“แสวง” โว กกต.มีแผนเด็ดทุกประตู รองรับศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดปมกฎหมายเฟ้น สว. “ปกรณ์” โต้เสียงแข็งยึดคำวินิจฉัย 31 ม.ค.67 มัดคอ ก.ก.ใช้สิทธิล้มล้างฯ ถือเป็นหลักฐานอันควรเชื่อได้ชงยุบ ก.ก.ตาม ม.92 ไม่ใช่มาตรา 93 ไม่ต้องไต่สวน อ้างมาตรฐานเดียวกับกรณียุบ ทษช. โต้คลิปเสียงประธาน กกต.รับยุบพรรคขัดระเบียบตัดต่อแค่บางส่วน “ชัยธวัช” เฉ่งยุบพรรคไม่ใช่เล่นขายของ อย่าตีความกฎหมายแบบศรีธนญชัย ชี้คำวินิจฉัยผูกพันผู้ถูกร้อง สั่งการให้เลิกทำ “พิธา” ซัดใช้อำนาจล้นเกิน ระเบียบเก่าเลิกไปแล้วต้องใช้ระเบียบฯปี 66 สอบข้อเท็จจริงพร้อมพยาน นายกฯถกทีมกฎหมาย มั่นใจส่งข้อมูลเพิ่มครบสู้คดี 40 สว. “อิ๊งค์” ไปขอนแก่นอ้อนแฟนคลับ “ทักษิณ” คิดฮอด การันตีดันหมอลำซอฟต์พาวเวอร์อีสานจากกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาลงมติชี้ขาด พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในวันที่ 18 มิ.ย. ขณะที่นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ยืนยันมีแผนรองรับเอาไว้เรียบร้อยทุกประตูไม่ว่าคำวินิจฉัยจะออกมาทางใดกกต.มีแผนรับทุกประตูชี้ขาด ก.ม.สว.เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 มิ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงถึงการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ได้ซักซ้อม ผอ.การเลือกสว.ระดับจังหวัด 3 เรื่องคือ ความเรียบร้อย ความเป็นมาตรฐานเดียวกัน และความเสมอภาคของผู้ปฏิบัติ เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา กำหนดช่วงเช้าเลือกรอบแรก เลือกรอบไขว้หรือรอบสองช่วงบ่าย การแนะนำตัวผู้สมัครทำได้ แต่เน้นให้เป็นระเบียบ ไม่เดินขวักไขว่ เมื่อถามถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคำร้อง ตรวจสอบ 4 มาตราขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 107 หรือไม่ วันที่ 18 มิ.ย. จะส่งผลต่อการเลือกสว.หรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า ต้องรอฟังคำสั่งศาล หากผลเป็นลบ กกต.มีมาตรการรองรับทุกประตู แต่ยังบอกรายละเอียดไม่ได้ ขอให้รอดูวันที่ศาลพิพากษา เรารอมาได้ 7 วันให้รออีก 7 วันก็รอได้ ฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏชี้ข่าว 3 ล้มกระดานแค่คาดเดานายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต. กล่าวว่า การพิจารณาคำร้อง กกต.พิจารณาทุกวัน ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ไม่ต้องกลัวจะมีคำร้องค้างที่พรรค ก.ก. มองว่าจะมีการล้มกระดานเลือก สว.ครั้งนี้เป็นการคาดเดา เราเตรียมแผนไว้แล้วว่าจะดำเนินการอย่างไร หลังได้ สว.ตามจำนวนที่รัฐธรรมนูญกำหนด ให้เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ ไม่ต้องกลัว เมื่อถามว่า กกต.ยังมั่นใจใช่หรือไม่ว่าจะได้ สว. 200 คน เพราะมีการวิเคราะห์จะมี 3 ล้มกระดาน คือล้มพรรค ก.ก. ล้มนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และล้มการเลือก สว. นายฐิติเชฏฐ์กล่าวว่า เป็นการคาดเดา แต่เรามีแผนแล้วว่าได้สว.200 คนไว้แล้ว เราจะดำเนินการอย่างไร ให้เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ ไม่ต้องกลัวยันมีหลักฐานอันควรเชื่อยื่นยุบ ก.ก.นายปกรณ์ มหรรณพ กกต. แถลงถึงกรณีการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้สั่งยุบพรรค ก.ก.ว่า อยากทำความเข้าใจถึงเหตุผลต่อการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ฉบับลงวันที่ 31 ม.ค.67 ระบุชัดเจนว่า การกระทำของผู้ถูกร้อง เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คำวินิจฉัยนี้ทำให้ กกต.ไม่อาจจะทำอย่างอื่นได้ เมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคใดกระทำการตามมาตรา 92 (1) (2) แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 ถือว่า กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้แล้ว ถ้าขนาดที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่ใช่หลักฐานอันควรเชื่อถือได้ กกต.คงตอบสังคมยากยกกรณีศึกษาเดียวกันกับ ทษช.นายปกรณ์แถลงอีกว่า เหตุที่ต้องยื่นเพราะคำวินิจฉัยดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญผูกพันกับ กกต.และมีผู้มาร้องเรียนในเรื่องนี้ กกต.จึงจำเป็นต้องยื่น ถ้ากกต.ไม่ยื่นคำร้อง อาจจะมีความผิดตามกฎหมายได้ การยื่นครั้งนี้เป็นไปตาม มาตรา 92 ของพ.ร.ป.พรรคการเมือง มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า นั่นจึงไม่มีเหตุที่ต้องไต่สวน กกต.ปฏิบัติลักษณะเดียวกันกับการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้มีคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เมื่อ กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกร้องได้กระทำการอันเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคของผู้ถูกร้อง ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาสอนมวยชงตาม ม.92 ไม่ใช่ ม.93นายปกรณ์กล่าวอีกว่า ระเบียบการไต่สวนของ กกต. มี 2 ฉบับ ฉบับแรกใช้เป็นการทั่วไปตามระเบียบปี 2561 ใช้กับทุกกรณี หากพบว่าการเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริต และต้องทำหรือมีการร้องเรียนเข้ามา แต่กรณีที่หลายฝ่ายกล่าวอ้างว่าไม่เปิดให้ผู้ถูกร้องชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และแสดงพยานหลักฐานนั้น การดำเนินการตามมาตรา 93 เป็นกรณีความปรากฏต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองว่ามีการกระทำ เมื่อมีการกระทำ นายทะเบียนต้องรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งข้อกล่าวหาและเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ก่อนเสนอความเห็นต่อ กกต. มาตรา93 ออกระเบียบไม่เกี่ยวกับมาตรา 92 ทั้งสองมาตรามีความแตกต่างกัน สิ่งที่เราอยากแถลงให้สื่อมวลชนประชาชนได้ทราบ คือเราทำตามกฎหมายทุกอย่าง ผลจะเป็นอย่างไร เราเคารพและรับฟังปฏิบัติตามดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญเต็มที่โต้คลิป ปธ.กกต.อย่าตัดแค่บางส่วนเมื่อถามว่า พรรค ก.ก.ส่งคลิปที่ประธาน กกต.ให้สัมภาษณ์ทำนองยอมรับว่า การพิจารณาเรื่องยุบพรรคขัดต่อระเบียบและเป็นการข้ามขั้นตอน นายปกรณ์กล่าวว่า ต้องดูภาพรวมทั้งหมดของคำให้สัมภาษณ์ของการแถลง ไม่ใช่ตัดเฉพาะบางส่วนออกมา ที่ว่ากรณีของพรรค ก.ก.ไม่อาจเทียบได้กับกรณีพรรคไทยรักษาชาติได้ ประเด็นนี้อยู่ที่ศาลแล้ว เราที่เป็นคู่กรณีไม่อาจแสดงความเห็นได้ เราเคารพศาลอย่างยิ่ง เมื่อถามอีกว่าบัญชีพยานหลักฐานที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง นายปกรณ์กล่าวว่า เราได้ทราบคร่าวๆแล้ว แต่กำลังรอหนังสือจากศาลฯฉบับเต็มว่าจะระบุอย่างไร แล้วเราจะรีบปฏิบัติตามคำสั่งศาลทันที ส่วนนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. หรือ กกต.จะเป็นหนึ่งในรายชื่อพยานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ชัยธวัช ตุลาธน“ต๋อม” อัดยุบพรรคไม่ใช่เล่นขายของที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายปกรณ์ มหรรณพ กกต.แถลงข่าวชี้แจงการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้มีการสั่งยุบพรรค ก.ก.ว่า กกต.กำลังบอกว่า การยุบพรรคมี 2 ช่องทางคือ 1.พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92 เป็นเรื่อง กกต.ที่หากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าสามารถยื่นได้เลย โดยที่ไม่ต้องมีกระบวนการสอบสวน 2.มาตรา 93 ซึ่งเป็นเรื่องของนายทะเบียนหากมีความปรากฏว่าพรรคการเมืองกระทำผิดถึงขั้นยุบพรรคมองว่าเป็นปัญหา การอ่านกฎหมายอย่าไปตีความแบบศรีธนญชัย กฎหมายเขียนลำดับไว้อย่างชัดเจน ตำรวจเจอคนขโมยของทำผิดซึ่งหน้ายังต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนเบื้องต้น ส่งอัยการ นี่ยุบพรรคไม่ใช่เล่นขายของคำวินิจฉัยผูกพันผู้ถูกร้องให้เลิกทำ“ที่ กกต.อ้างว่าคำวินิจฉัยที่แล้วผูกพัน อยากถามว่าอะไรผูกพัน คำวินิจฉัยตามมาตรา 49 ในคำวินิจฉัย 3/2567 ผูกพันใคร นี่คือการวินิจฉัยสั่งการให้การกระทำ คือสั่งให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เลิกการกระทำสองการกระทำคือเลิกแสดงความคิดเห็นและรณรงค์ให้ยกเลิก 112 และห้ามไม่ให้มีการแก้ไข 112 ด้วยกระบวนการนิติบัญญัติโดยมิชอบ นี่คือผลของคำวินิจฉัยที่ผูกพัน ซึ่งผูกพันกับคนที่ถูกร้อง” นายชัยธวัชกล่าว เมื่อถามว่า หากพิสูจน์ทราบว่า กกต. ยื่นคำร้องโดยมิชอบด้วยกฎหมายจริง จะมีการดำเนินคดีกับ กกต. อย่างไร นายชัยธวัชกล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดไป รอให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาก่อน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์“พิธา” แย้งเทียบเคียงคดี ทษช.ไม่ได้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ก.ก. โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้ กกต.ตอนหนึ่งว่า กกต.จะนำคดีพรรค ทษช.มาอ้างไม่ได้ เพราะคดีนั้นศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้วินิจฉัยประเด็นกระบวนการการยื่นคำร้องเป็นประเด็นแห่งคดี จึงไม่อาจเป็นบรรทัดฐาน แตกต่างจากคดียุบพรรค อนค. (กู้เงิน) ศาลวินิจฉัยความเกี่ยวเนื่องของมาตรา 92 และมาตรา 93 เป็นประเด็นแห่งคดีไว้ คำวินิจฉัยคดียุบพรรค อนค.วางหลักว่ากระบวนการตามมาตรา 93 เกี่ยวเนื่องกับการเสนอคำร้องตามมาตรา 92 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง เพียงแต่ขณะนั้นใช้ระเบียบ กกต.ว่าด้วยพรรคการเมืองปี 2560 แต่ปัจจุบันระเบียบดังกล่าวถูกยกเลิกไปแล้ว และมีการออกระเบียบ กกต.ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมืองปี 2566 ออกมาใช้บังคับกับกรณีการยื่นคำร้องตามมาตรา 92 และมาตรา 93 ดังนั้น การเสนอคำร้องตามมาตรา 92 จึงต้องดำเนินการตามระเบียบปี 2566 อย่างเคร่งครัด ดังนั้นมาตรา 92 กับมาตรา 93 ต้องใช้ประกอบกันแยกเป็นเอกเทศไม่ได้เหน็บไม่ควรใช้อำนาจล้นเกิน“ผมและพรรค ก.ก.เห็นว่าหลักการใช้อำนาจขององค์กรอิสระ คือไม่ควรล้นเกิน แต่ต้องยึดหลักการมีส่วนร่วมและการถ่วงดุลกัน ดังที่เห็นในรัฐธรรมนูญไทย ไม่ว่าฉบับ 2540 2550 หรือ 2560 การยื่นคำร้องยุบพรรค ระบบกฎหมายกำหนดให้เป็นการแสดงเจตนาขององค์กรร่วมเสมอมา เพื่อให้กระบวนการมีการกลั่นกรองและถ่วงดุลตั้งแต่ 2 องค์กรขึ้นไป ก่อนการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรค” นายพิธาระบุนายกฯตรวจงานชาวบ้านทวงเงินหมื่นเมื่อเวลา 09.30 น. ที่สวนสาธารณะป้อมมหากาฬ เขตพระนคร กทม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.2567 ในโครงการ 10 คลองสวยน้ำใสคนไทยมีสุข “คลองรอบกรุง (คลองโอ่งอ่าง-บางลำพู)” มีนายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ร่วมคณะลงเรือจากท่าเรือป้อมมหากาฬไปขึ้นที่ท่าสะพานหัน คลองโอ่งอ่าง เดินพบปะพ่อค้าแม่ค้า มีชาวบ้านทักทายขอถ่ายรูป มอบพวงมาลัยให้ตลอดทาง ทั้งนี้ ผู้นำชุมชนริมคลองโอ่งอ่าง ขอให้นายกฯช่วยจัดอีเวนต์โปรโมตเพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น พร้อมสั่งทีมงานประสานช่างภาพสื่อต่างประเทศมาช่วยถ่ายภาพนำเสนอมุมอันซีนคลองโอ่งอ่างเผยแพร่ไปทั่วโลก ก่อนนำคณะลงเรือไปขึ้นท่าเทียบเรือพิพิธภัณฑ์บางลำพู คลองบางลำพู เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บางลำพู มีชาวบ้านโบกมือทักทายตะโกนทวงถามเงิน 1 หมื่นบาท โครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายกฯยิ้ม พร้อมบอกว่า “ปลายปี” จากนั้นไปตรวจความพร้อมขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค ที่กองบังคับการกองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ เขตบางกอกน้อย ประทับใจคลองสวยใสไร้ผักชีโรยหน้านายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า ดูแล้วประทับใจ คลองโอ่งอ่างน้ำใสกว่าที่คิดไว้เยอะมาก พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ เลขาธิการพระราชวัง ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ถือเป็นเรื่องที่ดี หลายคนอาจวิตกว่า ทำแบบผักชีโรยหน้าหรือไม่ ดูจากที่น้ำสะอาด หากดูดีๆ มีปลากระโดดอยู่ด้วย ไม่สามารถเซตอัปได้ อยากให้คลองรอบเมือง อย่างคลองแสนแสบใสสะอาดแบบนี้บ้าง คลองชั้นใน เช่น หน้ากระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย อีก 2 สัปดาห์จะลงพื้นที่ไปตรวจพร้อมรัฐมนตรี สมัยเรียนหนังสือถือว่า กทม.เป็นเวนิช ออฟ เดอะอีสต์ มีคลองจำนวนมากต้องทำให้ใสสะอาดเหมือนคลองโอ่งอ่างให้ได้ ต่อไปจะได้สัญจรทางเรือเหมือนสมัยก่อน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เรามีสถานที่อันซีน มีสังคมเล็กๆที่อยู่ตามเลียบคลองต่างๆ มีอัตลักษณ์และสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยว ได้ประสานปลัด กทม.ให้ทำลักษณะสตรีตอาร์ต เพนต์หรือวาดภาพตามตึกด้วยใช้เงิน ธ.ก.ส. รอถามกฤษฎีกาต่อมาเวลา 13.55 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ในการใช้เงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รัฐบาลสอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วหรือยังว่า ทุกอย่างมีขั้นตอนที่ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อถามว่า นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ระบุยังไม่ได้สอบถามสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงการใช้งบฯของ ธ.ก.ส. นายกฯกล่าวว่า นายเผ่าภูมิว่าอย่างไรคงเป็นไปตามนั้น แต่ในที่สุดแล้วคงต้องมีการถามทุกขั้นตอน ยืนยันอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นใครมีข้อสงสัยประการใด รัฐบาลต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นเรื่องที่ทำถูกต้อง สุจริต ทำตามกฎหมายทุกประการ สำหรับการเตรียมจัดงานเลี้ยงรับรองแสดงความยินดีกับจุดเริ่มต้นของกฎหมายสมรสเท่าเทียม ในวันที่ 18 มิ.ย. ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า จะจัดขึ้นวันที่ 18 มิ.ย. หลังประชุมสภาฯเสร็จ กฎหมายสมรสเท่าเทียมเราผลักดันกันมานาน เป็นสิ่งที่ควรจะทำกันนานแล้ว การให้สิทธิเท่าเทียมกันทุกฝ่าย เป็นสิทธิพื้นฐานเลยก็ว่าได้ ถ้าผ่านสภาฯแล้ว เราจะได้เฉลิมฉลองกันถกทีม ก.ม.ทำข้อมูลเพิ่มสู้คดี 40 สว.เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมจากกรณีที่ 40 สว. ยื่นให้มีการวินิจฉัยการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายกฯกล่าวว่า บ่ายวันที่ 13 มิ.ย.จะเข้ามาพูดคุยกัน ทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งทีมทนายส่วนตัว สำนักเลขาธิการนายกฯ (สลน.) และคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย ต้องนำมาพิจารณา เมื่อถามว่าเปิดเผยได้หรือไม่ว่าทางศาลรัฐธรรมนูญขอให้ส่งข้อมูลอะไรเพิ่มเติม นายเศรษฐากล่าวว่า อย่าดีกว่า คิดว่าให้ความเคารพกับศาลจะดีกว่า ไม่อยากใช้พื้นที่สื่อมวลชนเป็นการให้ข่าว เมื่อถามว่าในส่วนของพยานบุคคลได้เตรียมพร้อมใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ก็ตามข้อเท็จจริงมั่นใจส่งครบตามศาล รธน.ขอมาได้เมื่อถามว่า นายกฯอยากจะพูดอะไรหรือไม่ ก่อนถึงวันที่ 18 มิ.ย.นายกฯกล่าวว่า ไม่หรอก เป็นเรื่องที่ไม่สมควรมาพูดในที่สาธารณะ เป็นเรื่องที่เราพูดกันไปแล้ว และข้อมูลที่สาธารณชนจะได้รับทราบกันอยู่แล้ว โดยส่วนตัวมีหน้าที่ชี้แจงตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ขอมา ตรงนี้ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และมั่นใจว่าเดี๋ยวเราจะส่งข้อมูลตามที่ท่านขอมาได้ เมื่อถามว่า หากจะส่งข้อมูลเพิ่มจะส่งในวันที่ 17 มิ.ย.หรือก่อนวันที่ 17 มิ.ย. นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่แน่ใจ ต้องขอประชุมกันก่อน หากเสร็จแล้วไม่มีเหตุผลที่จะดีเลย์ เราต้องให้เกิดความสุขุมรอบคอบและรัดกุม เมื่อถามว่า นายกฯขอให้มีการไต่สวน หรือขอแบบไม่ต้องมีการไต่สวน นายกฯกล่าวว่า ยังไม่ได้มีอะไรเลย จะมีการคุยกัน คงยังตอบไม่ได้ในตอนนี้ฉุนหักค่าดูดส้วมทหารเกณฑ์นายเศรษฐากล่าวต่อว่า ส่วนกรณีมีการเผยแพร่เอกสารการหักค่าใช้จ่ายค่าดูดส้วม 500 บาท จากทหารเกณฑ์ผลัดใหม่ กองพันเสนารักษ์ที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 จ.นครราชสีมา ในสื่อออนไลน์ว่า เห็นข่าวจากแอปฯเอ็กซ์ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม คงจะตรวจสอบ เพราะไม่สมควรเกิดขึ้น ยอมรับไม่ได้ เมื่อถามว่า เงินทหารเกณฑ์มีรายการถูกหักออกไปเยอะ นายกฯจะกำชับอย่างไร นายกฯตอบว่า เขารู้หน้าที่อยู่แล้วว่าอะไรควรหรือไม่ควรมทภ.2 เด้งผู้พันตั้งแท่นสอบทันควันพล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) กล่าวว่า เบื้องต้นสั่งย้าย พ.อ.อาชวิน อัคพิน ผู้บังคับกองพันของกองพันส่งกำลัง และบริการที่22 ไปช่วยราชการที่กองทัพภาคที่ 2 พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ทั้งนี้ มีข้อมูลบางส่วนที่เป็นข้อเท็จจริง และข้อมูลบางส่วนที่ไม่จริง เอกสารดังกล่าวทางผู้ฝึกได้นำเสนอไปยังผู้พันจะทำหน้าที่พิจารณา และกลั่นกรองว่า ควรหักค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เรื่องค่าดูดส้วมหรือค่าประกอบเลี้ยงพิเศษจะโดนตัดออกในตอนท้ายอยู่แล้ว ไปหักค่าใช้จ่ายไม่ได้ เพียงแต่เอกสารหลุดออกไปก่อน แต่เอกสารที่ผ่านการกลั่นกรองแล้วจะไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ยืนยันว่า ไม่ใช่ข้อแก้ตัวแต่เป็นเรื่องจริงอยากให้สาธารณชนได้รับทราบ ส่วนการสั่งย้ายผู้พันนั้น เนื่องจากเป็นผู้บังคับบัญชาต้องมีส่วนรับผิดชอบ ต้องดูแลกำลังพลที่เป็นบุตรหลานของประชาชนที่เข้ามาเป็นทหารกองประจำการ“บิ๊กทิน” สั่งจเรทหารเช็กทั่วประเทศนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีมีการหักค่าดูดส้วมของทหารเกณฑ์ว่า เรื่องรายได้ของทหารเกณฑ์เป็นนโยบายสำคัญ มอบนโยบายให้ตั้งแต่รับตำแหน่ง โดยเฉพาะการจูงใจให้มาสมัครทหาร ตนบอกว่า ห้ามหักเงินเดือนในรายการที่ไม่ใช่เป็นทางการ เช่น ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอย่างที่เป็นข่าวไม่ได้อยู่ในนโยบายเรา โดยเท่าที่สอบถาม เข้าใจว่าคนบันทึกเสนอหักเงินมา อาจไม่เข้าใจรายละเอียดและระเบียบ ท้ายที่สุดแล้วไม่อนุมัติ เรื่องนี้คนผิดต้องมีคนรับผิดถูกลงโทษ ต้องให้ความเป็นธรรม พอมีเรื่องสั่งจเรทหารลงไปดูภาพรวมทั่วประเทศแล้ว แพทองธาร ชินวัตร“อิ๊งค์” อ้อนคนขอนแก่น “ทักษิณ” คิดฮอดเมื่อเวลา 09.40 น. ที่หอประชุมศรีภูบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าพระ อ.เมือง ขอนแก่น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ พร้อมด้วยนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นำคณะลงพื้นที่เยี่ยมชมสินค้าเกษตรชุมชน ผ้าไหมอีรี่ และสินค้าท้องถิ่น โดย น.ส.แพทองธารกล่าวทักทายกับประชาชนชนที่มาต้อนรับเป็นภาษาอีสานว่า “คิดฮอดขอนแก่นหลายเด้อ พ่อใหญ่ทักษิณ ฝากความคิดฮอดมาเด้อ ถ้ามีโอกาสจะมาหาพี่น้องแน่นอน” รู้สึกดีใจที่ได้มาอีกครั้ง มาทั้งก่อนท้อง ตอนท้อง และคลอดแล้ว ครั้งหน้าจะพาลูกๆหลานๆ มาหาคนขอนแก่น ขอฝากให้เสนอปัญหาความเดือดร้อนผ่าน สส.เข้ามาเพื่อนำไปแก้ไขในสภาฯ จากนั้น น.ส.แพรทองธารนำคณะไปเยี่ยมชมผ้าไหมมัดหมี่รางวัลยูเนสโก ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าไหมมัดหมี่ ชินไหมไทย ต.ชนบท อ.ชนบท มีประชาชนรอต้อนรับอย่างคักคึกการันตีหมอลำซอฟต์พาวเวอร์อีสานเวลา 13.50 น. น.ส.แพทองธารไปเยี่ยมชม คณะหมอลำคำผุนร่วมมิตร อ.แวงใหญ่ ที่ตั้งวงหมอลำมาแล้ว 68 ปี ส่งต่อมารุ่นที่ 3 มีพนักงานร่วม 300 ชีวิต มีนายวิทูน คำผุน ผู้จัดการวง รอต้อนรับ โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ดีใจที่มีโอกาสมาชมหมอลำวงคำผุนร่วมมิตรแสดงวงใหญ่ รู้สึกประทับใจและเป็นเกียรติอย่างมาก ขอขอบคุณที่ได้ช่วยรักษาวัฒนธรรมด้านการแสดงหมอลำของชาวอีสานไว้ให้ลูกหลาน มีพี่น้องถามมาตลอดว่าหมอลำนี้จะผลักดันให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ได้หรือไม่ ได้ตอบแล้วว่า หมอลำเป็นซอฟต์พาวเวอร์ด้วยตัวของหมอลำเองอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่ผลักดันไม่ยากเพราะทั้งวัฒนธรรม การร้อง การร่ายรำ การแต่งตัว สีสัน คำร้องทำนองที่มีเอกลักษณ์ไปจนถึงความสุขที่พี่น้องได้รับ รวมถึงยังสร้างงานสร้างอาชีพได้ด้วยเปิดงบฯ ปี 48 เพิ่มงบกลาง 1.9 แสนล้านผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วาระแรก ระหว่างวันที่ 19-21 มิ.ย. วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบฯปี 2567 จำนวน 272,700 ล้านบาท โดยงบฯที่ได้รับการจัดสรรมากสุด 5 อันดับแรกคือ 1.งบกลาง วงเงิน 805,745 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบฯปี 67 จำนวน 190,801.6 ล้านบาท 2.กระทรวงการคลัง วงเงิน 390,314 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63,294 ล้านบาท 3.กระทรวงศึกษาธิการ วงเงิน 340,584 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,413 ล้านบาท 4.กระทรวงมหาดไทย วงเงิน 294,863 ล้านบาท ลดลงจากจำนวน 56,732 ล้านบาท 5.กระทรวงกลาโหม วงเงิน 200,923 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 5,179 ล้านบาทถมใส่ดิจิทัลวอลเล็ต 1.5 แสนล้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า งบฯที่ใช้ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจัดอยู่ในงบกลาง หมวดแผนงานบริหารเพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ วงเงิน 152,700 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายเม็ดเงินในพื้นที่ต่างๆ และเพื่อรักษาระดับการบริโภคและการลงทุนในประเทศ เพิ่มสภาพคล่องแก่ประชาชนในการดำรงชีพและประกอบอาชีพ อีกทั้งยังรักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ขณะที่งบฯในโครงการซอฟต์พาวเวอร์ ส่วนใหญ่จะอยู่ในกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ในรูปแบบการจัดงานอีเวนต์ต่างๆ โดยในส่วนกระทรวงวัฒนธรรม อาทิ ค่าใช้จ่ายโครงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ ด้านการท่องเที่ยวให้เกิดการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ วงเงิน 15.5 ล้านบาท กระทรวงการท่องเที่ยวฯ อาทิ โครงการเที่ยวไทย-มาเลย์ บนแนวคิดการสร้างพลังสร้างสรรค์ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวคุณภาพสูงของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่ท่องเที่ยวตามเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงไทย-มาเลเซีย วงเงิน 5,585,900 บาท การจัดโครงการ MUAYTHAI SOFT POWER พลังแห่งการขับเคลื่อนสุขภาพและเศรษฐกิจของชาติ วงเงิน 5 ล้านบาทเว็บสภาฯคว่ำนิรโทษภาค ปชช.ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า หลังจากเว็บไซต์รัฐสภา www.parliament.go.th เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนต่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษ กรรมประชาชนที่เสนอโดย น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 36,723 คน เพื่อเปิดรับฟังความเห็นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.-12 มิ.ย.67 พบว่ามีผู้เข้ามาแสดงความเห็น 90,503 คน ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.นี้ 64.66% และเห็นด้วย 35.54% โดยร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีสาระสำคัญให้มีการนิรโทษกรรมประชาชนในคดีความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.2549 ถึงวันที่ พ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ มีคณะกรรมการนิรโทษกรรมประชาชนเป็นผู้วินิจฉัยการกระทำของบุคคลที่สมควรได้รับนิรโทษกรรม ยกเว้นคดีตามร่างมาตรา 5 ที่ได้รับการนิรโทษกรรมโดยที่คณะกรรมการไม่ต้องพิจารณาวินิจฉัย ดังนี้ 1.คดีความผิดตามประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือคำสั่งหัวหน้า คสช. 2.คดีพลเรือนถูกดำเนินคดีในศาลทหาร ตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 37/2557 และฉบับที่ 38/2557 3.คดีตามฐานความผิดมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา 4.คดีฐานความผิดใน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 5.คดีฐานความผิดใน พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 6.คดีตามฐานความผิดที่เกี่ยวโยงกับคดีข้างต้นสั่งสอบผลโหวตคาใจไอโอจุ้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเว็บไซต์รัฐสภาปิดการรับฟังความเห็นผลโหวตการรับฟังความเห็นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมดังกล่าว ล่าสุด นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ ทวีตข้อความผ่าน X ระบุว่า “ได้สั่งการให้ตรวจสอบ IP address และความผิดปกติต่างๆที่เกิดขึ้นกับเว็บไซต์ รับฟังความ คิดเห็นตามร่างกฎหมายแล้วจะแจ้งให้ทุกท่านทราบข้อเท็จจริงโดยเร็วครับ #พ.ร.บ.นิรโทษกรรม” ทั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ “เพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” ตั้งข้อสังเกตการโหวตมีการแทรกแซง และมีความผิดปกติหลายจุด วิจารณ์ว่ากลุ่มคนที่มาโหวตบางส่วนเป็นไอโอเข้ามาโหวตเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ในวันสุดท้าย ขณะที่เว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนตั้งข้อสังเกตเช่นกันว่า เว็บไซต์รับฟังความเห็นของรัฐสภาไม่มีขั้นตอนยืนยันตัวตนผ่านเอสเอ็มเอส ทำให้เกิดช่องว่างการลักลอบป้อนคำสั่งให้ระบบคอมพิวเตอร์ทำงานผิดเพี้ยน เพื่อเพิ่มสัดส่วนเสียงเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยให้เพิ่มมากขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว ไม่ต้องอาศัยการให้ความเห็นประชาชนจริงๆ ก็ได้ โดยเฉพาะการโหวตวันสุดท้าย 12 มิ.ย. ที่มีผู้เข้ามาร่วมโหวตวันเดียวกว่า 55,000 คน หลังเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. มีผู้โหวตอยู่ที่ 35,006 คน รวมตลอด 1 เดือน มีผู้ร่วมโหวต 90,503 คน จึงทำให้นายปดิพัทธ์มีคำสั่งให้ตรวจสอบคปช. 53 จี้ให้ประกันคดีการเมืองที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล คณะประชาชนทวงความยุติธรรมปี 2553 (คปช.53) นำโดยนายเจษฎา ศรีปลั่ง นำญาติคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายชุมนุม นปช.ปี 53 ยื่นหนังสือถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ผ่านนายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกฯ เรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเร่งรัดคดีเอาผิดผู้สั่งการปราบปรามนิรโทษกรรมให้ประชาชนที่ต้องถูกขัง โดยไม่ได้ประกันตัวในคดีที่เกี่ยวกับการเมือง และคดีมาตรา 112 แก้กฎหมายให้ทหารและนักการเมืองขึ้นศาลพลเรือน และลงนามให้อำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศมีอำนาจสอบสวนกรณีสลายชุมนุมช่วง เม.ย.-พ.ค.53ม็อบรำลึก 1 เดือน “บุ้ง” เสียชีวิตเมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนินกลาง เครือข่ายนักเคลื่อนไหวที่มุ่งเน้นการปฏิรูปสถาบัน อาทิ กลุ่มทะลุวัง ทะลุแก๊ส กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ศูนย์ทนายสิทธิมนุษยชน ฯลฯ ร่วมกันจัดงาน ครบรอบ 30 วัน การเสียชีวิตของ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง ตั้งวงเสวนาหัวข้อ “สิทธิประกันตัวสู่ปฏิรูปยุติธรรม” โดย น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือ ใบปอ ทะลุวัง และ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน เพื่อนสนิทของ น.ส.เนติพร นายสมชาย หอมละออ น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ จากศูนย์ทนายสิทธิมนุษยชน เนื้อหาชี้ว่า ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 มักไม่ได้รับความเป็นธรรม ตั้งแต่ระดับตำรวจ อัยการ ไปถึงศาล เรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบกระบวนการยุติธรรม และนิรโทษกรรมผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 และปล่อยตัวผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมืองทั้งหมด ก่อนพากันเดินขบวนไปที่ สำนักประธานศาลฎีกาเลขที่ 6/1 ถนนราชินี ยื่นข้อเรียกร้องถึงประธานศาลฎีกา จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ นำป้ายไวนิลสีดำข้อความ “สิทธิการประกันตัวปล่อยนักโทษการเมืองนิรโทษกรรม ม.112” ไปแขวนที่หน้าประตูสำนักงาน ปราศรัยรำลึกถึง “บุ้ง” โดย น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และตัวแทนนักศึกษา ต่อด้วยพิธีสงฆ์ และวางดอกไม้รำลึก หน้ารูปและโกศบรรจุอัฐิของ น.ส.เนติพรอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่