สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ปลาหมอคางดำจึงต้องถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และชะตากรรมพรรคก้าวไกล อาจไม่ต่างจากปลาหมอคางดำ?? เพราะหากพรรคก้าวไกล พรรคใหญ่ที่สุดในสภาฯ ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ย่อมไม่ต่างกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปลาหมอคางดำ??
ชะตากรรมพรรคก้าวไกลจะซ้ำรอยพรรคอนาคตใหม่หรือไม่??
วันที่ 7 สิงหาคม (อีก 20 วันจากนี้ไป) ต้องล้างหูรอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ!!
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่เปิดให้มีการไต่สวนตามคำขอของพรรคก้าวไกล
ทำให้พรรคก้าวไกลผิดหวังแน่นอน!!
เพราะเมื่อไม่มีการไต่สวน...
เท่ากับพรรคก้าวไกลไม่มีโอกาสได้แถลงหักล้างข้อกล่าวหาของ กกต.ด้วยวาจา
และไม่มีโอกาสได้ชี้แจงข้อซักถามตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้กระจ่างแจ้งทุกแง่ทุกมุม
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่เปิดให้มีการไต่สวน
ก็มีข้อดี...เหมือนกัน
ข้อดีคือ คดียุบพรรคก้าวไกลจะไม่ยืดเยื้อคาราคาซัง
เพราะการมีคดียุบพรรคเป็นห่วงผูกคอ ทำให้พรรคก้าวไกลต้องเก้ๆกังๆ มาแล้วกว่า 4 เดือน
หากนับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้อง กกต.วันที่ 3 เมษายน จนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลวันที่ 7 สิงหาคม
รวมเวลาจากต้นทางถึงปลาย ทาง 127 วัน!!
หากมีการไต่สวนเพิ่มเติม ต้องบวกเวลาเพิ่มอีก 2 เดือน หรือ 3 เดือน
ฉะนั้น คดียุบพรรคก้าวไกลหากจบเร็วเท่าไหร่...ก็ยิ่งดี
เพราะคดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญออกได้แค่ 2 ประตู
ประตูที่ 1, ถ้าศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล
คณะ กก.บริหารพรรคชุดเก่า 11 คน ต้องถูกแช่แข็ง 10 ปี
ผู้นำพรรคคนต่อไปคือใคร...??
...
นี่คือประเด็นที่ต้องจับตา
ส่วน สส.พรรคก้าวไกลต้องย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ใน 30 วัน
จะมี สส.งูเห่าหรือไม่? จะมี สส.งูเห่าย้ายรูกี่ตัว? และ สส.งูเห่าจะเลื้อยไปลงรูไหน??
นี่ก็เป็นประเด็นสำคัญ!!
ประตูที่ 2, ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีมุทิตาจิตไม่ยุบพรรคก้าวไกล
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะได้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคเต็มตัว
นายชัยธวัช ตุลาธน หน.พรรคคนปัจจุบัน จะถอยกลับไปเป็นเลขาธิการพรรคตามเดิม
สส.พรรคก้าวไกล 148 คน ไม่ต้องอพยพไปสังกัดพรรคใหม่ให้ลำบากลำบน
สส.งูเห่าที่เตรียมย้ายรู ก็ไม่ต้องย้ายรูให้ชาวบ้านด่าเปิง
“แม่ลูกจันทร์” ประเมินว่า พรรคก้าวไกลมีโอกาสโดนยุบ 70 เปอร์เซ็นต์
และโอกาสไม่โดนยุบ 30 เปอร์เซ็นต์
ถ้าไม่ยุบพรรคก้าวไกล ฉากการเมืองไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ถ้ายุบพรรคก้าวไกล...ฉากการเมืองเปลี่ยนทันที
เปลี่ยนยังไง...อย่าเดาล่วงหน้าเลยโยม.
“แม่ลูกจันทร์”
คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม