คนอื่นดูแลได้ กับน้องสาวสุดที่รักจะแก้ปัญหาให้ไม่ได้นั่นคือคำนิยามที่ “ทักษิณ ชินวัตร” จะต้องหาทางช่วยให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” น้องสาวอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทย
ครั้งหนึ่งสมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรีเคยเดิมพันตำแหน่งเพื่อหวังช่วยให้ “พี่ชาย” ซึ่งหนีคดีอยู่ต่างประเทศ
ด้วยการออกกฎหมายนิรโทษกรรม (สุดซอย) ด้วยการลงมติในตอนตี 4 แม้ไม่สำเร็จแต่ก็ได้แสดงถึงความหาญกล้าให้ปรากฏ
กลับกันเมื่อตัวเองได้กลับเมืองไทยและมีชีวิตที่ปลอดภัยกับครอบครัวดีแล้ว แต่น้องสาวยังกลับบ้านไม่ได้
ก็ย่อมเป็นห่วงเป็นใยตามธรรมดา
ล่าสุดเขาเปิดเผยที่เชียงใหม่บ้านเกิดว่า ปีหน้าจะพาน้องสาวกลับมาไหว้พระธาตุดอยสุเทพร่วมกัน
“ตั้งใจว่าจะให้กลับมาเดือนตุลาคมปีนี้”
นี่เป็นข้อมูลสดๆร้อนๆถึงความเป็นไป
พร้อมกับเปิดเผยว่า กรณีของ “ปู” ไม่ยุ่งยากเหมือนกรณีของเขา กำลังหาวิธีอยู่ว่าจะทำอย่างไร แต่จะหาวิธีการให้เร็วที่สุด
“เพราะเขาอยากกลับมาเร็วๆ”
เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีที่กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เป็นนิมิตหมายอันดีที่จะเดินทางกลับประเทศไทย แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ประสานมายังรัฐบาล เชื่อว่าทุกกระบวนการเป็นไปตามกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อนแต่ต้องทำตามขั้นตอนและเป็นไปตามนักโทษการเมืองอื่นๆ อยากให้กลับมาเพราะนิมิตหมายอันดีประเทศจะได้เดินไปข้างหน้าได้”
ก็คงเป็นอย่างนั้นกระมัง เพราะนายกรัฐมนตรีต้องดูแลรับผิดชอบอยู่แล้ว ยิ่งออกตัวอย่างนี้เท่ากับจะบอกว่าทางสะดวกผ่านตลอด
เป็นภารกิจอย่างหนึ่งไม่ต่างกับการที่ “ทักษิณ” กลับเมืองไทยเพราะเมื่ออำนาจรัฐไฟเขียวเสียอย่าง
...
อะไรที่ว่ายากก็ง่ายไปหมด
ปัญหาก็คือจะกลับมาด้วยวิธีการไหน?...เท่านั้น
เพราะเคสของน้องสาวนั้นต่างกับเคสของพี่ชาย โดย เฉพาะอายุยังน้อยกว่าทำให้เงื่อนไขไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยเท่าใดนัก
ช่องทางหนึ่งที่ก่อนหน้านี้เคยมีการพูดถึงกันในช่วงหลังจากที่ “ทักษิณ” ได้พักโทษใหม่ๆ คือการออกระเบียบว่าด้วยการติดคุกนอกเรือนจำ
ซึ่งกรมราชทัณฑ์กำลังพิจารณาเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และคุณสมบัติ
วิธีนี้เป็นช่องทางที่ง่ายที่สุดคือ เมื่อเข้ามาแล้วไม่ต้องเข้าเรือนจำแต่สามารถพักอาศัยอยู่ที่บ้านหรือสถานที่ที่กำหนดได้
ไม่ต่างกับการพักโทษของพี่ชาย!
ก็ต้องดูว่าจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์อย่างไรสำหรับนักโทษในลักษณะนี้ คือติดคุกโดยไม่ต้องเข้าเรือนจำ
แน่นอนว่าเรื่องนี้คงจะทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองได้เพราะจะถูกมองว่ารัฐใช้อำนาจให้ “อภิสิทธิ์” แก่นักโทษพิเศษ
ไม่ต่างไปจากกรณีของ “ทักษิณ”
พูดง่ายๆคือ มารอยเดิมเพียงแต่ปรับรูปแบบใหม่เท่านั้น
นั่นก็หมายความว่าช่วงเวลานั้นรัฐบาลต้องมีความมั่นคงและแข็งแกร่งด้วย!
“สายล่อฟ้า”
คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม