รูดม่านหมดวาระ สว.5 ปี วันที่ 11 พ.ค.2567
แต่ยังไม่หมดอำนาจอย่างเป็นทางการ ต้องอยู่ขัดตาทัพ ทำหน้าที่ไปพลางๆจนกว่าจะมี สว.ชุดใหม่
ตามช็อตอีนุงตุงนังมาพักใหญ่ ขั้นตอนคัดเลือก สว.ชุดใหม่ จาก 20 กลุ่มอาชีพที่ให้ผู้สมัครจิ้มเลือกกันเอง กำลังยื่นร้องเรียนกันวุ่นวาย เพราะระเบียบการรับสมัคร การแนะนำตัว สร้างความสับสนมั่วกันไปหมด
ถึงเส้นตายวันที่ 2 ก.ค.2567 ก็ยังไม่รู้จะได้ 200 สว.ชุดใหม่ มารับช่วงต่อได้หรือไม่
แต่ที่หัวหมุนไม่แพ้กันคือ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องไล่เคลียร์ปมร้อนมือเป็นระวิง ช็อตยุ่งๆพุ่งปะทะรัวๆ เรื่องเก่ายังไม่ทันซา เรื่องใหม่ก็ประดังเข้าแทรก
ดราม่าอวยสรรพคุณข้าวเก่า 10 ปี บานทะโร่ยกใหญ่ โดนปั่นกระแสกองทัพจะซื้อไปหุงให้ทหารเกณฑ์กิน ลามไปท้านายกฯให้มาร่วมวงชิมข้าวค้างทศวรรษ ยังไม่รู้บทสรุปจะลงเอยอย่างไร
ชวนปวดหัวคู่ไปกับกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ย่องไปจับเข่าคุยกลุ่มชาติพันธุ์ โชว์บทตัวกลางเจรจาสันติภาพ แก้ปัญหาสู้รบในเมียนมา
...
ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้นรุมถล่มนายใหญ่เละเป็นโจ๊ก สร้างความสับสนบทบาทประเทศไทย เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นตัวแทนในรัฐบาล ไม่รู้ใครเป็นนายกฯตัวจริง
หน่วยงานความมั่นคงกุมขมับ นายใหญ่ล้ำเส้นทำหน้าที่แทนรัฐบาล
ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกเต็มไปหมด ล่าสุดเอฟเฟกต์ ครม.“เศรษฐา1/1” ยังฝุ่นตลบ “ปลัดตู่” กฤษฎา จีนะวิจารณะ ยื่นไขก๊อก รมช.คลัง ต่อจาก ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีต รมว.ต่างประเทศ
อารมณ์กินแหนงแคลงใจ “ปลัดตู่” น้อยใจแบ่งงานกระทรวงการคลัง โดนลดชั้น หล่นไปเป็นรัฐมนตรีช่วยอันดับ 3 เหลือหน่วยงานในสังกัดจิ๊บจ๊อย แค่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และดูรัฐวิสาหกิจเกรดรองๆ
โดนยึดเรียบกรมเกรดเอที่เคยดูแลอย่างกรมสรรพสามิต กรมบัญชีกลาง
ตรงกันข้ามกับ รมช.คลัง ลำดับ 1 “เสี่ยหนิม” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง พรรคเพื่อไทย กินรวบ 3 กรมใหญ่ สรรพากร สรรพสามิต ศุลกากร คุมขุมทรัพย์จัดเก็บรายได้ประเทศ เนื้องานเทียบเคียง พิชัย ชุณหวชิร รมว.คลังคนใหม่ ที่กำกับกรมบัญชีกลาง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน
ไม่ต่างจากนาย เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง อีกคนจากพรรคเพื่อไทย ได้ดิบได้ดีดูคุมสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กรมธนารักษ์
เพื่อไทยลุยหยิบชิ้นปลามัน เดินเกมกระชับพื้นที่กระทรวงการคลัง ริบโควตาเดิมรัฐมนตรีต่างพรรคเกลี้ยง เกลี่ยงานใหม่รวบอำนาจเป็นของตัวเองเบ็ดเสร็จ
คุมกระดานใหญ่หน่วยงานแก้เศรษฐกิจไว้ในมือฝ่ายเดียว เข้าล็อกที่วางไว้แต่แรก เพื่อขับเคลื่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตด้วยตัวเอง ตัดกังวลการถูกพรรคร่วมรัฐบาลวางยา
เหลี่ยมเขี้ยวนายใหญ่ซ่อนวาระแฝงการเมือง ฉวยจังหวะแบ่งงานใหม่ ลดดีลอำนาจทีมลุง
และแฉลบไปลูบคม “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ในการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีเที่ยวนี้ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม น้องชาย “ลุงป้อม” ก็โดนหางเลขลดอำนาจสั่งการ
เหลือกระทรวงในการดูแลแค่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เป็นโควตาของพรรคพลังประชารัฐ ถูกโยกไปอยู่ในการควบคุมของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ พรรคเพื่อไทย
สัญญาณเริ่มเห็นชัด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ไม่ใช่โควตาพรรคพลังประชารัฐแล้ว
เพื่อไทยขยับลดอำนาจทีมลุงๆ แม้แต่กระทั่งพรรคภูมิใจไทยโดนลูกหลง นโยบายโบแดงปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ส่อโดนล้มโต๊ะ
“นายกฯนิด” ตั้งแท่นนำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดเหมือนเดิม หักนโยบายเรือธงภูมิใจไทย
“เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้แค่แบ่งรับแบ่งสู้ ในยามที่เสียงภูมิใจไทยไม่ดังเหมือนเก่า แต้มต่อมีไม่มากพอกดดันพรรคแกนนำรัฐบาลได้ เพราะไม่ได้กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข
ทีมนายใหญ่ลุยกระชับพื้นที่พรรคร่วมรัฐบาล เร่งลดบทบาททีม 2 ลุง ล้างภาพติดลบจับมือฝ่ายอนุรักษ์นิยมตั้งรัฐบาล
วางดีลชิงคุมเกม กุมความได้เปรียบเรื่องดุลการเมือง
ไม่สนแรงกระเพื่อม พรรคไหนฮึดฮัดหัวฟัดหัวเหวี่ยง ก็มีอะไหล่ค่ายสีฟ้ารอเสียบแทน!!!
ทีมข่าวการเมือง