หงายไพ่ เปิดประตูสู้กันอ้าซ่าแบบไม่ต้องกลัวเสียรูปคดีเลย

อารมณ์แบบที่ลูกสาวแก้ต่างแทนพ่อ อาการเสียงสูงของ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าค่ายเพื่อไทย ยืนยันเลยว่า “นายกฯในตำนาน” อย่างนายทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้รู้สึกหนักอกหนักใจกับการโดนปักชนักกลางหลัง

โดนกรรมเก่าไล่ล่า ติดบ่วงคดี 112 จากการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ

ได้คุยกับพ่อแล้ว ออกแนวปฏิเสธข้อกล่าวหา โบ้ยเป็นการ “บิดเบือน” เพราะคดีเกิดขึ้นตอนรัฐประหารรัฐบาล “อาปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอัยการสูงสุดในขณะนั้น คนที่สั่งฟ้อง “นายกฯในตำนาน” ถูกแต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

ลูกสาว “เถ้าแก่ใหญ่” บอกพ่อยักไหล่ ดีซะอีกที่จะได้ขึ้นศาล จะได้อธิบายข้อเท็จจริงไปเลย

มาทรงเดียวกันกับนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวภายหลังยื่นเอกสาร “นายกฯในตำนาน” ป่วยโควิด ขอเลื่อนฟังคำสั่งอัยการสูงสุด

ในจุดที่ชิงเปิดประเด็นข้อต่อสู้คดีล่วงหน้า พุ่งไปที่การทำลายน้ำหนัก “คลิปตัดต่อ” ไม่ใช่ต้นฉบับที่นายทักษิณได้ให้สัมภาษณ์สื่อที่ประเทศเกาหลีใต้

อ้างเลยว่า มีพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็นการตัดต่อ

วิญญัติ ชาติมนตรี
วิญญัติ ชาติมนตรี

...

ขึ้นเสียงเขียวดักคอ ขู่ออกอากาศเลยว่า ถ้าอัยการตอบคำถามนี้ไม่ได้ต่อหน้าผู้พิพากษา ในอนาคตที่จะไปสู้กันในศาล อัยการจะต้องรับผิดชอบ

แถมยังลากโยงไปถึงทหารทีม คสช.ที่เป็นคนนำคลิปตัดต่อมาแจ้งความ พ่วงตำรวจที่รับผิดชอบสำนวนคดีบิดเบือนยัดข้อหาคดี 112 ให้ “นายใหญ่” จะต้องโดนไล่เช็กบิลกราวรูด คดีไม่หมดอายุความแน่นอน

สะท้อนความมั่นอกมั่นใจกันในเชิงเบิ้ลกลับ หักมุมกับสภาพถูกมองเป็นรอง “นายกฯในตำนาน” กำลังอยู่ในสถานการณ์ลำบาก

มันคือลูกเขี้ยว มุกเก๋าของโคตรเซียนการตลาด

เหลี่ยมเกมชิงกระแสที่ถูกงัดออกมาใช้ได้ทุกจังหวะ ในสถานการณ์ต้องชิงแก้ลำกับปรากฏการณ์ทะแม่งๆที่ “นายกฯในตำนาน” ติดโควิดกะทันหันไม่กี่ชั่วโมง ก่อนถึงคิวนัดอัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดี 112

ตามขั้นตอนต้องนำตัวนายทักษิณไปลุ้นประกันตัวที่ศาล

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เป็นอาการของคนเป็นโรค “แพนิก” กลัวคุกตะราง ต้องดึงจังหวะ “ตั้งหลัก” เหมือนไม่มั่นใจในสัญญาณที่เช็กไม่ออก

ต่อรองอยู่วงนอก ไม่กล้าเสี่ยงโดนล็อกเป็นเสือในกรง

เรื่องของเรื่อง “ธง” การต่อสู้ของฝ่ายจำเลยหงายไพ่ออกมาให้เห็นกันชัดๆทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว แต่ยังไม่รู้ “ทีเด็ด” ของฝ่ายโจทก์

วิษณุ เครืองาม
วิษณุ เครืองาม

คดีนี้ “ทนายแผ่นดิน” นิ่งยังไงชอบกล ทำให้จับทางลำบาก

ที่แน่ๆเทียบกันตามสถิติที่ผ่านมา ว่ากันตามเนื้อผ้า คดีความสำคัญที่เกี่ยวพันกับการเดินหมากอำนาจทางการเมืองและธุรกิจแบบโฉ่งฉ่าง

“นายกฯในตำนาน” จะเพลี่ยงพล้ำในศาลเป็นส่วนใหญ่

และที่ผ่านมาก็มักจะโบ้ยว่า เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง โวยวายยุติธรรมสองมาตรฐาน อ้างถูกบิดเบือนใส่ร้าย ทั้งที่มันบ่งบอกความเชี่ยวเชิง มาตรฐานของทีมกฎหมาย ทีมทนายที่อ่อนด้อย

ที่สุดเลยมันก็ฟ้องจากการต้องบากหน้าไปขอพึ่งบริการ “เนติบริกร”

แบบที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ต้องบุกไปกดกริ่งหน้าประตูบ้าน ส่งเทียบไปหามนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ มือกฎหมายเบอร์ต้นๆของประเทศไทย มานั่งเป็น “ทนายพาร์ตไทม์”

รับเป็นกุนซือกฎหมาย คอยชี้ช่องแก้ต่างให้รัฐบาลเพื่อไทย

นอกจากคดีของนายกฯที่เดินชน “ปังตอ” กรณีตั้ง “ทนายถุงขนม 2 ล้าน” เป็นรัฐมนตรี “เนติบริกร” ก็น่าจะรับจ๊อบพ่วงคดี 112 ของ “เถ้าแก่ใหญ่” ไปพร้อมๆกัน

การที่ทีมนายใหญ่ดึง “วิษณุ” เป็นทนายจะทำให้ถูกมองว่า เหมือนมองข้าม ไม่เห็นทีมกฎหมายเพื่อไทยอยู่ในสายตา

“แทงใจดำ” ตอกย้ำเรื่องจริงที่เห็นกันตำตา.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม