การวิพากษ์วิจารณ์การเมืองแบบตรงไปตรงมา ก็เหมือนดาบสองคม มีทั้งคนชอบคนไม่ชอบ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่คนพูดมักจะตาย เสียเพื่อน เสียมิตรสหาย สังคมไทยสอนให้คนไม่พูดความจริง คนที่ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ปากปราศรัย ใจเชือดคอ ประจบสอพลอ จึงจะเป็นคนที่มีอนาคต และมีที่ยืนในสังคมอย่างสง่างาม
ความจริงที่เห็นและเป็นไปใน พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ ก็เกิดจากไม่พูดความจริง การไม่ยอมรับความจริง เอาเป็นว่าภาพรวมถ้ารวมไทยสร้างชาติไม่แตกออกมาจากพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังสมานฉันท์กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เชื่อขนมกินได้ว่า ไม่ พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ.ประวิตร จะได้เป็นนายกฯแน่นอน
เสียงรวมไทยสร้างชาติกับพลังประชารัฐรวมกัน 76 เสียง ถ้านับ สส.ที่ไปอยู่พรรคอื่น เช่น ภูมิใจไทยหรือเพื่อไทยมีไม่ต่ำกว่า 100 เสียง เป็นพรรคลำดับที่ 3 แน่นอน ระหว่าง เพื่อไทยกับก้าวไกลไม่มี ทางไปด้วยกันได้ในทุกมิติ เป็นคู่แข่งขั้วอำนาจการเมือง โดยเฉพาะทางการเมือง พรรคลำดับ 1 และ 2 ต้องแข่งกันตั้งรัฐบาลอยู่แล้ว
ดังนั้น พรรคลำดับที่ 3 จึงมีโอกาสร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะ ภูมิใจไทย กับ ประชาธิปัตย์ หรือ ชาติไทยพัฒนา ก็ต้องจับขั้วเดิมแน่นอน อย่างน้อยๆได้เสียงข้างมากกว่า 200 เสียง ชนะเพื่อไทยและก้าวไกล และในที่สุด เพื่อไทย ก็ไม่มีทางเลือกที่จะมาร่วมรัฐบาลกับ พลังประชารัฐ เสียงข้างมากก็ต้องหนุน พล.อ.ประยุทธ์ หรือ พล.อ. ประวิตร เป็นนายกฯอยู่วันยังค่ำ
ปัญหาในวันนั้นเกิดจากคนใกล้ชิดระหว่าง พล.อ.ประวิตรกับ พล.อ.ประยุทธ์ อีนุงตุงนังไปหมด คนนอกก็เข้ามาวุ่นวายหาผลประโยชน์ จนสุดท้ายพี่กับน้องเลยตัดสินใจที่จะยุติปัญหาก่อนจะบานปลาย ต่างคนต่างก็มีทางเดินของตัวเอง ใครได้ สส.มาจำนวนมากกว่าจะเป็นตัวตัดสินอนาคต จะได้จบเรื่องความขัดแย้งในพรรคแค่นั้น
...
แต่ปรากฏว่า ปัญหาก็ยังตามไปหลอกหลอนทั้งสองพรรคอยู่ดี เพราะปัญหาไม่ใช่อยู่ที่ พรรค แต่อยู่ที่ คน คงไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ภายในระหว่างแกนนำของทั้งสองพรรค คนในน่าจะรู้ดีที่สุด
เสียดายว่าคนที่ตั้งใจจะมาช่วยทำงานให้พรรคต้องได้รับผลกระทบติดปลายนวมไปด้วย เป็นธรรมดา คนที่ไม่ใช่การเมืองสายอาชีพ ก็ต้องลาออกจากสมาชิกพรรคเป็นเรื่องปกติ
อย่างไรเสีย พรรคพลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ ก็ต้องเดินทางต่อไป ไม่ว่าหนทางข้างหน้า จะดีหรือร้าย หรือจะทรงกับทรุดแบบนี้ไปเรื่อยๆ
อุทาหรณ์การโค่นของต้นไม้ใหญ่ในทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ที่อยู่ยงคงกระพัน หนังเหนียว ฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย เป็นแมวเก้าชีวิต สิบชีวิต บรรดาพรรคเก่าพรรคใหญ่ถูกมรสุมยุบพรรคสะบักสะบอม
ใครจะนึกว่าวันหนึ่งประชาธิปัตย์ที่เคยเป็นสถาบันการเมือง จะมาตายน้ำตื้น วันหนึ่งส่งเสาไฟฟ้าลงสมัครคนก็เลือก แต่วันนี้เหลือพื้นที่เท่าแมวดิ้นตาย แพ้ภัยตัวเองจนได้
อนิจจังไม่เที่ยง.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม