“The only” ชื่อนี้มีความหมาย แฝงนัยโคตรล้ำลึกว่า “หนึ่งเดียว” “สิงโต” คือสัญลักษณ์ของ “อำนาจราชสีห์”

รวมความตามท้องเรื่อง “ทักษิณ ชินวัตร” คือ “หนึ่งเดียว” ในหล้าที่สร้างตำนานบทใหม่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เป็นอดีตผู้นำที่โดนโค่นอำนาจลี้ภัยไปต่างแดน

แถมได้กลับบ้านแบบเท่ๆโดยไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว

“ทักษิณ” เพียงผู้เดียวที่ทำได้ ภายใต้บริบท “ไทยแลนด์โอนลี่” เกมอำนาจและผลประโยชน์การเมืองแบบไทยๆประเทศเดียวในโลก

“สิงโตขาว The only” นี่แหละคือ “ตัวตน” ของ “นายใหญ่” แห่งตระกูลชิน ผู้ไม่เคยห่างวังวนอำนาจ

ช็อตน่ารักๆแต่แฝงเหลี่ยม “อหังการ” อดีตผู้นำมุ่งหน้าขึ้นบ้านเกิดจังหวัดเชียงใหม่ จัดโปรแกรมพาลูกหลานตัวน้อยๆไปเที่ยวสวนสัตว์ เดินทางไปเยือนไนท์ซาฟารี ล็อกคิวได้สิทธิ์ตั้งชื่อลูกสิงโตขาวเกิดใหม่

ณ จุดที่ “ทักษิณ” สะท้อนความมั่นใจ เขาคือ “ราชสีห์ติดปีก”

หลุดพ้นพันธนาการ เริ่มย่างสามขุมได้อย่างอิสระเสรี ตามฟอร์มเดิมๆภาพเก่าๆกำลังฟื้นกลับมา อารมณ์แบบที่อดีตนายกฯพูดดังๆ

ออกอากาศฟาดหางไปถึงเสียงนกเสียงกาในขบวนการต่อต้านบอกคนที่ไม่ชอบหน้าให้ต่างคนต่างอยู่

สีหน้า แววตา น้ำเสียง แสดงให้รู้เลยว่า ไม่เห็นตัวตึงสลิ่ม กปปส.อยู่ในสายตาไม่ให้ราคาขาใหญ่ม็อบพันธมิตรเสื้อเหลือง แนวต้านที่อ่อนล้าโรยแรงไปตามสังขารและกาลเวลา

ถ้าแน่จริงคงไม่ปล่อย “ทักษิณ” ร่อนลงรันเวย์ดอนเมือง เช็กอินชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ กลับไปตีพุงคฤหาสน์จันทร์ส่องหล้ามาไกลถึงเชียงใหม่

...

ตระเวนชิมข้าวซอย ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เจ้าประจำอย่างสบายอกสบายใจ รำลึกความหลังครั้งเก่ากับเพื่อนสมัยเรียนมัธยม เที่ยวชมเมือง แอ่วกาดหลวง โดยมีกองเชียร์เสื้อแดงถือป้ายไวนิลรอรับ คนเก่าคนแก่ แม่ยก พ่อยก ห้อมล้อมหน้าหลัง

ตามฉากที่ “เถ้าแก่ใหญ่” ชิงเคลมนิ่มๆเลยว่า เชียงใหม่ยัง “เหมือนเดิม”

แต่ที่ไม่เหมือนเก่า เดาทางจากอาการ “ทักษิณ” แทบไม่เอ่ยถึงเลย ก็คือสถานภาพฐานที่มั่นทางการเมือง เมืองหลวงของตระกูลชินที่เปลี่ยนแปลงไป

ยี่ห้อ “ทักษิณ” ไม่เข้มขลัง ไม่ชัวร์แบบ “ตีกิน” ได้เหมือนอดีต

เหมือนละไว้ในฐานที่เข้าใจ จำใจรับสภาพตามหลักฐานในการเลือกตั้งรอบที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้ สส.เชียงใหม่แค่ 2 เก้าอี้ จาก 10 เขตเลือกตั้ง โดนทีมเด็กก้าวไกล ถล่มกระจุยกระจาย

และ “เถ้าแก่ใหญ่” หวังกลับมากู้กิจการกงสีบ้านเกิดก็ไม่แน่จะง่าย

ตามเงื่อนไขสถานการณ์แบบที่ “น้องกุ้ง” ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต สส.เชียงใหม่ เบอร์ใหญ่ของเพื่อไทย แหกค่ายไปสวมเสื้อทีมสีส้ม

อารมณ์คนผิดหวังอุดมการณ์ ตอกย้ำ “ทักษิณ” เสื่อมมนต์ขลัง

ภาพมันฟ้องจากอาการ “สะดุ้ง” หวั่นไหว ตามปรากฏการณ์ “หนุ่มทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล สลับคิวเปลี่ยนตั๋วมุ่งหน้าขึ้นจังหวัดเชียงใหม่

จังหวะประชันกระแส ทีมเด็กวัดเรตติ้งกับทีมคนแก่ เล่นเอาเพื่อไทยนั่งไม่ติด แบบที่ “โทรโข่งหมอไก่ชน” ทีมโฆษกรัฐบาลต้องดาหน้าออกมาเหน็บ “ตัวพ่อด้อมส้ม” ถล่มหิวแสง แย่งซีนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ที่ปักหมุดเชียงใหม่

แต่นั่นก็เสียงดังไม่พอกลบกระแสในโซเชียลแชร์กันกระหึ่ม

จุดชนวนเปรียบเทียบ “พิธา” ลุยดับไฟป่า กับฉากเฮฮาปาร์ตี้ของพรรคเพื่อไทย โชว์พลัง “3นายกฯ” ไล่ตั้งแต่ “ทักษิณ-เศรษฐา-สมชาย วงศ์สวัสดิ์”

ภาพย้อนแย้งพวก “สุขนิยมในอำนาจ” กับคน “คลุกฝุ่นลุยไฟ”

ยังมีช็อตแฟชั่น “พ่อ-ลูก” สแกนเครื่องประดับ “ทักษิณ” กับ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ทั้งนาฬิกา เสื้อ กางเกง รองเท้า กระเป๋า รวมแล้วเป็นร้อยล้าน เทียบกับเฟอร์นิเจอร์แบบบ้านๆของ “หนุ่มทิม” ที่ใส่เสื้อยืด กางเกงผ้าร่มลุยไฟ หมวกแก๊ปเท่ๆ นาฬิกายี่ห้อตลาดๆรวมแล้วไม่ถึงหมื่นบาท

โคตรเซียนการตลาดตัวพ่อยี่ห้อ “ทักษิณ” เจอมุกเด็กเขี้ยวดิจิทัล

“ทักษิณ” เป็นผู้นำจิตวิญญาณ สถานะผู้มีบารมีเหนือพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลก็มี “พิธา” เป็นผู้มีต้นทุนทางการเมืองสูง คะแนนนิยมทะยานลิบลิ่ว สถานะตัวเรียกแต้มให้กองทัพส้ม

“นายใหญ่” เป็นดุจราชสีห์ “หนุ่มทิม” ก็เหมือนอินทรีหนุ่มติดปีก ลอยลมบน ยุบพรรค ตัดสิทธิการเมือง ล็อกยังไงก็ไม่อยู่ สถานะไหนก็ช่วยทีมได้

“พิธา” คือ “the one” ผู้ท้าทาย “the only” อย่าง “ทักษิณ”.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน