจน พรรค การเมืองทำผิดแค่ไหนจึงจะถูกยุบพรรค ไม่ใช่อ้างแค่ชี้หน้า “ล้มล้างการปกครอง”.

คลิกอ่านคอลัมน์ "บทบรรณาธิการ" เพิ่มเติม