ปล่อยผี 200 สว. สํารอง 99 กกต.เคาะรับรองแล้ว ถูกตัดสิทธิ 1 ที่ปรึกษาอบจ.

กกต.ประกาศรับรอง 200 สว.ใหม่พร้อม 99 รายชื่อบัญชีสำรอง ว่าที่ สว.เสียงตามสายถูกระงับสิทธิ เหตุเป็นที่ปรึกษานายก อบจ.อ่างทอง “แสวง” แจงปล่อยผีหลังตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามครบ 18 คดีส่งศาลฎีกายกฟ้องหมด ไม่มีคดีคั่งค้าง เป็นการเลือกโดยชอบแล้ว ส่วนข้อร้องเรียนฮั้ว บล็อกโหวต หลักฐานยังไม่เพียงพอฟันธงกระทำผิด ขอคนจาก ตร.-ดีเอสไอ-ปปง.คุ้ยหาหลักฐานเพิ่ม สาวคนชักใย สำนักงานวุฒิสภาเปิดรับรายงานตัว สว.ใหม่ 3 วัน 11-12 และ 15 ก.ค. ศาล รธน.เรียกข้อมูลเพิ่ม นัด 24 ก.ค. ถกต่อคดีนายกฯแต่งตั้ง “พิชิต” “พท.-บ้านอยู่บำรุง” แตกหัก “วัน” ไขก๊อกพ้นผู้ช่วย รมต.สาธารณสุขพ่วงลาออกจากพรรคเซ่นเชียร์ “บิ๊กแจ๊ส” ยันแค่คนผูกพันไปให้กำลังใจ ไม่ได้เป็นปฏิปักษ์ต่อพรรค “เหลิม” ของขึ้นท้าขับพ่อพ้นพรรคไปด้วย “สรวงศ์” ปัด “อิ๊งค์” บีบให้ออก

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประชุมเป็นการลับ พิจารณาประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ได้รับเลือก สว.เสร็จแล้ว โดยได้ประกาศรับรองผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ปี 2567 จำนวน 200 คน พร้อมทั้งบัญชีรายชื่อสำรอง 99 คนเรียบร้อยแล้ว

มติ กกต.รับรอง สว.ชุดใหม่

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 10 ก.ค.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการประชุม กกต.ในวาระพิจารณาการประกาศรับรองผลการเลือก สว. โดยครึ่งวันเช้า ที่ประชุมใช้เวลา 3 ชั่วโมง พิจารณาประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ได้รับเลือก สว. และได้พักการประชุมก่อนที่จะประชุมต่อในเวลา 13.00 น.หารือกันต่อประเด็นการประกาศผลรับรองการเลือก สว. จากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น.ที่ประชุม กกต.ได้มีมติให้ประกาศผลการเลือก สว.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาในขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้มีการมอบหมายให้นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.แถลงข่าวเรื่องดังกล่าว

“แสวง” แจงตรวจคุณสมบัติจบ

ต่อมาเวลา 16.00 น.นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.แถลงผลการประชุม กกต. ที่มีมติรับรองผลการเลือก สว. 2567 ว่า สำหรับเรื่องร้องเรียนจากทั้งหมดกว่า 800 เรื่อง ได้ดำเนินการเหลือ 200 กว่าเรื่อง ในส่วนคุณสมบัติผู้สมัครและลักษณะต้องห้ามเราตรวจสอบทุกคน ไม่ว่าจะเป็น 200 หรือตัวสำรอง 100 คน ส่วนกลุ่มความผิด การดำเนินการในวันเลือก ระดับอำเภอ จังหวัดและประเทศ มีสำนวนที่มาร้องได้พิจารณาจบแล้ว ส่วนสำนวนที่ไปร้องศาลฎีกา 18 คดี เป็นไปตามมาตรา 44 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. โดยศาลฎีกายกคำร้องทุกคดีแล้ว สำหรับการร้องเรียนประเด็นเลือกโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ตอนนี้มี 47 เรื่อง เช่น ฮั้ว บล็อกโหวต จัดตั้งนั้น สำนักงาน กกต.ขอความร่วมมือขอคนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 10 คน ดีเอสไอ 10 คน และสำนักงาน ปปง. 3 คน เพื่อหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ หาผู้อยู่เบื้องหลังนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาว่าเกิดการกระทำให้การเลือกเป็นไปโดยไม่สุจริตหรือไม่

ปล่อยผีได้ ไม่มีคดีคั่งค้าง

นายแสวงกล่าวว่า เมื่อดำเนินการมาถึงขั้นนี้ ทั้ง 3 กลุ่มความผิด กระบวนการเลือกตั้ง 3 ระดับ จบหมดแล้ว ไม่มีคดีค้างที่ศาล ถือว่าการเลือกเป็นไปโดยชอบ ทั้งนี้แต่ในส่วนความไม่สุจริต เมื่อมีคำร้องมา สำนักงาน กกต.ได้รับเป็นสำนวนไว้แล้ว ได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้ตามสมควร ข้อมูล ณ วันนี้ยังไม่พอเพียงที่จะบอกว่าเขากระทำความผิด สำนักงาน กกต.ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมในชั้นนี้ จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่า การเลือกตั้งเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ต้องพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานที่เรามีอยู่มาเพิ่มเติม

เห็นชอบ 200 สว.บัญชีสำรอง 99 คน

“ด้วยเหตุดังกล่าว ณ วันนี้ กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า การเลือก สว.2567 เป็นไปด้วยความถูกต้อง สุจริตและเที่ยงธรรม จึงมีมติประกาศผลการเลือก สว.ของแต่ละกลุ่มทั้ง 20 กลุ่ม ลำดับที่ 1-10 ของแต่ละกลุ่มเป็น สว. ส่วนลำดับที่ 11-15 ของแต่ละกลุ่มเป็นบัญชีสำรอง ยกเว้นกลุ่มที่ 18 ที่ กกต.ได้ระงับสิทธิชั่วคราวของผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ที่อยู่ในลำดับที่ 1-10 จึงต้องเลื่อนลำดับที่ 11 ตามระเบียบของ กกต.ฉบับที่ 3 ขึ้นไปอยู่ในลำดับที่ 10 แทน สรุปแล้วคือ กกต.มีมติเห็นชอบให้ประกาศผู้ได้รับคะแนนจำนวน 200 คน เพื่อให้เปิดสภาฯได้ ส่วนที่สำรองมี 99 คน เพราะกลุ่ม 18 เหลือสำรองอยู่ 4 คน โดยผู้ได้รับประกาศทั้ง 200 คนให้มารับหนังสือรับรองการได้รับเลือกเป็น สว. เพื่อเป็นหลักฐานในการรายงานตัวกับสำนักเลขาธิการวุฒิสภา 2 วัน ในวันที่ 11-12 ก.ค.2567 เวลา 08.30-16.30 น.” นายแสวงกล่าว

ลั่นถ้าไม่เลื่อนบัญชีเป็นปัญหายิ่งกว่านี้

เมื่อถามว่า การที่ กกต.ประกาศบัญชีสำรอง 99 คน จะขัดกับกฎหมายที่ให้ กกต.ต้องประกาศบัญชี สว. 200 คน และบัญชีสำรอง 100 คนหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า ก็ทำไปแล้วตาม พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง สว. มาตรา 42 ไม่ได้เขียนกรณีดังกล่าวไว้ แต่ กกต.มาออกระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือก สว. ฉบับที่ 3 ข้อ 154/1 ให้ กกต.เลื่อนบัญชีสำรองขึ้นมาแทนได้ เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ศาลปกครองเคยเพิกถอนบางข้อของระเบียบดังกล่าว กังวลหรือไม่ว่าจะถูกเพิกถอนอีก นายแสวงกล่าวว่า ตอบไม่ได้ แต่เมื่อข้อเท็จจริงออกมาเช่นนี้ ต้องดำเนินการและทำไปแล้ว หากไม่เลื่อนจะเป็นปัญหามากกว่านี้ เพราะจะเปิดสภาฯ ไม่ได้ การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนว่า กกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อถามว่าทำไมไม่รับรองไปก่อนแล้วค่อยมาสอยทีหลัง จะได้ไม่เกิดปัญหา นายแสวงกล่าวว่า มีคำพิพากษาของศาลฎีกาวินิจฉัยวางแนวเอาไว้แล้ว เมื่อเราพบถ้าไม่ทำไม่รู้ว่าจะหลีกเลี่ยงได้อย่างไร วันนี้จะส่งประกาศราชกิจจานุเบกษา

ปชส.อ.ไชโยร่วงยังนั่งกุนซือนายก อบจ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บุคคลที่ถูก กกต.ระงับสิทธิชั่วคราวหรือแจก “ใบส้ม” คือ น.ส.คอดียะฮ์ ทรงงาม ผู้ได้รับเลือกเป็น สว.อ่างทอง ลำดับที่ 4 กลุ่ม 18 กลุ่มสื่อสารมวลชน โดย น.ส.คอดียะฮ์ระบุในประวัติการทำงานว่า “ประชาสัมพันธ์เสียงตามสายหมู่บ้าน เป็นประชาสัมพันธ์อำเภอไชโย” นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.คอดียะฮ์เป็นที่ปรึกษานายก อบจ.อ่างทอง จึงถูกระงับสิทธิชั่วคราว ทำให้เลื่อนว่าที่ พ.ต.กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ ผู้ได้รับเลือกเป็น สว. ลำดับที่ 11 ซึ่งอยู่ในบัญชีสำรองเลื่อนขึ้นมาอยู่ในบัญชีตัวจริงลำดับ 10 โดยว่าที่ พ.ต.กรพดนั้น เป็นอดีตประธานรุ่น 5 หลักสูตร “พัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหาร” (พคบ.) ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)

วุฒิสภารับรายงานตัว สว. ใหม่ 3 วัน

เมื่อเวลา 17.25 น. สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาออกประกาศการรับการแสดงตนของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เรื่องกำหนดวันและเวลารับการแสดงตนของ สว. ระบุว่าตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รับรอง สว.ใหม่แล้ว โดยให้ สว.เข้าแสดงตนต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาในวันที่ 11, 12 และ 15 ก.ค. เวลา 08.30-16.30 น. ที่ห้อง 102-106 ชั้น 1 อาคารรัฐสภา ให้เตรียมเอกสารหลักฐานสำหรับการแสดงตน ดังนี้ 1.หนังสือรับรองผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภาจาก กกต. 2.สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ชุด 3.สำเนาใบสำคัญการสมรส 1 ชุด 4.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส 1 ชุด 5.รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 3 รูป ทั้งนี้ สว.กรอกข้อมูลล่วงหน้าในแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ทางเว็บไซต์วุฒิสภาที่ http://www.senate.go.th หัวข้อ กรอกข้อมูลประวัติสำหรับการแสดงตน เพื่อนำมาใช้แสดงตน ดังนี้ 1.แบบแสดงตนสมาชิกวุฒิสภา (แบบ สว. 1) 2.ประวัติสมาชิกวุฒิสภา (แบบ สว. 3) 3.แบบกรอกประวัติสำหรับการเผยแพร่ (แบบ สว. 4) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2831-9363-4 หรือ Call Center วุฒิสภา 0-2831-9111

“คอดียะฮ์” ขอใช้สิทธิสู้ตามกฎหมาย

น.ส.คอดียะฮ์ ทรงงาม หรืออดีตผู้ใหญ่อั๋น อายุ 64 ปี ว่าที่ สว. ที่ถูกระงับสิทธิชั่วคราว กกต.ได้เรียกไปให้ปากคำแล้ว แจ้งว่าตนเป็นที่ปรึกษานายก อบจ. แต่ตนได้สอบถามในที่ประชุมที่ กกต.จัดอบรมถึง 2 ครั้งแล้วว่า เป็นที่ปรึกษานายก อบจ.สามารถลงสมัครได้หรือไม่ ได้รับแจ้งว่า ลงสมัครได้ หาก กกต.ประกาศไม่รับรองก็ต้องต่อสู้ตามกฎหมาย เพราะวันที่ลงสมัครไม่ได้มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาแล้ว เนื่องจากนายก อบจ.ลาออกจากตำแหน่ง

ศาล รธน.นัด 24 ก.ค.ถกต่อคดีนายกฯ

เมื่อเวลา 11.57 น. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญเป็นที่น่าสนใจ คือ กรณีประธานวุฒิสภา (สว.) ส่งคำร้องของ สว. 40 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่ได้นำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุก 6 เดือน ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริตและมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แก่การพิจารณา ให้เรียกข้อมูลเพิ่มเติม และรอคำชี้แจงและพยานหลักฐานจากหน่วยงานหรือบุคคล ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเรียกไปก่อนหน้านี้ โดยกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อไป ในวันที่ 24 ก.ค. เวลา 09.30 น.

นายกฯปลื้ม ตชด.มั่นคง-พัฒนา

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) เขตพญาไท กทม.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯตรวจเยี่ยม บช.ตชด. มี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ยงเกียรติ มนปราณีต ผบช.ตชด. ต้อนรับ โดยนายกฯกล่าวมอบนโยบายว่า มิติการป้องกันชายแดน ความมั่นคง ตชด.ปฏิบัติหน้าที่กันดีมาก พัฒนาในหลายด้าน ดูแลมวลชน โรงเรียนจิตอาสาและโรงเรียนตามตะเข็บชายแดนเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จ พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ผลักดันให้เกิดขึ้นมาได้ รวมถึงทำงานบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สกัดสินค้าเถื่อน ยาเสพติดให้สิ้นซาก เป็นอีกมิติหนึ่งที่ภาคภูมิใจทำให้เศรษฐกิจประเทศดีขึ้น รัฐบาลมีหน้าที่ดูการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กันไป ส่วนสวัสดิการได้ตอกย้ำผู้บัญชาการไปเรื่องความปลอดภัย เสื้อเกราะ ยุทโธปกรณ์ สนับสนุนเต็มที่ ยินดีช่วยเหลือดูแลบ้านพักให้เป็นขวัญและกำลังใจด้วย จากนั้นนายกฯเดินตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ของกำลังพลที่แฟลต ตชด.หลัง บช.ตชด.

เดินสายปราบยาเสพติดอุดรธานี

จากนั้นเวลา 12.00 น. นายกฯแวะกินก๋วยเตี๋ยว “ร้านนายใช้ดอนเมือง” ร้านเจ้าประจำของอดีตนายกฯหลายคน ตบท้ายด้วยไอศกรีมกะทิ ถ่ายรูปกับลูกค้าในร้าน ก่อนไปลงพื้นที่ตรวจราชการ เป็นประธานเปิดรวมพลังชุมชน อีสานเหนือสู้ภัยยาเสพติด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่หอประชุมอเนกประสงค์ ม.ราชภัฏอุดรธานี อ.เมืองอุดรธานี โดยใช้รถโตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน กล 5559 อุดรธานี ปฏิบัติภารกิจ มีนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ผวจ.อุดรธานี ข้าราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้อนรับ และบรรยายสรุปแผนสกัดกั้นแนวชายแดนอีสานตอนบน 5 จังหวัดและปฏิบัติการไล่ล่า (เด็ดปีก) นักค้าอีสานเหนือ 252 ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (บช.ภ.4) ก่อนสวมถุงมือสีขาวมีข้อความว่า “NO PLACE FOR DRUG” เปิดงาน “รวมพลังชุมชน อีสานเหนือสู้ภัยยาเสพติด”

ปลุกชุมชนร่วมเด็ดปีกพ่อค้ายา

นายกฯกล่าวเปิดงานว่า ยอมไม่ได้ที่ลูกหลานเราอยู่ในสังคมที่มียาเสพติดแพร่ระบาด การป้องกันปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ รัฐบาลเร่งให้เป็นรูปธรรม บูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน นำไปสู่การสร้างพลังชุมชนเข้มแข็ง แก้ปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ปฏิบัติการเด็ดปีกนักค้าอีสานเหนือครอบคลุม 12 จังหวัด ทำให้เห็นพลังของมวลชนลุกขึ้นมาต่อสู้กับปัญหายาเสพติด ขอบคุณความตั้งใจปกป้องลูกหลานให้ห่างไกลยาเสพติด ก่อนนำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ร่วมโบกธงแสดงความจงรักภักดี ถ่ายรูปกับนักเรียนอย่างเป็นกันเอง จากนั้นเดินทางไปพบปะนักเรียน ที่โรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์พิทยา ต.เชียงพิณ อ.เมืองอุดรธานี ร่วมชู้ตบาสเกตบอล 5 ลูก ลงไป 3 ลูก เรียกเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือ ร่วมถ่ายรูปกับนักเรียนอย่างคึกคัก ก่อนเดินทางกลับ กทม.

แค่ไปให้กำลังใจไม่ได้เป็นปฏิปักษ์ พท.

นายวันระบุอีกว่า การที่เดินทางไปที่บ้านพัก พล.ต.ท.คำรณวิทย์เป็นเพียงการไปร่วมให้กำลังใจในฐานะคนที่มีความรักและความผูกพันกันมายืนยันว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นการกระทำที่เป็นการแสดงออกถึงการต่อต้านหรือเป็นปฏิปักษ์กับพรรค แต่หลังจากที่ได้รับการประสานจากเลขาธิการพรรค เพื่อให้เข้าพบหัวหน้าพรรค และทันทีที่รับทราบถึงความไม่สบายใจของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต่อกรณีดังกล่าว เพื่อสร้างความสบายใจของหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคทุกท่าน จึงขอแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยจะยื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในลำดับต่อไป

“วัน” ไขก๊อกผู้ช่วย รมต.เซ่นเชียร์ “บิ๊กแจ๊ส”

เมื่อเวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุ๊กลาออกจากการเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีเนื้อหาสรุปว่า เรียน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จากกรณีมีภาพตน ขณะไปร่วมติดตามผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ที่บ้านพักของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ขณะที่พรรค พท.สนับสนุนนายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี ตลอดระยะเวลาที่มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ในฐานะสมาชิกพรรค พท.ไม่เคยไปร่วมรณรงค์หาเสียงให้กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ แม้แต่วันเดียว เพราะไม่เคยคิดจะทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับพรรค นับตั้งแต่วันแรกที่สมัครเป็นสมาชิกพรรค ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจทำงานให้กับพรรคอย่างสุดความสามารถ แต่ตนและครอบครัวอยู่บำรุงมีความผูกพันกันอย่างแนบแน่นและยาวนานกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ทั้งสองครอบครัวเปรียบเหมือนญาติ เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน

สัปดาห์หน้ายื่นลาออกจาก พท.

ต่อมาเวลา 18.00 น. นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า วันนี้บรรยากาศดี แต่สถานการณ์ไม่ค่อยดี จะพูดสั้นๆ ผม วัน อยู่บำรุง อยู่บางบอน อยู่เพื่อไทย ไม่เคยหนีหายไปไหน ตราบใดที่พรรคเพื่อไทยยังรัก เมตตาให้โอกาส จะไม่ไปไหนโดยเด็ดขาด แต่ถ้าวันใดพรรคเพื่อไทย ไม่รักผมแล้ว ไม่ให้โอกาสผมแล้ว นั่นแหละผมถึงจะไป ไม่เคยคิดเลยครับว่าวันนั้นจะถึงแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ (11 ก.ค.) จะให้ทีมงานไปยื่นหนังสือลาออกจากกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ส่วนสัปดาห์หน้าจะไปยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ใจหาย เป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชน ก่อนมาเป็นพรรคเพื่อไทยจนปัจจุบัน ชีวิตต้องดำเนินต่อ ในรายละเอียดไม่อยากพูด ต้องมาทบทวนตัวเองด้วย เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นเพราะอะไร

“เหลิม” ของขึ้นจี้ขับพ้นพรรคไปด้วย

ขณะที่เวลา 14.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายวัน อยู่บำรุง บุตรชาย ลาออกจากกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทราบว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. รวมทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ แสดงความไม่พอใจนายวันในเรื่องนี้อย่างรุนแรงถึงขั้นระบุว่าจะต้องหยุดทำงาน นายวันเลยทำหนังสือลาออกเองเลย “เมื่อหนุ่ม (นายวัน) ลาออกแล้ว ผมจะอยู่ในพรรคเพื่อไทยต่อได้อย่างไร ก็เลยขอให้พรรคขับผมออกจากพรรคตามระเบียบพรรคการเมือง เพื่อจะได้ไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ ขณะนี้มีพรรคการเมือง 2-3 พรรคติดต่อเข้ามาแล้ว ยืนยันว่าผมตกได้ แต่ผมต่ำไม่ได้” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

พท.ปัด “อิ๊งค์” บีบ “วัน” ลาออก

ที่รัฐสภา นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า ในการประชุมพรรค พท. เมื่อวันที่ 10 ก.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. เชิญนายวันมาพูดคุยกันกรณีไปร่วมติดตามผลเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานีกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายวันยอมรับสิ่งที่ทำลงไป ต้องเข้าใจพรรค พท.เป็นองค์กร ต้องมีการควบคุมดูแล ได้รับคำถามจาก สส.พรรคในวันเกิดเหตุว่าทำแบบนี้ได้หรือ การลาออกจากผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเป็นความประสงค์นายวัน เพื่อแสดงสปิริตทางการเมือง ยืนยัน น.ส.แพทองธารไม่ได้บีบให้ออก เห็นโพสต์ของนายวันตกใจกับเหตุผลที่ให้ เพราะรุนแรงกับพรรคและหัวหน้าพรรค คนเป็นหัวหน้าพรรคต้องตัดสินใจในการปกครองคนและองค์กร นายวันต้องเข้าใจเหตุผล น.ส.แพทองธารที่ต้องตำหนิ แต่ไม่ได้ตำหนิแรง พูดกันตรงไปตรงมา ผู้นำองค์กรเมื่อถึงเวลาต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อประคองไว้ไม่เช่นนั้นคนอื่นก็ทำเหมือนกัน การตัดสินใจอาจถูกใจหรือไม่ถูกใจบ้างเป็นเรื่องปกติ นายวันพูดเองขอโทษที่คิดน้อยไปหน่อย “คำพูดของหัวหน้าพรรคคือพี่ต้องหาทางออกให้อิ๊งค์ด้วย ไม่งั้นอิ๊งค์ก็ปกครองคนไม่ได้ แต่สิ่งที่ท่านวันพูดออกมาคือผมขออนุญาตลาออกเอง พอเห็นโพสต์เมื่อเช้าก็ตกใจ น่าจะเป็นเรื่องอื่นมากกว่าที่จะพูดถึงประเด็นนี้” นายสรวงศ์กล่าว

รับ หน.พรรคไม่พอใจ เชื่อเคลียร์ใจได้

นายสรวงศ์กล่าวว่า ยอมรับว่า น.ส.แพทองธารไม่พอใจจริงๆ การเป็นผู้นำองค์กรพอทำแบบนี้เสียกระบวนการ การปฏิบัติตัวของ น.ส.แพทองธารกับนายวัน รับประกันได้ว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความนอบน้อม ไม่มีอะไรรุนแรง ทราบว่าครอบครัวอยู่บำรุง สนิทกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ตลอดระหว่างการหาเสียง ครอบครัวอยู่บำรุงไม่ได้ออกมาเชียร์หรือทำอะไรเกินเลยในฐานะที่อยู่พรรค พท. แต่ด้วยจังหวะเวลาที่มีภาพปรากฏออกมา ขณะนั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์มีคะแนนนำอยู่ แต่ในทางนัยได้ข้อมูลมาตรงกันว่านายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่นายก อบจ.ปทุมธานี ชนะ สิ่งที่นายวันชี้แจงคือเมื่อรู้ว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์แพ้ จึงไปให้กำลังใจในฐานะคนรู้จักกัน เมื่อถามว่าเป็นการแตกหักระหว่างพรรค พท.กับตระกูลอยู่บำรุงหรือไม่ ล่าสุด ร.ต.อ.เฉลิมท้าให้ขับออกจาก สส.เพื่อไทย นายสรวงศ์ตอบว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม เรียนไปว่าใจเย็นๆค่อยๆพูดกันทุกอย่างมีทางออก อยู่ด้วยกันมานาน ร.ต.อ.เฉลิมเป็นบุคคลที่คนในพรรคเคารพนับถือ เหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรก เป็นธรรมดาของคนที่ไม่ค่อยได้พูดคุยกัน เพราะไม่ได้เข้าพรรค น.ส.แพทองธารเองบอกว่าถ้ามีโอกาสจะไปทำความเข้าใจ ยินดีไปช่วยพูดคุย ทำความเข้าใจให้ตรงกัน มั่นใจว่าเคลียร์ได้ ร.ต.อ.เฉลิมมีเหตุผลน่าจะรับฟัง การขับออกจากพรรคเจ้าตัวต้องทำผิดร้ายแรง ต้องแยกกันให้ออก ระหว่างนายวันและ ร.ต.อ.เฉลิม ถึงจะเป็นพ่อลูก เป็นคนละคนกัน

ปฏิเสธลดบทบาทตระกูลอยู่บำรุง

เมื่อถามว่าสาเหตุมาจากความน้อยใจจากการลดบทบาทตระกูลอยู่บำรุงในพรรค พท.หรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า ไม่ได้ลดบทบาท ทุกคนยังเคารพนับถือ ร.ต.อ.เฉลิม นายวันก็ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เท่าที่ทราบก็เหมือนจะมีการโยกย้ายกระทรวงอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อน เมื่อถามว่าภายหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น.ส.แพทองธารได้พูดอะไรหรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า ไม่มีอะไร เมื่อสักครู่ยังประชุมการจัดการพรรคอยู่เลย เมื่อถามว่าเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า ความจริงมีคนถูกเรียกเข้าไปต่อว่าบ่อย น.ส.แพทองธารพูดเสมอว่า หากมีเรื่องติดขัดอะไร ขอให้มาบอก เพราะอยากทราบเรื่องในพรรคทุกเรื่อง

“ทักษิณ” ไปสุรินทร์เป็น ปธ.งานบวช

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า วันที่ 14 ก.ค. นายทักษิณ จะไปเป็นประธานงานอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.67 ที่วัดสุวรรณวิจิตร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง กทม. เวลา 07.00 น. ไปลงที่สนามบินสตึก จ.บุรีรัมย์ ก่อนไปที่วัดสุวรรณวิจิตร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จากนั้นเข้าร่วมพิธีอุปสมบท เวลา 09.30-10.00 น. มอบผ้าไตร เวลา 10.00-11.00 น. เป็นพิธีบวชเณร บวชพระ ต่อมาเวลา 11.00-11.30 น. มอบพระบรมฉายาลักษณ์ฯ เวลา 11.30-12.00 น. ถวายภัตตาหาร เวลา 12.00-13.00 น. ทานอาหารกลางวันที่โรงสี ส.ชัยเจริญ เสร็จแล้วช่วงบ่ายจะไปสนามบินสตึกเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯวันเดียวกัน โดยนายชูชัย มุ่งเจริญพร นายพรเทพ พูนศรีธนากูล และนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม 3 สส.สุรินทร์ พรรค พท.รอต้อนรับ รวมถึงคนเสื้อแดงในพื้นที่จำนวนมากร่วมต้อนรับด้วย เพราะเป็นครั้งแรกที่นายทักษิณเดินทางไปพื้นที่อีสานใต้หลังกลับมาประเทศไทย

ภท.ลุยขวางกัญชาเป็นยาเสพติด

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี โฆษกพรรค ภท. แถลงถึงกรณีที่คณะกรรมการควบคุมยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข มีมติให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดว่า พรรค ภท.ยังยืนยันจุดยืนเรื่องกัญชาในฐานะผู้ริเริ่มบุกเบิกนำมาใช้ทางการแพทย์และขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม พรรคเข้าใจดีถึงความห่วงใยและความกังวล ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.กัญชา ตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว แต่ด้วยเหตุผลกลไก ด้วยเกมการเมืองใดตั้งแต่สมัยที่แล้ว ทำให้ร่าง พ.ร.บ.กัญชาไม่ผ่าน และสมัยรัฐบาลชุดนี้ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ควบคุมกัญชา ไปตั้งแต่เดือน ก.ย.66 รอเข้าสู่ระเบียบวาระสภาฯ ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะไม่มีกฎหมายมาควบคุม ได้เสนอกฎหมายมาควบคุมและใช้อย่างมีขอบเขตทางการแพทย์ สุขภาพ และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

รักษามารยาทไม่ทะเลาะพรรคร่วม

โฆษกพรรค ภท.กล่าวต่อว่า สิ่งที่พรรคทำสอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 ก.ย.2566 เราไม่ได้ทำนอกเหนือไปจากรัฐบาลเลย เปรียบเสมือนเป็นคำมั่นสัญญาในการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนที่หลายคนกังวลว่า การปรับกัญชาเป็นยาเสพติด พรรค ภท.ยังมีท่าทีสนับสนุนกัญชามีปัญหาในการทำงานร่วมกันหรือไม่ ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน แต่ที่มาแถลงวันนี้เพื่อ ยืนยันว่า ในนโยบายรัฐบาลทุกนโยบายเป็นข้อตกลงร่วมกันของทุกพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว ฉะนั้นเรายังทำงานตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐบาล และพรรคภท.เรามีมารยาทมากพอไม่คิดจะมีเรื่องหรือทะเลาะกับใคร เราตั้งใจทำงานที่วางไว้ทุกนโยบายทุกประการ เมื่อปรับเปลี่ยนให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเกิดความสับสนเล็กน้อยเพราะเพิ่งจะปลดล็อกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว หลายชุมชนได้ลงทุนเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้าน จะทำอย่างไรให้เขาอยู่ได้ต่อไป ดังนั้นให้มีกฎหมายควบคุมดีกว่าที่จะกลับไปเป็นยาเสพติด เพราะกระทบต่อความเชื่อมั่นในอนาคต

“สมศักดิ์” เสียงอ่อยอนาคตเปลี่ยนได้

ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ประกาศอดอาหารประท้วงจนกว่า รัฐบาลจะตั้งกรรมการพิสูจน์พิษภัยและประโยชน์ของพืชกัญชาก่อนจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดว่า มอบให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ชี้แจงทำความเข้าใจ การชุมนุมถือเป็นประชาธิปไตย ส่วนกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท.ไม่เห็นด้วย ระบุว่าปรับ เปลี่ยนนโยบายตามใจผู้บริหารนั้น ตนเห็นใจบุคลากรของกระทรวง ในอดีตเห็นอย่างหนึ่งตอนนี้เห็นอีกอย่าง แต่เพราะข้อมูลต่างๆปรากฏชัดว่ากัญชาส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน คนไม่เห็นด้วยจำนวนมาก ทั้งยังไม่มีกฎหมายควบคุมก็ไม่กล้าเดินไปข้างหน้า สธ.ถึงต้องออกประกาศควบคุม ไม่ได้เป็นเรื่องตายตัวว่า เป็นประกาศแล้ว ในอนาคตจะเป็นกฎหมายไม่ได้ เป็นเรื่องของรัฐบาลในอนาคต รมว.สธ.ประกาศได้ก็เอาออกได้ ถ้าอนาคตมีอะไรที่ทำให้กัญชาปลอดภัยก็เปลี่ยนแปลงได้

ม็อบหนุนกัญชาประกาศอดข้าว

ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กลุ่มกองทัพ cannakin และกลุ่มประชาชนกัญชาราว 30 คน นำโดยนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล นายอัครเดช ฉากจิดา และนายพงศ์ธร ตั้งบวรไพศาล ปักหลักชุมนุมต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ยื่นหนังสือถึงนายกฯเพื่อคัดค้านการนำช่อดอกกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด โดยยกระดับการชุมนุมด้วยการตั้งเต็นท์ขวางถนนพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรตั้งแต่แยกพาณิชยการถึงแยกสวนมิสกวัน โดยมวลชนได้ประกอบพิธีบูชาเทพกัญชา สืบชะตาให้กัญชาไม่กลับไปเป็นยาเสพติด ส่องกะลาตาเดียว มีดหมอขูดน้ำตาเทียน และใช้มีดหมอชี้ไปยังทำเนียบรัฐบาลสาปแช่งผู้บงการให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ก่อนประกาศว่าจะอดอาหารประท้วงจนกว่าข้อเรียกร้องจะบรรลุเป้าหมาย

ฉลุย 406 เสียงผ่าน ก.ม.รื้อคำสั่ง คสช.

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯเป็นประธาน เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2559 เรื่องคณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการกำหนดอำนาจหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามที่คณะ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว สาระสำคัญกำหนดให้มีสมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน นับแต่วันที่ พ.ร.บ.ประกาศใช้ เพื่อคืนกลไกแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และกำหนดกระบวนการให้ประชาชนมีส่วนร่วมสร้างสันติภาพในพื้นที่ โดย สส.อภิปรายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ไปทางเดียวกัน ก่อนลงมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ด้วยคะแนน 406 เสียง

ครม.ดึง ก.ม.วินัยการเงินคลังศึกษาเพิ่ม

ต่อมาเวลา 13.45 น. ที่ประชุมสภา พิจารณาร่าง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ ตามที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การใช้งบฯแผ่นดิน ต้องชัดเจน ตรวจสอบได้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนติดตามการกำกับนโยบายรัฐได้ใกล้ชิดมากขึ้น โดยนายวิโรจน์อภิปรายตั้งข้อสังเกตการใช้เงินนอกงบฯของกองทัพ อยากให้จัดการโปร่งใส แม้บริหารจัดการเองได้ แต่ควรมีกฎหมายกำกับชัดเจนให้โปร่งใส ตรวจสอบทางบัญชีที่ถูกต้อง ไม่ใช่มีเพียงกระดาษเอ 4 ไม่กี่หน้า ทำข้อตกลงกับกระทรวงการคลัง ไม่สมเหตุสมผล ธุรกิจต่างๆของกองทัพอยู่ในแดนสนธยา อ้างเป็นความลับ เรื่องความมั่นคง ไม่รู้ลับจริงหรือลับๆล่อๆ จึงเสนอให้มี พ.ร.บ.กำกับเงินนอกงบฯ เมื่อ สส.ก้าวไกลช่วยกันอภิปรายพุ่งเป้าความไม่โปร่งใสเสร็จสิ้น นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคมกล่าวว่า ครม.ขอรับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ไปพิจารณาศึกษาร่างกฎหมายให้สมบูรณ์ มีกรอบเวลา 60 วัน ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยให้ ครม.นำกลับไปศึกษาทบทวนด้วยคะแนน 162 ต่อ 3 เสียง

ผบ.เหล่าทัพตบเท้าเข้าสภาแจงงบฯ

ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 สภาผู้แทนราษฎร มีนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม รองประธาน กมธ.ฯ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม พิจารณามาตรา 6 กระทรวงกลาโหมวงเงิน 200,293 ล้านบาท มี พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ.เข้าชี้แจงอย่างพร้อมเพรียง ก่อนการประชุม พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ.กล่าวถึงความคืบหน้าการคัดเลือกจัดซื้อจัดหาแบบเครื่องบินรบฝูงใหม่ ระหว่างเครื่องบิน Gripen E/F ของสวีเดนกับ F-16 block 70 ของสหรัฐฯว่า ได้หารืออธิบายข้อดีข้อเสียกับนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เพื่อนำเสนอนายกฯแล้ว ขณะที่ พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผบ.ทร.กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขสัญญาจัดซื้อเรือดำน้ำที่ยังไม่เข้า ครม.ว่า รมว.กลาโหมเตรียมนำเสนอนายกฯในสัปดาห์หน้า

ก้าวไกลรุมซักงุบงิบขอเพิ่มงบลับ

ขณะที่การประชุม กมธ.งบฯ กมธ.จากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ส่วนใหญ่ตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในเงินนอกงบฯของกองทัพที่ได้รับเพิ่มขึ้น โดยไม่มีรายละเอียด อาทิ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตการจัดทำงบกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพว่า กมธ.ฯตัดงบเพื่อความคุ้มค่าโปร่งใส ไม่ได้กลั่นแกล้ง ขอเรียกร้องให้เหล่าทัพส่งเอกสารเพิ่มเติม บางประเด็นไม่ใช่เรื่องลับ แต่ทำให้เป็นเรื่องลับจนถูกสงสัยว่าไม่โปร่งใส โดยเฉพาะเงินนอกงบฯที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 660 ล้านบาทเป็น 4,890 ล้านบาท

พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า งบลับกลาโหมมีเท่าเดิมทุกปี ไม่ได้ขอเพิ่มขึ้น ต้องผ่านสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ส่วนการปรับลดกำลังพลร้อยละ 5 ในส่วนนายพลตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ต้องลด 50% อยู่ในแผนปรับปรุงโครงสร้างกองทัพปี 2561-2571 เป็นไปตามแผน มีการปรับลดทุกปี

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่