"อนุทิน" ลั่นถอยไม่ได้ โดดชน "เศรษฐา" ปมกัญชายาเสพติด นายกฯ เปิบข้าว 10 ปี

“เศรษฐา” รอเช็กใบลาออก “กฤษฎา” ถ้ามาถึง สลน.ถือว่าจบ ยับยั้งไม่ได้อีกแล้ว ย้ำเป็นโควตา รทสช. รอคุย “พีระพันธุ์” ส่งชื่อใคร “จุลพันธ์-ลวรณ” ประสานเสียงเรื่องส่วนตัวไม่กระทบกับงาน “สุทิน” ชี้ไม่กระทบเสถียรภาพรัฐบาล “เอกนัฏ” ฝ่าดราม่านำทีม รทสช.ยินดี “เสี่ยเฮ้ง” “จิราพร” เล็งใช้ช่องเอ็นบีทีมาปรับผังทำทีวีซอฟต์พาวเวอร์ “ภูมิธรรม” ขออย่าดราม่าข้าวไม่เน่า ตั้งเป้าเปิดซองประมูลได้ต้น มิ.ย. นายกฯลองเอง ตั้งวงทีมงานเปิบข้าว 10 ปี บอกอร่อยดี ทานได้ปกติ “สุทิน” ไม่ขัดเซ้งข้าวรับจำนำไปเลี้ยงกำลังพล แต่ต้องผ่านมาตรฐาน ไอเดียบรรเจิดใช้แลกบาร์เตอร์เทรดเรือดำน้ำ “เศรษฐา” แจงดึงกัญชากลับบัญชียาเสพติดเพื่อประชาชน “เสี่ยหนู” สวนประชาชนมีหลายกลุ่ม ทวงสัญญากัญชาเพื่อสุขภาพ-เศรษฐกิจ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ รอเช็กกับสำนัก เลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ใบลาออกจากตำแหน่ง รมช.คลัง ของนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ มาถึงหรือยัง หากส่งมาถึง สลน.แล้ว ก็ถือว่าจบไม่สามารถยับยั้งได้อีกแล้ว ขณะที่คนในกระทรวงการคลังมองตรงกันว่า นายกฤษฎาคงไม่กลับมารับตำแหน่ง รมช.คลังอีกแล้ว

นายกฯเช็ก สลน.ใบลา “กฤษฎา”

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 9 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการยับยั้งการลาออกจากตำแหน่ง รมช.คลัง ของนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ว่า ยังไม่ทราบว่ายับยั้งได้หรือไม่ ถ้าใบลาออกมาที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) แล้ว ก็ถือว่าสิ้นสุด เมื่อถามว่าจะทำให้มีปัญหาต่อการบริหารงานกระทรวงการคลังหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่มี เมื่อถามว่ายังคงมีการถกเถียงกันว่าขั้นตอนการลาออกจบสิ้นไปแล้วหรือยัง นายกฯตอบว่า ถ้าจดหมายมาแล้วถือว่าจบสิ้นแล้ว แต่ยังไม่เห็นจดหมาย ถึงบอกว่าต้องเช็กไปที่ สลน. ถ้าจดหมายมาแล้วก็คือจบสิ้น เมื่อถามว่าเหตุการณ์อย่างนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในกระทรวงอื่นถ้าหากมีการสอบถามและพูดคุยกันอย่างชัดเจน นายเศรษฐาตอบว่า เป็นห่วงทุกเรื่องเกี่ยวกับความไม่สบายใจ ของทุกคน พยายามทำอย่างเต็มที่ให้ทุกคนสบายใจ แต่เราต้องยึดโยงผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก

ย้ำเป็นโควตารวมไทยสร้างชาติ

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีการส่งชื่อมาแล้วหรือยัง นายเศรษฐาตอบว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน อย่าไปพูดถึงเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น ทราบกันดีอยู่ว่าเป็นโควตาของพรรค รทสช. ให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลเสมอ เมื่อถามต่อว่าอาจมีการเปลี่ยนกระทรวงไม่เป็น รมช.คลังแล้วก็ได้ นายกฯตอบว่า ไม่ทราบ ยังไม่มีการพูดคุยกันเลย ต้องพูดคุยกัน เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรค รทสช. หรือยัง นายเศรษฐาตอบว่า ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกัน อย่างน้อยเชื่อว่าในวันที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการพูดคุยกัน

“สุทิน” ยันไม่กระทบเสถียรภาพ

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวว่ากรณีนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง ลาออก คงไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและ ครม. แต่ถ้ายกกันลาออกหรือถอนตัวกันเป็นพรรค อาจกระทบเสถียรภาพของรัฐบาล แต่เป็นเพียงบุคคลก็อาจไม่เท่าไหร่ แต่ไม่อยากให้เกิดขึ้น

“จุลพันธ์” ย้ำเป็นเรื่องส่วนตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลังว่า บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 9 พ.ค. ข้าราชการกระทรวงการคลังยังคงรวมกลุ่มตั้งประเด็นคำถาม และวิพากษ์วิจารณ์สาเหตุการยื่นหนังสือลาออกของนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง โดยเชื่อว่านายกฤษฎาไม่กลับมารับตำแหน่ง รมช.คลังอย่างแน่นอน เพราะรถประจำตำแหน่งยังคงจอดที่เดิมตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ห้องทำงานยังคงมีเจ้าหน้าที่มาทำงานตามปกติ ยกเว้นนายกฤษฎาที่ไม่ได้เข้ามา ต่อมานายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่กล้าไปก้าวก่าย หรือสอบถามส่วนเรื่องการแบ่งงานต้องสอบถาม รมว.คลัง เพราะเป็นอำนาจท่าน

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รับทราบข่าวการลาออกเช่นกัน แต่ยังไม่มีโอกาสพบปะพูดคุย หรือโทรศัพท์สอบถามกับ รมช.คลัง “เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัว ต้องเคารพการตัดสินใจ เชื่อว่าไม่มีผลต่อการทำงานของข้าราชการ แม้จะมีหลายคนมองว่า รมช.คลัง เคยเป็นอดีตปลัดกระทรวงการคลัง เชื่อว่าไม่มีผลกระทบ เพราะทุกคนทำงานตามหน้าที่ของตัวเอง”

“เอกนัฏ” นำทีม รทสช.ยินดี “เฮ้ง”

ช่วงเช้าที่กระทรวงพาณิชย์ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นำ สส.พรรค อาทิ นางพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม สส.นครศรีธรรมราช นางธิวัลรัตน์ อังกินันน์ สส.เพชรบุรี นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลบุรี น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ สส.สุราษฎร์ธานี นายชุมพล จุลใส อดีต สส.ชุมพร นำช่อดอกไม้เข้าแสดงความยินดีกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ หลังเข้ารับตำแหน่ง ทั้งนี้นายเอกนัฏกล่าวยืนยันสั้นๆว่า พรรค รทสช.ยังเหนียวแน่น ทั้งนี้ วันที่ 12 พ.ค. พรรค รทสช.มีกำหนดการสัมมนาพรรคในเวลา 14.00 น. ที่โรงแรมรีเจนท์ เพชรบุรี เป็นการพบปะระหว่างรัฐมนตรีพรรค และ สส.พรรค โดยเป็นช่วงเดียวกับที่นายกฯ ลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ระหว่างวันที่ 13-14 พ.ค.

“ชลน่าน” ไม่มีปัญหากับคน พท.

ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีต รมว.สาธารณสุข สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์แถลงผลความสำเร็จโครงการ Care D+ โครงการความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกระทรวงสาธารณสุขว่า ยังมีกำลังใจดี ยังไม่ได้พูดคุยกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ถึงการส่งมอบงานกระทรวง รอสถานการณ์ในรัฐบาลเงียบสงบกว่านี้ก่อน ค่อยมาพูดคุยกัน เมื่อถามว่าใน “งาน 10 เดือนที่ไม่รอทำต่อให้เต็ม 10” ของพรรคเพื่อไทย ที่ไม่ได้เข้าร่วมงานมีสาเหตุจากอะไร นพ.ชลน่านตอบว่า วันนั้นติดภารกิจ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ยังเป็น สส.พรรคเพื่อไทยอยู่ เมื่อถามย้ำว่ายังพูดคุยกับคนในพรรคเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านตอบว่า เหมือนเดิม ยังคุยเหมือนเดิม กับนายสมศักดิ์ก็ยังพูดคุยเป็นประจำ

ควงเมียออกงานแคร์ดีพลัสทิ้งทวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การร่วมงานแถลงความสำเร็จ Care D+ ถือเป็นการออกงานครั้งแรกของ นพ.ชลน่าน หลังโดนปรับออกจาก ครม. ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากตามธรรมเนียมปฏิบัติ กรณีพ้นจากตำแหน่งต้องปล่อยวางพักงานในกระทรวงที่ได้รับผิดชอบ แต่ปรากฏว่า นพ.ชลน่านกับ พญ. นวลสกุล บำรุงพงษ์ ภรรยา มาร่วมงานแถลงโครงการดังกล่าว หลังแถลงเสร็จมีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ในโครงการแคร์ดีพลัส นำดอกกุหลาบและพวงมาลัยมะลิ มามอบให้กำลังใจแก่ทั้งคู่

“จิราพร” รอสรุปทีวีซอฟต์พาวเวอร์

น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายก รัฐมนตรี กล่าวถึงจัดรายการให้นายกฯสื่อสารกับประชาชนว่า พูดคุยในเบื้องต้นแต่ยังไม่ลงตัว กำลังหารือเกี่ยวกับรูปแบบและรายละเอียดกันอยู่ อยากให้ออกมาเป็นภาพที่แตกต่างจากที่เคยมีมา ส่วนจะเป็นรายการสดหรือบันทึกเทป กำลังพิจารณาว่าจะให้ออกมาแบบไหน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงง่ายติดตามและได้ประโยชน์ด้วย คาดว่าจะเกิดขึ้นภายใน เดือน พ.ค.นี้ เมื่อถามว่าเคยประกาศว่าจะทำทีวีซอฟต์พาวเวอร์ น.ส.จิราพรตอบว่า จะใช้ทรัพยากรที่เรามีอยู่แล้ว เช่น ช่องทีวีที่รัฐบาลกำกับดูแลรองรับการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ ต้องมีที่สำหรับปล่อย ของและสื่อสารกับประชาชนทั้งในและต่างประเทศ

เล็งใช้ช่องเอ็นบีทีมาปรับผังใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นแค่การปรับผังรายการ ไม่ใช่ตั้งสถานีโทรทัศน์ขึ้นมาใหม่ใช่หรือไม่ น.ส.จิราพรตอบว่า ทำสิ่งที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์กับประชาชน กำลังเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ อยากให้เป็นสื่อที่สะท้อนนโยบายของรัฐบาล และเป็นสื่อที่สะท้อนเสียงประชาชนด้วย อย่างเอ็นบีที ถ้าจะปรับเปลี่ยนเป็นช่องที่รองรับซอฟต์พาวเวอร์ได้ จะมีความทันสมัยและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากขึ้น ที่ผ่านมามีการพูดคุยกับฟรีทีวีที่สนใจเรายินดีให้คอนเทนต์กับฟรีทีวีที่จะไปดำเนินการ เมื่อถามว่าตั้งงบประมาณไว้เท่าไหร่ น.ส.จิราพร ตอบว่า กำลังหารือในรายละเอียด ต้องดูงบประมาณเก่าว่าใช้จ่ายกับส่วนไหนไปบ้าง อาจต้องสรรหาความร่วมมือกับภาคเอกชนต่อ

“อ้วน” ขออย่าดราม่าข้าวไม่เน่า

วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายก รัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีมีนักวิชาการแสดงความเป็นห่วงข้าวหอมมะลิในโครงการรับนำจำข้าว อาจมีสารปนเปื้อนทำให้เกิดมะเร็งได้ว่า ได้พิสูจน์ให้เห็นในขั้นตอนแรกว่าสภาพกายภาพข้าวยังอยู่ดี แม้สีจะเปลี่ยนไปบ้าง คุณภาพไม่เหมือนข้าวใหม่ แต่สามารถรับประทานได้ จึงขออย่าดราม่า ในการตรวจพิสูจน์มีเซอเวย์เยอร์ที่ต่างประเทศที่ต่างชาติยอมรับตามมาตรฐาน รวมถึงผู้ส่งออก และโรงสีต่างๆ อยู่ด้วย มั่นใจว่าทำได้และพร้อมประมูล ส่วนกรณีที่ผู้ชนะการประมูลข้าวดังกล่าวแต่ไม่มานำข้าวออกไปนั้น เกิดขึ้นจริง 4-5 ครั้งแล้ว เพราะราคาข้าวตอนประมูลสูงมาก ประมูลไปแล้วราคากลับตก จึงเกิดการฟ้องร้องกัน ยืนยันว่าที่ผู้ประมูลทิ้งข้าว ไม่ใช่เพราะข้าวเน่า แต่เพราะราคาข้าวตก การประมูลในครั้งนี้จะเขียนกฎเกณฑ์ให้ชัดเจน ให้ผู้ที่ให้ราคาสูงสุด 5 อันดับแรก มีสิทธิชนะการประมูลข้าว เผื่อมีผู้สละสิทธิ์และสามารถไปตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนได้ ข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว ไม่มีค้างสต๊อกในโครงการรับจำนำข้าวแล้ว โกดังที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเป็นเพียง 2 โกดังสุดท้ายที่เหลือ

ตั้งเป้าเปิดซองประมูลได้ต้น มิ.ย.

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการประเมินเบื้องต้นหรือไม่ ว่าข้าวในโกดังดังกล่าว หากประมูลแล้วจะมีมูลค่าเท่าไหร่ นายภูมิธรรมตอบว่า ตอนนี้ราคาข้าวอยู่ที่ 30 กว่าบาท ประมาณว่าสักครึ่งก็อยู่ที่ 15 บาท เป็นการประเมินให้เข้าใจภาพเท่านั้น สุดท้ายประมูลที่เท่าไหร่ต้องไปดู ส่วนจะเปิดซองเมื่อไหร่คาดว่าต้น มิ.ย.น่าจะทำได้ แต่ทุกอย่างต้องยุติก่อน ถ้ายังมีคนตั้งคำถามเรื่องข้าวเน่าเสียจะประมูลได้อย่างไร สุดท้ายคนประมูลเขาต้องตรวจสอบอยู่แล้ว เราทดสอบเบื้องต้นให้คนที่เกี่ยวข้องมาดู บอกว่าน่าจะทำได้ ขอให้เชื่อว่าประเทศที่รับซื้อ หรือผู้ค้า-ผู้ส่งออก เจ้าของโรงสีไม่นำข้าวเน่าไปขายแน่นอน หากจะขายต้องมั่นใจ มิเช่นนั้นขายไปแล้วจะไม่มีใครมาซื้ออีก เมื่อถามว่าการประมูลจะเป็นการส่งออกหรือขายในประเทศ นายภูมิธรรมตอบว่า ส่งออกก็ไม่พอแล้ว ตลาดแอฟริกาก็ไม่พอ เราถึงจะประมูลยกกองเอาไปทีเดียวจะได้จบ ให้มาแบ่งขายยังมีงานต้องทำอีกเยอะ

“เศรษฐา” ลองข้าว 10 ปีบอกทานได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะทำงานนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เปิดเผยว่าช่วงเที่ยงวันเดียวกัน นายกฯ ได้รับประทานอาหารมื้อเที่ยงกับคณะทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า มีการนำข้าวจากโกดังที่ จ.สุรินทร์มาหุงพร้อมรับประทานกับเมนูไข่ลูกเขย กะเพราไก่ แกงเขียวหวานไก่ หมูทอดกระเทียม แกงคั่วเนื้อ และผัดผัก นายกฯได้พูดกับทีมงานว่า “ข้าวก็อร่อยดี ลองกินแล้ว รู้สึกเหมือนกินข้าวปกติทั่วไป แต่เรื่องของสีอาจไม่ขาวเหมือนข้าวใหม่”

“สุทิน” ไม่ขัดเซ้งข้าวเลี้ยงกำลังพล

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงแนวทางร่วมรับซื้อข้าวจากโครงการรับจำนำ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมระบายข้าวจากโกดังมาประกอบเลี้ยงกำลังพลในกองทัพว่า กองทัพพร้อมสนับสนุนรัฐบาล หากเป็นการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล งบกองทัพยินดีช่วย หากจะทำเป็นโครงการอย่างที่พูดคุยกัน เราไม่ขัดข้อง แต่ต้องไปดูกันอีกครั้งว่าข้าวมีคุณภาพจริงหรือไม่ การชิมของนายภูมิธรรมถือเป็นการรับรองมาตรฐานระดับหนึ่ง แต่จะให้มั่นใจกว่านั้นอาจมีระบบที่ตรวจสอบอีก และคงต้องสอบถามไปยังผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ การจัดซื้ออาหารมาให้กำลังพลต้องดูถึงคุณภาพ หากมั่นใจแล้วว่าคุณภาพดีก็ไม่ต้องไปตรวจสอบ

ไอเดียบรรเจิดใช้แลกเรือดำน้ำ

นายสุทินยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาเรื่องจัดซื้อเรือดำน้ำ และเรือฟริเกตสมรรถภาพสูงของกองทัพ เรือว่า ทั้ง 2 เรื่องนี้ไม่ว่าจะจบด้วยวิธีใด ต้องสร้างประโยชน์ให้ประเทศมากที่สุด นำผลประโยชน์กลับมาในรูปแบบบาร์เตอร์เทรดก็ควรทำ ส่วนจะนำข้าวไปแลกได้หรือไม่ ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่หลักการก็น่าสนใจ สมมติเขามาซื้อข้าว สินค้าเกษตร หรืออุตสาหกรรมของเรา เพื่อทดแทนชดเชยกับเงินที่เราต้องจ่ายไป ถ้าเขาต้องการเราก็ให้ ทั้งนี้จีนจะส่งคณะชุดใหญ่มาพูดคุยความคืบหน้าเรื่องเรือดำน้ำภายในเดือน พ.ค.นี้

ก.ก.เย้ยนายกฯกินข้าวเยอะๆ

ที่รัฐสภา นายปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรมเตรียมนำข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวที่เก็บไว้ในโกดัง จ.สุรินทร์ 10 ปี มาหุงให้นายกฯรับประทานว่า อยากให้นายกฯ และนายภูมิธรรมทานให้เยอะๆ อย่ากินแต่กับข้าว ให้ทานข้าวหลายๆช้อน 2 ทัพพียิ่งดี ถ้าหลังทานไปแล้ว 7 วัน อาการปกติแข็งแรง จะพิจารณาทานบ้าง ขอย้ำว่าให้ทานกับข้าวแค่นิดเดียว แต่ทานข้าวเยอะๆ แล้วมาดูอาการจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายหรือไม่ ที่สังคมกังวลคืออาจมีร้านค้าต้องการลดต้นทุนไปประมูลข้าว 10 ปี รวมถึงกลุ่มคนที่เรียกร้องสิทธิในการรับประทานอาหารไม่ได้ เช่น นักโทษในเรือนจำ ทหารเกณฑ์ คน 2 กลุ่มนี้น่ากังวลใจ ต้องไปสอดส่องดูข้าวเหล่านี้จะถูกประมูลขายให้เรือนจำหรือกองทัพหรือไม่

ปชป.เตือนดื้อดึงเน่าทั้งรัฐบาล

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ถ้ายังดื้อดึงจะเน่าทั้งรัฐบาล” 2 วันที่ผ่านมาออกมาท้วงติงกรณีข้าวค้างโกดัง10ปี รัฐบาลควรรับฟังแล้วตรึกตรอง มีอยู่ไม่กี่ประเด็น 1.ห่วงเรื่องสุขภาพ อนามัยของประชาชน 2.อยากให้มีการตรวจคุณภาพข้าวโดยผู้เชี่ยวชาญ 3.ควรมีคณะกรรมการคนกลางมาร่วมตรวจคุณภาพข้าว ถ้าพวกเดียวตรวจเหมือนละครปาหี่ 4.ห่วงความเสียหายในตลาดข้าว หากข้าวไม่มีคุณภาพหลุดออกไป 5.ควรแจ้งประชาชนในรายละเอียดว่าขายให้ใคร นำไปขายที่ไหน 6.อย่าไปดูถูกบางประเทศว่าเขาสามารถบริโภคข้าวไม่มีคุณภาพได้ เรื่องนี้มีธงนำคือพยายามสร้างความชอบธรรมให้คดีจำนำข้าว โดยไม่สนใจต่อชีวิต และสุขภาพประชาชน สุดท้ายถ้ายังดื้อดึงจะเน่าทั้งรัฐบาล

“สุทิน” อวย “นายใหญ่” บารมีล้น

อีกเรื่อง นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เจรจากับชนกลุ่มน้อยแก้ไขปัญหาขัดแย้งในเมียนมาว่า ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ หากจริงก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถือเป็นเรื่องดี การแก้ไขปัญหาในอดีตบางครั้งไม่ได้จบระดับไตรภาคี หรือทวิภาคี แต่จบด้วยภาคเอกชน หรือคนนอกบางคนไปเป็นตัวกลาง คนที่มีบารมีอาจไปช่วยพูดคุย อาจจบได้ เมื่อถามว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย รับทราบด้วยหรือไม่เพราะตามมารยาทการช่วยเจรจาคู่กรณีต้องเห็นพ้อง นายสุทินตอบว่า ไม่ทราบ แต่ถ้าท่านทำจริง เชื่อว่าต้องรู้ทุกระดับ ท่านไม่ใช่คนที่ไม่มีบารมี เป็นอดีตนายกฯ หากคิดจะทำอย่างนั้นคงคุยตั้งแต่หัวถึงหางจนจบ เมื่อถามย้ำว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าควรเป็นหน้าที่หลักที่รัฐบาลต้องดำเนินการ นายสุทินตอบว่า แน่นอนเราทำอยู่ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่ทำ แต่หากมีใครมาช่วยเสริม ก็ไม่เสียหายอะไร

ไทย–ซาอุฯมุ่งกระชับความร่วมมือ

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ดร.มาญิด บิน อับดุลเลาะฮ์ อัลกอเศาะบี รมว.พาณิชย์แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกกระทรวงพาณิชย์ ทั้ง 2 ฝ่ายต่างยินดีที่ความร่วมมือด้านต่างๆ มีผลคืบหน้าเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ฟื้นฟูความสัมพันธ์ ขณะที่ รมว.พาณิชย์ซาอุดีฯยืนยันกระชับความร่วมมือทั้งการค้า การลงทุน ด้านสาธารณสุข พลังงาน และการท่องเที่ยว เป็นต้น ด้านความร่วมมือภาคเอกชน นายกฯยินดีส่งเสริมความร่วมมือในสาขาการเกษตรและปศุสัตว์ ซึ่งไทยมีความเชี่ยวชาญโดยการหารือกับกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (Public Investment Fund : PIF) และ Saudi Agricultural and Livestock Investment Company (SALIC) บริษัทด้านการเกษตรและปศุสัตว์ของซาอุดีฯ ระหว่างเข้าร่วมการประชุมASEAN-GCC ที่ซาอุดีฯ ปีที่ผ่านมา และหวังทั้ง 2 ฝ่ายจะขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวให้ใกล้ชิดมากขึ้น

“เศรษฐา” ดึงกลับกัญชาเพื่อ ปชช.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ กล่าวถึงข้อสั่งการให้มีการแก้ไขกฎกระทรวงสาธารณสุข ให้สันนิษฐานผู้ครอบครองยาเสพติดจาก 5 เม็ดให้เหลือ 1 เม็ดเป็นผู้เสพ และแก้ไขประกาศกระทรวง ดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 จะกระทบกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่ปลดล็อกกัญชาหรือไม่ว่า “ทำไมคำถามที่ถาม ทำไมกระทบกับพรรคร่วม ไม่ถามอะไรที่กระทบกับประชาชนเป็นหลัก เชื่อว่าทั้งพรรค ภท.และพรรคเพื่อไทย หรือคณะรัฐบาล ตัดสินใจทำอะไร เราทำเพื่อประชาชน” เมื่อถามว่าได้คุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท.หรือยัง นายเศรษฐาตอบว่า เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคุยกันเรียบร้อยแล้ว

“หนู” ยืนกราน ภท.ทำเพื่อทุกกลุ่ม

ที่ จ.ภูเก็ต นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกฯประกาศนำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดเพื่อประชาชนว่า นโยบายทุกรัฐบาลเป็นไปเพื่อประชาชนทั้งสิ้น ประชาชนมีหลายกลุ่มที่ต้องดูแล ทั้งแพทย์แผนไทย ผู้ป่วย ผู้ประกอบการ ชาวบ้านที่ต้องการใช้ประโยชน์ตามภูมิปัญญาพื้นบ้าน ล้วนเป็นประชาชน นโยบายของรัฐบาลต้องเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ใช่คิดถึงแต่กลุ่มที่จ้องทำผิดกฎหมายเท่านั้น กัญชาอยู่ในนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อสภาว่า ต้องการใช้ประโยชน์เพื่อสุขภาพและเศรษฐกิจ ถ้าถามพรรค ภท. ยืนยันว่านี่คือแนวทางที่ดีที่สุด เครื่องมือที่จะทำให้การควบคุมมีประสิทธิภาพสูงสุด คือการออก พ.ร.บ.กัญชากัญชง ที่เคยพยายามผลักดันแต่ถูกหักหลัง หากรัฐบาลผลักดันอีกครั้งในรอบนี้คงผ่าน

ชี้ถอยไปที่เดิมผลกระทบอื้อ

เมื่อถามถึงผลกระทบหากนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด นายอนุทินตอบว่า แรกสุดผู้ประกอบการที่เริ่มลงทุนเปิดตลาดไปแล้ว และชาวบ้านที่ใช้รักษาตัวตามภูมิปัญญาดั้งเดิมอยู่ จะได้รับผลกระทบ ทุกวันนี้เทรนด์โลกเป็นไปในทางที่เปิดประตูให้พืชสมุนไพรกัญชามากขึ้น ไม่ควรไปปิดโอกาสผู้ประกอบการไทยด้วยการถอยกลับไปที่เดิม โดยเฉพาะเมื่อเรามีทางเลือกที่ดีกว่า อย่างการออก พ.ร.บ.กัญชา ในฐานะผู้เคยผลักดันนโยบาย แม้วันนี้จะไม่ได้ดูแลโดยตรง ยินดีแลกเปลี่ยนในรายละเอียด เพื่อการตัดสินใจที่รอบคอบ และดีที่สุดสำหรับประชาชน

“ชาญชัย” กางแผนก่อหนี้สับ รบ.

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร “อุ๊งอิ๊งค์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจว่า ในเอกสารแผนการคลังระยะปานกลางปีงบฯ 2568-2571 ฉบับทบทวนโดยคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐปี 2567 ที่รัฐบาลส่งให้สภาฯพิจารณา บ่งบอกว่าพวกคุณกำลังจะสร้างหนี้สาธารณะให้ประเทศ ปี 2567 หนี้คงค้างสาธารณะต่อ GDP จากปี 2566-2570 จะเพิ่มเกือบ 68% หรือ 14,307,506 ล้านบาท แสดงว่า ถึงปี 2571 ที่เป็นรัฐบาลครบ 4 ปี จะมีหนี้สาธารณะเพิ่มอีก 5% อย่าไปแกล้งบอกว่าผู้ว่าการ ธปท.เป็นอุปสรรค ขอให้ดูหลักฐานราชการที่นายกฯเป็นประธาน มีชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็น รมว.คลัง ที่กฎหมายวินัยการเงิน การคลังกำหนดว่าต้องทำแผนไว้ล่วงหน้าที่จะก่อหนี้สาธารณะเพิ่มไว้ก่อนแล้ว อย่าไปโทษ ธปท.ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้เงิน แต่มีหน้าที่ควบคุมเสถียรภาพทางการเงินของชาติให้น่าเชื่อถือ ไม่ให้ประเทศล่มจม ดังนั้นอย่าโทษคนอื่น ขอให้กลับมาทบทวนนโยบายหนี้ใหม่ ประเทศชาติจะไม่เสียหายไปมากกว่านี้

นายกฯจัดคิวทัวร์ดึงนักลงทุน 3 ปท.

เมื่อเวลา 15.14 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียว่า ภารกิจเยือน 3 ประเทศ ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น รอบนี้ ระหว่างวันที่ 15-24 พ.ค.ตารางแน่น เน้นดึงการลงทุนเข้าประเทศ ทริปฝรั่งเศสเป็นข้อริเริ่มโดยประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง จากการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งที่แล้วอยากให้มีกิจกรรม Thailand-France Business Forum ขยายความร่วมมือด้านเอกชนในธุรกิจ เช่น พลังงานอุตสาหกรรมหมุนเวียน ยานยนต์ก่อสร้าง ขนส่ง อาหารและเครื่องดื่ม ส่วนการเยือนอิตาลี เป็นการตอบรับการเชิญของนายกฯอิตาลี ตั้งใจไปขยายความร่วมมือด้านที่เป็นจุดแข็ง และด้านที่เรามีแผนผลักดันตามวิสัยทัศน์ Ignite Thailand 2025 อย่างแฟชั่น Soft Power เทคโนโลยีการเกษตร และอาหาร ยานยนต์ พลังงานสะอาด อวกาศ วิทยาศาสตร์การแพทย์และเภสัชกรรม การเงิน และคมนาคม ส่วนการเยือนญี่ปุ่น โจทย์หลักไปร่วม Nikkei Forum และพบหารือภาคเอกชนในอุตสาหกรรมอาหาร โลจิสติกส์ และการเงินให้มาลงทุนในไทยเพิ่มเติม

“สุดาวรรณ” จูงหนุมานเข้า วธ.

ช่วงเช้าที่กระทรวงวัฒนธรรม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม เข้าปฏิบัติงานที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นวันแรก มีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัด วธ. พร้อมผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ รอให้การต้อนรับ โดยนำมาสคอตหนุมานน้อยเดินจูงมือ น.ส.สุดาวรรณเข้าสู่อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น ก่อนสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ วธ. และเปิดให้ผู้แทนหน่วยงานเข้าแสดงความยินดี นางสุดาวรรณกล่าวว่า เป็นคนรุ่นใหม่มาทำงานด้านวัฒนธรรมไม่มีความกดดัน แต่ขอเวลาทำงานและปรับตัว เพราะมีงานให้ทำหลากหลาย เข้ากระทรวงวันแรกได้ประชุมร่วมกับปลัด วธ. และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัด จะรวมไอเดียและทีมงาน ผลักดันให้เป็นกระทรวงวัฒนธรรมที่กระฉับกระเฉง ตั้งใจมอบนโยบายเน้นการสร้างอัตลักษณ์แต่ละพื้นที่ เพราะมีความพิเศษต่างกัน จะผลักดันทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน สร้างรายได้ในพื้นที่ต่างๆ

ป.ป.ช.โอ่ยึดทรัพย์ “ธาริต” 44 ล.

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่าเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษายึดทรัพย์นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีร่ำรวยผิดปกติให้ตกเป็นของแผ่นดินจำนวน 44,630,426 บาท ขยายผลจากที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายธาริต กรณีร่ำรวยผิดปกติ ยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุด ส่งเรื่องให้ศาลพิจารณายึดทรัพย์ 341,797,811 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2561 ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า ยังมีทรัพย์สินร่ำรวยผิดปกติรายการอื่นที่อยู่ในชื่อบุคคลอื่นอีกจำนวนมาก จึงมีมติไต่สวนเป็นคดีที่สอง มีมตินายธาริตร่ำรวยผิดปกติ รวม 53,512,096 บาท ยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดให้ส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 พิจารณายึดทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จนมีคำพิพากษาดังกล่าว

ริบเงินฝาก–บ้าน–ห้องชุดเกลี้ยง

นายนิวัติไชยกล่าวว่า สำหรับทรัพย์สิน 44,630,426 บาท ของนายธาริตที่ศาลมีคำพิพากษายึดทรัพย์ ประกอบด้วย เงินฝากในบัญชีธนาคารในชื่อบุคคลอื่น 3 บัญชี 18.3 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น โครงการซิตี้เซนส์ ประชาชื่น จ.นนทบุรี มูลค่า 3,162,176 บาท ห้องชุด 2 ห้อง ที่อาคารบ้านเอื้ออาทรประชานิเวศน์ จ.นนทบุรีรวม 505,000 บาท รถยนต์3 คัน รวม 7,386,000 บาท ทองคำแท่ง 8,076,750บาท อาคารชุดเดอะซีเครซ หัวหิน 2 ห้อง รวม 6.2ล้านบาท และที่ดิน ต. มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร 1 ล้านบาท โดยให้ผู้ถูกกล่าวหาส่งมอบเอกสารที่เกี่ยวกับเงินและทรัพย์สิน 44,630,426 บาท พร้อมดอกผลแก่แผ่นดินโดยกระทรวงการคลัง หากไม่โอนให้ถือเอาคำสั่งศาลแทนการแสดงเจตนา หากไม่สามารถโอนทรัพย์สินได้ไม่ว่ากรณีใดๆให้ชดใช้เงิน 44,630,426 บาท หรือโอนทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาตามสัดส่วนของมูลค่าทรัพย์สินที่ขาดอยู่แก่แผ่นดินแทนจนครบถ้วน

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่